Day-7 : ex boyfriend
seungyounx dohyon
“อ้าว มึงยังไม่ลบรูปพี่ชนม์อีกหรอ”
โด่งดังแทบจะหันขวับไปในทันทีที่ได้ยินไอ้เพื่อนจอมสอดนามว่า‘เพียว’โพล่งขึ้นมากลางกลุ่ม ขณะที่มือเล็กๆของมันก็กำลังไถแกลลอรี่ในโทรศัพท์เขาอย่างตื่นตาตื่นใจ
“เพียวมึงเปิดเหี้ยไรเนี่ย!”
เขาร้องเสียงหลงพลางคิดยื้อยุดแย่งโทรศัพท์คืนจากยอดนักเผือกของกลุ่มแต่เพียวมันก็ไวเหลือเกินที่พาร่างเล็กๆ ราวต้นหลิวพลิ้วลมของมันเอี้ยวตัวหลบหนีไปหลบอยู่หลังนายย้งเสียอย่างนั้นนายย้งเห็นเพื่อนตัวเล็กมาหลบหลังตัวเองขนาดนี้ก็หันมามองเขาดุๆ ทันที
อะไรกันนี่
กูกำลังโดนละเมิดความเป็นส่วนตัวนะ QAQ!!
เพียวที่ไถโทรศัพท์ของเขาอย่างเมามันแย้มรอยยิ้มคิกคักที่ฟังยังไงก็น่าหงุดหงิดจนอยากพรวดไปตบหัวสักทีสองทีแต่ติดอยู่ที่นายย้งเอาแต่จ้องเขาอย่างกับเป็นบอดี้การ์ดของเพียวโด่งดังคนนี้จึงทำได้แต่ยืนตัวลีบน้ำตาตกซดใบบัวบกแก้ช้ำในที่เพื่อนมองทะลุถึงข้างในเห็นไส้เห็นพุงไปหมดแล้ว
“ไหนมึงว่าเลิกกับพี่เขาแล้ว” หลังจากไถดูรูปจนพอใจเพียวก็เริ่มเค้นคำถามทันที
โด่งดังตั้งใจว่าเขาจะไม่พูดอะไรทั้งนั้นเพราะพี่มอสเคยสอนเขาไว้ว่า ‘คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูดคุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด เพราะทุกคำที่พูดจะเป็นหลักฐานมัดใจคุณ!’ แต่เพราะเพียวก็คือโคเพียวยอดนักเผือกเมื่อร่วมมือกับย้งดี้การ์ดคู่หูของตัวเองแล้วโด่งดังคนนี้ก็จำต้องกล้ำกลืนน้ำตาตอบออกไปเสียงแผ่วว่า
“ก็เลิกแล้ว..”
“เลิกอะไรถึงยังมีรูปเขาไว้” ย้งว่า
เลิกแล้วจะเก็บรูปไว้ไม่ได้หรอฟ่ะ! QAQ
ข้างบนนั้นก็ทำได้แค่คิดในใจเท่านั้นล่ะครับขืนตอบคู่หูนรกออกไปอย่างนี้มีหวังว่าโด่งดังคนนี้จะแย่แน่ๆ แย่หนักหนาเอาการความจริงที่เขายังเก็บรูปพี่ชนม์ไว้น่ะ.. ก็เพราะ.. ก็เพราะ..
ก็เพราะ!!!
“กูยังคิดถึงเค้าไง” QAQ!!!
ได้ยินคำตอบเป็นที่น่าพึงพอใจแล้วคู่หูนรกย้งเพียวก็เลิกคาดคั้นทันใด ตามมาด้วยฝ่ายฮีลลิ่งอย่างอึ่งกับชามที่เข้าชาร์จเขาทันทีโด่งดังหันไปซบเพื่อนสายฮีลลิ่งแล้วร้องไห้กระซิกๆเรียกร้องความเห็นใจและความยุติธรรมจากคู่หูแฝดนรก!
“เลิกกันมาจะสามปีละนะถามจริง” เพียวว่าท่าทางตกใจ
พูดแล้วจะร้องไห้
แต่วันที่เลิกกันนั้นเป็นความใจกากปากเก่งของเขาเอง เขาคนเดียวเขาล้วนๆ ด้วยฮอร์โมนวัยว้าวุ่นของตัวเองเลยโด่งดังคนนี้เลยพลั้งปากบอกเลิกพี่ชนม์แฟนคนแรกที่อายุห่างกันแปดปีไป แล้วนายพี่ชนม์มันก็ไปแล้วไปลับไม่หวนกลับมาด้วยนะ(ಥ﹏ಥ)
เวนเน้ย รั้งกันหน่อยได้ไหมนายพี่ชนม์
“ถึงว่า.. โด่งถึงไม่คบใครเลย”อึ่งว่าพลางซับหัวของตาตัวเองอย่างเห็นใจในความอาภัพของเขา
...
เขาควรจะซึ้งใจใช่ไหม?
เนื่องจากว่าอึ่งกับชามเป็นเพื่อนที่ได้รู้จักกันตอนเรียนมหาลัยแล้วต่างจากคู่หูนรกย้งเพียวที่เห็นตับไตไส้พุงกันมาแต่ละอ่อนน้อยวีรกรรมความหน้าด้านหน้าทนตามจีบคนที่อายุมากกว่าตัวเองแปดปีตอนอายุ 12 จึงไม่ได้ถูกเล่าขานออกไป ถ้าหากว่า..
เพียวมันจะไม่จับเข่านั่งเล่าเรื่องเขาให้เพื่อนฟังกลางคลาสเรียนแบบนี้!!
“คืองี้นะ โด่งมันน่ะมีแฟนตั้งแต่มอสอง”
“!!!!!!!!!!” อึ่ง&ชาม’s reaction
“แล้วเลิกกันตอนมอห้า” ย้งว่าเสียงเรียบ
“!!!!!!!!!!” อึ่ง&ชาม’s reaction
โด่งดังมองรีแอคชั่นของเพื่อนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจะว่ายังไงดีคือเรื่องเล่าเท่าขี้มดแค่นี้กับรีแอคชั่นอลังการเหมือนดูฉากระเบิดภูเขาเผากระท่อมของอาหลองนั่นคืออะไร! ฮัลโหล!!คนเราควรจะมีรีแอคชั่นอย่างมีวิจารณญาณนะเพิ่ลๆ!!!
“จีบเองบอกเลิกเอง สุดยอดไปเลยครับโด่ง” T---T อึ่งว่าพลางปาดน้ำตา
“ว่าแต่ทำไมเลิกกันล่ะครับ” ชามถามขึ้นอย่างสงสัย
เพียวกับย้งหันขวับมาทันใด ประหนึ่งรอดูว่าเขาจะพูดไหมเพราะถ้าโด่งดังไม่พูด เพียวกับย้งก็จะพูดแทนนั่นเอง ซึ่งความจริงแล้วโด่งดังก็ไม่อยากให้ใครมารู้เหตุผลที่เขาเลิกกับนายพี่ชนม์สักเท่าไหร่หรอกนะเพราะมันเป็นเหตุผลที่งี่เง่าสุดๆย้อนเวลากลับไปได้เขาจะกลับไปตีตัวเองตอนนั้นด้วยซ้ำ T---T
“ก็คือว่า-..” เพียวอ้าปากเกริ่นขึ้นมา แต่ก็ช้ากว่าเขาคนนี้ไปมาก!
“ใครเล่าว่ากูเลิกกับแฟนยังไง กูจะปล่อยเบลอไม่ยอมติวให้เธออีกต่อไปเลย!”
โด่งดังประกาศประกาศิตอย่างฉับพลันเสียงดังฟังชัดด้วยศักดิ์ศรีของผู้ที่ได้ชื่อว่า ‘TOP1’ ของคลาสนี้(อ้างอิงจากผลคะแนนสอบมิดเทอมล่าสุดที่ตรวจโดยอาจารย์อิ๊บ) ทั้งคลาสก็ได้ยินเสียงเขาอย่างชัดเสียจนรอบตัวเงียบกริบและในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ทุกสายตาก็พุ่งตรงมาที่เขาเพียงผู้เดียว
ชิบหอง กูมาเสียงดังอะไรในคลาสเรียน 60 คนเอ่ย..
โด่งดังยิ้มแห้งๆก่อนตวัดสายตามองคู่หูนรกบวกสองเป็นสี่แล้วจดบัญชีคาดโทษไว้ในใจ ยังดีนะที่ทั้งคลาสนี้มีแต่เพื่อนในสาขาวิชาเท่านั้นไม่อยากนึกเลยว่ามันจะบรรลัยขนาดไหนถ้าอาจารย์เข้ามาได้ยินเข้าถือเป็นโชคดีของเขาไป
แต่นายเพื่อนชามกลับขยับปากมุบมิบพูดอะไรสักอย่างสายตงสายตาดูเลิ่กลั่กไปหมด โด่งดังละอยากจะถามว่าอมอะไรไว้เพื่อนชาม! พูดออกมาสิ! พูดออกมา!!! ノಠ_ಠノ
นอกจากชามแล้ว โด่งดังก็ยังพบว่าทั้งคลาสต่างจับจ้องเขาด้วยสายตาที่เห็นอกเห็นใจ
What???????
น นี่อย่าบอกนะว่า!!!
“นักศึกษาที่ยังยืนอยู่คนนั้น..ไม่ทราบว่าเห็นที่นี่เป็นตลาดหรือครับ”
เสียงเย็นเยียบฟังแล้วดุดันประหนึ่งร็อตไวเลอร์ดังขึ้นผ่านลำโพงของห้อง
ชิบหอง.. อาจารย์เข้าแล้ว..
ม่างเง้ยT---T
โด่งดังหลับตาลงตั้งสติเมื่อลืมตาขึ้นมาเขาเห็นสายตาทั้ง 59 คู่กำลังจ้องมาอย่างให้กำลังใจพูดเลยนะว่าเขาไม่นึกว่าอาจารย์วิชาภาษาและวัฒนธรรมที่มารับช่วงต่อจากอาจารย์อิ๊บจะโหดจัดปลัดบอกเบอร์นี้T---T
ในสถานการณ์ที่เรากำลังเป็นที่สนใจของประชาชีนั้นท่านควรทำอย่างไรให้พวกเขาเลิกสนใจ?
ก. ร้องไห้
ข. ขอเข้าห้องน้ำ
ค. แกล้งผีเข้า
ง. อธิษฐานเอานะ
T---T
“จะเริ่มการเรียนได้หรือยังครับถ้ายังไม่พร้อมก็ต้องขอเชิญออกนอกห้องนะครับ เพราะผมถือว่าได้ทำข้อตกลงกับพวกคุณในชั่วโมงแรกของคลาสแล้ว”
ม่างเง้ย ข้อตกลงอะไรวะQAQ!!!!
ชั่วโมงแรกของคลาสวันนั้นโด่งดังคนนี้ก็ดันท้องเสียวิ่งเข้าห้องน้ำวุ่นแล้วไปจบที่นอนเปื่อยในตึกพยาบาล พูดแล้วก็เศร้าวันนั้นโดนสั่งห้ามกินหลายอย่างเลยเพราะช่วงท้องเสียคุณพยาบาลไม่ให้ทานอะไรเข้าไป!ทำไมนะทำไม โด่งดังคนนี้ถึงต้องเจอแต่เรื่อง ‘ร้า ย ร้ า ย’ T—T!
“หรือผมต้องมานั่งฟังเรื่องคุณกับแฟนเก่าคุณก่อนครับ”
อาจ๊านT—T พูดมาขนาดนี้กูจะกล้านั่งเรียนไม๊!!
อาจเพราะเพียวกับย้งสงสารเลยเตะตัดขาโด่งดังคนนี้อย่างว่องไวและดึงให้เขานั่งลงเรียนโดยพลันฮือ กุขอบคุณพวกมึงนะเพื่อนเวน อิเหี้ยเพื่อนแท้ เพื่อนตาย เพื่อนไว้ลายเพื่อนสู้ๆ!
“อิโด่งมึงตั้งสตินะ” เพียวกระซิบบอกเขาที่ยังคงก้มหน้าก้มตาไว้อาลัยกับชะตากรรมของตัวเองในวันนี้โด่งดังแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความอับอายปนสมเพชตัวเอง ม่างเง้ยT—T
แต่ก็ซึ้งใจว่ะ เพื่อนเป็นห่วงเราขนาดนี้T—T
“โด่งอยากแกล้งผีเข้าไหม” ย้งถาม
โด่งดังขมวดคิ้วกับข้อเสนอแนะของนายย้ง ถามว่าเขาอายมากไหมก็คือกูก็อายนะที่มีโมเม้นแบบน่าอายในคลาสเรียนงี้แต่ไม่ต้องถึงขั้นใช้มาตรการสูงสุดหรือเปล่าเอ่ยเพื่อนย้งโด่งดังได้แต่สบสายตาตอบย้งไปผ่านทางกระแสจิต
... ย้ง’s reaction
ถือว่าย้งรับรู้และเข้าใจแล้วก็แล้วกันนะเอวฺรี่วัน
เอาล่ะ.. ต่อให้อายแค่ไหนก็คงต้องอายคอนแทคกับอาจารย์คนใหม่ไว้บ้างจากนั้นก็ค่อยคิดหาหนทางล้างบาปของตัวเองด้วยการประพฤติตัวเป็นนักศึกษาที่ดีเผื่อความผิดในครั้งนี้จะถูกชะล้างให้เบาบางลงไปบ้า-..
“...”
“...”
ทันทีที่ได้ฤกษ์หันไปสบสายตาอาจารย์ในรายวิชานี้แล้ว..ก็เกิดการเดดแอร์ระหว่างเขากับคนที่อยู่ในตำแหน่งอาจารย์ในทันที โด่งดังสบสายตาคมกริบหลังเลนส์แว่นตาปริบแม้จะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อเช็คว่าเขาเกิดอาการหลอนไปเองแบบทุกทีหรือเปล่าแต่ก็ปรากฏว่าคนที่อยู่ตรงนี้คือคนจริงๆ ไม่ใช่ภาพหลอนจากสมองของเขาแต่อย่างใด
“...”
“...”
เขาว่าเขาเริ่มเข้าใจดายอิ้งแมสเสจจากย้งเพียวแล้วว่าหมายถึงอะไร
เพราะอาจารย์ที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ก็คือนายพี่ชนม์แฟนเก่าเขาไงว้อย!!!!!
โด่งดังควักยาดมจากมือนายอึ่งมาสูดจนแทบจะทิ่มรูจมูกของตัวเองบางทีเขาอาจจะสร้างภาพหลอนซ้อนกันอีกทีก็ได้ยาดมตราโป๊ยเซียนเพื่อนยากต้องดึงสติเขากลับมาได้แน่ๆ!
แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่านายพี่ชนม์แฟนเก่าของเขาที่เลิกรากันไปเมื่อสามปีก่อนกำลังยืนอยู่หน้าดุเหมือนหมาในมาดของอาจารย์ของเขาในตอนนี้ม่างเง้ย อะไรจะโลกกลมขนาดนี้วะ บทจะหายก็หายไปตลอดสามปี บทจะเจอก็เจอกันง่ายๆ อย่างนี้เลยนะQAQ!!!
แกล้งชักตอนนี้จะทันไหมวะ!
“ไม่น่าทันนะ” ย้งหันมาตอบเสียงเรียบ
“...”
อิย้ง อิกระแสจิตไม่คงที่ อิคนไม่มั่นคง!!!
ที่น่ากลัวกว่านั้น..
อาจารย์นายพี่ชนม์มันเข้าห้องตอนไหน!!! ได้ทันฟังประโยคกากๆ จากปากเขาคนนี้หรือไม่!!!
“เต็มสองหู” ย้งว่าเสียงเรียบ
“...”
โอเค..
ข้าพเจ้าขอลาทุกคนเพียงเท่านี้
แอ่ก!
เรื่องเศร้าวันนี้คือโด่งดังคนนี้ไม่สามารถถอนรายวิชานี้ได้หลังจากที่ได้ก่ายหน้าผากคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็ดีไปปรึกษาอาจารย์พ่อแล้วก็ดี สอบถามฝ่ายทะเบียนแล้วก็ด้วย เขาจึงตัดสินใจว่าจะไม่ถอนรายวิชานี้กลางคันเนื่องจากมันเป็นรายวิชาบังคับและเขาก็เรียนไปกลางเทอมแล้ว ถึงถอนรายวิชาไปก็ต้องลงเรียนใหม่ในปีการศึกษาหน้า ทั้งนี้มันก็หมดเวลาถอนรายวิชาในเว็บไซต์มหาวิทยาลัยแล้วด้วยถ้าโด่งดังคนนี้ยืนกรานประสงค์จะถอนรายวิชานี้จริงๆ ฝ่ายทะเบียนก็แนะนำมาว่าเขาต้องไปขอลายเซ็นจากอาจารย์ในรายวิชา(ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจากนายพี่ชนม์) และลายเซ็นอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างอาจารย์พ่ออีก ดำเนินเอกสารกันวุ่นวายไปหมด
ทำไมนะทำไม..
ทำไมจารย์อิ๊บต้องลาคลอดตอนกลางเทอมแล้วอาจารย์นายพี่ชนม์ต้องมารับช่วงต่อด้วย
บ้าบอที่สุดT—T
“น่าสงสารโด่งเขานะครับ.. จู่ๆได้กลับมาเรียนกับแฟนเก่าเฉยเลย” T---Tอึ่งว่าพลางปาดน้ำตา
“ขอบใจที่สงสารกูกันนะเพื่อน..” ว่าจะพูดอะไรซึ้งๆอีกสักประโยคถ้าสายตาไม่บังเอิญเหลือบไปเห็นร่างสูงโปร่งของ ‘อาจารย์คนนั้น’ เสียก่อน
“อ้าวโด่ง มุดใต้โต๊ะทำไมครับ”
อิเพื่อนอึ่งT—T มึงจาแหกปากทำไมเอ่ย
‘อาจารย์คนนั้น’ ชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อยนัยน์ตาคมกริบหลังเลนส์แว่นปรายมองทางนี้สักพักราวกับว่ากำลังชั่งใจ ไม่นานเจ้าของเรียวขายาวก็ก้าวเดินต่อไปโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักประโยคเดียว
เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย.. ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่-.. แค่กๆ
“โหโด่ง เขาดูเย็นชามากเลย” T---T อึ่งว่าพลางกัดผ้าเช็ดหน้าอย่างหวาดหวั่นชามดึงผ้าเช็ดหน้าออก สีหน้าแลดูจะรังเกียจเล็กน้อยถึงปานกลางจนถึงมากและมากที่สุด!
“อย่าเที่ยวกัดผ้าเช็ดหน้าใครต่อใครไปทั่วสิอึ่ง”
โด่งดังทิ้งหัวซบลงบนไหล่นายอึ่งด้วยหัวโล่งโปร่งคิดไม่ออกเลยว่าหลังจากนี้เขาจะทำตัวอย่างไรตอนเข้าเรียนในวิชานี้ที่เรียนสัปดาห์ละวันก็จริงแต่ก็ยาวไปสามชั่วโมงจุกๆทั้งยังมีเรื่องพฤติกรรมชอบนั่งหน้าสุดเพื่อจะได้จ้องหน้าจอสะดวกและชอบจ้องหน้าอาจารย์ตอนเลคเชอร์นั่นอีกถ้าย้ายไปเรียนข้างหลังเขาต้องเรียนไม่รู้เรื่องแน่ๆ
ม่างเง้ย หรือแค่เรียนๆ ไปไม่ต้องจ้องหน้าอาจารย์นายพี่ชนม์ดีวะให้เขาเป็นแค่ข้อยกเว้นก็พอ
แต่ไม่ได้ป่ะถ้าไม่มองหน้าอาจารย์ตอนกำลังเลคเชอร์แล้วโด่งดังรู้สึกเหมือนรับสารออกมาไม่เต็มที่ทั้งดูเหมือนไม่ได้มีรีแอคชั่นต่อการสอนของอาจารย์อีก เขากลัวอาจารย์เสียกำลังใจT—T
ขณะที่กำลังคิดวุ่นวายเกี่ยวกับการเรียนของตัวเองในสัปดาห์ถัดไปเพียวก็โพล่งขึ้นมาว่า
“ถ้ากูเป็นอาจารย์พี่ชนม์กูก็เย็นชาอ่ะ เผลอๆ ให้ติดเอฟแม่ง”
โด่งดังตวัดสายตามองเพื่อนตัวเล็กอย่างท้อแท้
นายพี่ชนม์คงแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกละน่า.. ใช่ไม๊ T—T
“แบบนี้โด่งต้องเล่าให้ฟังแล้วนะครับว่าทำไมถึงเลิกกัน”อึ่งว่าพลางสูดน้ำมูกอีกฟึ้ดหนึ่ง
โด่งดังมองเพื่อนๆที่ใคร่สงสัยในเรื่องราวความเป็นมาระหว่างเขากับนายพี่ชนม์(ที่ตอนนี้อัพเกรดเป็นอาจารย์ชนม์) ความจริงมันก็น่าอายเล็กๆที่ต้องมาเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง
“ก็อย่างที่เพียวกับย้งเล่าว่ากูเป็นแฟนนายพี่ชนม์ตอนกูอยู่มอสองจริงๆ..”
“มึงต้องบอกด้วยสิว่ามึงตามจีบเขาตั้งแต่ปอหก” เพียวแย้ง
“!!!!!!!!!!” อึ่ง&ชาม’s reaction
“...”
“ตอนนั้นพี่ชนม์อยู่ปีสอง” นายย้งว่า
“เป็นพี่รหัสพี่เจนพี่ชายโด่งมันด้วย” เพียวเสริม
“!!!!!!!!!!” อึ่ง&ชาม’s reaction
“...”
สองคู่หูนรกย้งเพียวนี่มันเข้าขากันดีเหลือเกินนะ
โด่งดังกระแอมไอเล็กน้อยพลางหันหน้าหนีสายตาที่ตกอกตกใจสะเทือนอารมณ์ประหนึ่งคุณแม่ที่รู้ความจริงที่ลูกของตัวเองกำลังปิดบังมาตลอดของอึ่งกับสายตาที่สุดแสนจะเหลือเชื่ออัศจรรย์ล้ำโลกของชามส่วนคู่หูย้งเพียวก็ได้แต่ยิ้มแย้มแล้วส่งสายตาบอกว่าเขา ‘ไม่ต้องเกรงใจ เพื่อนกันๆ’
...
มีหน่วยงานไหนพอจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโด่งดังคนนี้ได้บ้าง..
“แล้วทำไมเลิกกันละครับ” ชามเอ่ยถามขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว
“ข้ามขั้นไปหรือเปล่าครับชาม!” T---T!! อึ่งว่าพลางกลั้นน้ำตาไว้
ชามมีสีหน้าเหนื่อยหน่าย
“เอาแค่ใจความสำคัญก็พอครับ”
คราวนี้ทุกคนเงียบแล้วหันมามองเขาเป็นตาเดียวกัน โด่งดังเลิ่กลั่กเล็กน้อยเขาคิดว่าเหตุผลที่เลิกกันไปจริงๆ แล้วนั้นค่อนข้างมาจากหลายปัจจัย..โด่งดังเองก็ไม่รู้ว่าควรนำเหตุผลข้อไหนมาแจกแจงให้เพื่อนฟังดีว่าทำไมเขาถึงบอกเลิกนายพี่ชนม์ไปทั้งๆ ที่ก็เป็นเขาอีกเหมือนกันที่เป็นฝ่ายจีบนายพี่ชนม์ก่อนด้วยซ้ำ
“เคยรู้สึกเหมือนเราพยายามอยู่คนเดียวป่าววะ..ตอนนั้นคงคิดแบบนั้นมั้ง”
เขาตอบออกไปแล้วหัวเราะแฮะๆ ออกมาแก้เก้อย้งเพียวอึ่งชามมองเขาเงียบๆ ไม่ได้พูดแซวเล่นอย่างทุกทีนั่นมันทำให้โด่งดังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จนเขาต้องอธิบายเพิ่มขึ้นมาอีกว่า
“แล้วก็..น่าจะเป็นเรื่องวุฒิภาวะความต่างของวัยด้วย.. นิสัยก็ต่างกัน..มันเลยไปไม่รอดมั้ง”
อึ่งมองหน้าเขานิ่งก่อนจะพรวดเข้ามากอดเข้าพร้อมน้ำตาที่ไหลเป็นสาย
“โฮฮ ทำไมโด่งถึงน่าสงสารขนาดนี้ครับ อะฮึกพึ้กT^T!!”
ขอโทษนะ เสียงสะอื้นแบบนี้ใครมันเป็นคนคิดวะ
โด่งดังหัวเราะออกมา
“ช่างเหอะ เลิกมาสามปีแล้ว”
“แต่มึงไม่เคยลบรูปเขาเลยนะ” ย้งว่าเสียงเรียบ
“...” โด่งดังเงียบไป
นายย้งนี่มันก็พูดจี้ใจคนเก่งเหลือเกินนะ
เขาไม่ค่อยอยากจะยอมรับเท่าไหร่ว่าเป็นเขาเองที่หมา แม้จะเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนเองแต่ก็เป็นฝ่ายที่ร้องไห้หนักเองจนน้ำหนักลดไปสองขีดเขาร้องไห้เหมือนหมา คิดแล้วก็ทุเรศลูกกะตาจริงๆน่าจะร้องไห้ออกมาให้เป็นผู้เป็นคนสักหน่อย เฮ้อ
อึ่งที่ตอนนี้รับบทเป็นแม่นกคอยกางปีกปกป้องลูกตัวน้อยก็โพล่งขึ้นฉับพลันจนย้งที่ปกติมักมีอารมณ์และสีหน้าราบเรียบเป็นไม้บรรทัดยังต้องสะดุ้งตกใจ
“หยุดเลยครับ! จะให้โด่งที่น่าสงสารต้องดูน่าสมเพชเวทนาขนาดไหนครับผมน่ะ!!! จะไม่สนับสนุนให้โด่งต้องไปตามง้ออาจารย์เองหรอกนะครับ!บอกเลิกเขาก่อนแล้วกลับไปจีบเขาใหม่นี่มันหมาสิ้นดี! หมาตายรังด้วย!!!!”
ไม่ต้องย้ำก็ได้ไหมนายอึ่ง ได้ยินเต็มสองหูแล้วว่ากูมันหมา โฮกก T—T
“งั้นต้องลบรูปเขาดิวะ” เพียวว่า
โด่งดังส่ายหน้าเขาคิดว่ามันไม่มีเหตุผลที่เขาต้องลบรูปนายพี่ชนม์ออกไปเลยแม้แต่นิด แม้เราจะเลิกกันจริงแต่ตอนที่คบกันมันก็ไม่ได้แย่จนต้องลบรูปไปสักหน่อย จะว่าโด่งดังคนนี้แถก็ได้แต่ต่อให้เมมเต็มเขาก็จะไม่ลบ!!เขายอมลบรูปตัวเองทิ้งซะดีกว่า
นี่เขาก็ไม่ได้เจ็บๆ อะไรหรอกนะ คน ‘มูฟออน’ ได้แล้ว ของแค่นี้ไม่ระคายผิวหรอกบอกเลย
“เนี่ยมันดื้อย้ง” เพียวหันไปฟ้องคู่หูของตัวเอง
ย้งไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนที่มักนิ่งเงียบได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่
“ช่างเถอะเพียว มันก็รักของมันมาแปดปีแล้ว”
โด่งดังหันขวับ!
“กู ‘มูฟออน’ แล้ว”
“มูฟเป็นรูปหม้อชาบูสิมึงน่ะ” ย้งว่าแล้วส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
“สามปีก่อนใครร้องไห้เหมือนจะขาดใจตายเอ่ย” เพียวโต้กลับมาเสริมทัพ
คู่หูนรกนี่มันนรกจริงๆ แต่เขาจะไม่ตอบโต้!
คนอย่างโด่งดัง ‘ไม่เจ็บ’ หรอกนะ!!
อึ่งถึงกับต้องสั่งน้ำมูกออกมาฟื้ดใหญ่เพราะน้ำตาล็อตต่อไปจ่อคิวรอไหลแล้วโด่งดังมองเพื่อนแต่ละคนอย่างนึกปวดหัวไม่รู้ว่าอะไรดึงดูดให้บุคคลเหล่านี้กลายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันได้
น่าปวดหัวจริงๆ
กว่าจะปลอบให้อึ่งหยุดร้องไห้ได้ก็ผ่านไปพักใหญ่ไม่รู้ว่าอึ่งมันมีสวิตสลับร่างอัตโนมัติหรือเปล่านะแต่หลังร้องไห้ออกมาจนหนำอกหนำใจแล้วอึ่งก็จะมีความคิดความอ่านที่โตขึ้นมาสามระดับและจะลดลงไปเท่าเดิมหลังจากนั้นอีก 3 ชั่วโมง
แน่นอนว่าผู้ที่สังเกตอาการนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่นายย้งจีเนียสประจำแก๊ง!
อึ่งที่อัพเกรดเป็นคนจีเนียสสามระดับหลังร้องไห้อย่างหนักหน่วงจ้องหน้าเขาอย่างมุ่งมั่น!
“โด่ง!! ถ้าโด่งยังชอบอาจารย์จริงๆโด่งก็ยอมหมาไปง้ออาจารย์เถอะ!!!!!”
“...”
เมื่อกี้หมาตัวไหนบอกว่าเขาจะเป็นหมาตายรัง ห้ามเขากลับไปนะ..
“อิโด่งหรอจะกล้ากลับไปง้อขนาดจะขอถอนรายวิชามันยังไม่กล้าเจอหน้าเลย” เพียวว่า
“นั่นสิครับ.. ไปพบอาจารย์พ่อก็แล้ว ถามฝ่ายทะเบียนก็แล้วแต่ไม่ไปถามอาจารย์ประจำรายวิชาเลย” ชามออกความเห็นอาจเพราะความเห็นชามมันถูกใจเพียวมาก เพียวถึงหันไปพูดว่า ‘ใช่ม้ะๆๆๆ’ ไม่หยุด
โด่งดังได้ฟังดังนั้นแล้วก็เดือดปุดๆเหมือนมาม่าที่พี่เจนต้มในหม้อ!
“ทำไม! คนอย่างโด่งดังไม่กลัวหรอกนะ นายพี่ชนม์หรอก็มาเด่ะ!”
ประกาศจุดยืนชัดเจนจนเพื่อนๆ ถึงกับเงียบไปนี่มันรู้สึกดีจริงๆ
แต่นอกจากจะเงียบจนผิดปกติแล้ว อยู่ๆ นายอึ่งก็กลับไปเป็นคนเจ้าน้ำตาอีกครั้งแม้กระทั่งชามเองก็ด้วย ส่วนคู่หูย้งเพียวกลับยกยิ้มกริ่มอย่างพออกพอใจโด่งดังรู้สึกเย็นวาบจากข้างหลังตั้งแต่หัวจรดเท้าไอ้ความรู้สึกเย็นเยียบเหมือนตอนอยู่ในห้องเรียนนี่มันอะไรนะโคตรหลอนชิบหองเลยเวนเน้ย
“ได้ยินอาจารย์สุกฤษฎิ์ทักมาว่ามีนักศึกษาต้องการถอนรายวิชาดูเหมือนจะชื่อโด่งดังนะครับ”
น้ำเสียงดุดันที่สุดแสนจะคุ้นหูดังขึ้นจากข้างหลังโด่งดังสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
พ่อแก้วแม่แก้วและพี่เจนคนดีศรีโลกาช่วยโด่งด้วย
อย่าเชียว อย่าเป็นนายพี่ชนม์เลยเชียวนะ
“แต่ยังไม่เห็นนักศึกษาคนที่ว่าเข้ามาพบผมเพื่อพูดคุยเรื่องนี้เลย”
เจ้าของน้ำเสียงดุดันยังกล่าวต่อไปอีกว่า
“ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่ายังเป็นนักศึกษาในรายวิชานี้.. ในฐานะที่เรียนภาษาและวัฒนธรรมมาคุณควรทบทวนความรู้ที่เรียนด้วยนะครับว่าการเอ่ยเรียกขานบุคคลในสังคมไทยประกอบด้วยปัจจัยใดบ้าง”
“...”
“อาจารย์อัปสราบอกว่าคุณเป็นคนที่น่าสนใจ..แต่ข้อมูลแค่นี้คุณยังจำไม่ได้เลยนะ?”
ม่างเง้ย กางตำรามาตบหน้ากุเลยเถอะแบบนี้T—T
คู่หูย้งเพียวกำลังกลั้นขำสุดชีวิต ส่วนนายอึ่งสูดปากเจ็บจี๊ดแทนเขาก็น้ำตาไหลแหมะๆ จนต้องใช้แขนเสื้อนักศึกษามาซับน้ำตาของตัวเองชามเองก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเพราะไม่กล้าสบตาอาจารย์นายพี่ชนม์ที่ดุเก่งมากเหมือนโกรธใครมาไม่ต้องบอกว่าโกรธโด่งดังคนนี้นะ โด่งรู้ดี T—T
“ขอโทษที่ทำกริยาและใช้วาจาไม่เหมาะสมนะครับ”
เขาว่าเสียงแผ่ว และยังไม่กล้าหันหน้าไปหานายพี่ชนม์
“โด่งครับ” T---Tอึ่งเรียกแล้วบุ้ยใบ้ไปทางข้างหลัง ก่อนจะปล่อยโฮมาอีกระลอก
นายพี่ชนม์มุง ไม่เจอกันสามปีดุขนาดนี้เลยหรอวะT—T!!
“เวลาขอโทษผู้ใหญ่ก็หันหน้ามาขอโทษครับหันหลังให้แบบนี้คุณขอโทษใครครับ?”
โดนไปอีกดอก
โด่งดังหันหน้ามาแล้วขอโทษอีกฝ่ายซ้ำ
“ขอโทษครับที่เสียมารยาทแล้วไม่รู้จักนำความรู้ในห้องเรียนมาใช้”
พูดจบเขาก็นึกได้ว่ามันฟังดูเหมือนเขาประชดนายพี่ชนม์ไปหรือเปล่าวะแต่ไม่นะ โด่งดังไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น T—T ใต้เท้าโปรดรักษาพระวรกายอย่ากริ้วโด่งดังคนนี้ไปเลย!!
“...”
“...”
“ถ้าเปลี่ยนใจอยากถอนรายวิชาเมื่อไรก็แวะมารับใบถอนได้เลยครับผมเซ็นไว้ให้แล้ว”
“...”
“แต่ขอแจ้งให้ทราบว่าปีการศึกษาถัดไปผมก็ยังสอนรายวิชานี้ครับ”
“อ้อครับ.. ไม่กลับไปเรียนใหม่หรอกครับ”
ม่างเง้ย พูดขนาดนี้กูจะกล้าถอนหรอวะ
“แล้วจะคอยดูนะครับ”
ไม่ต้องมาดู๊! มีอะไรทำก็ทำไปเถอะอาจารย์!! T—T
อาจารย์นายพี่ชนม์น่าจะไปแล้ว โด่งดังมองรีแอคชั่นของเพื่อนๆ ที่ดูจะมีท่าทีเป็นปกติกันแล้วอย่างนึกโล่งอกโล่งใจนายพี่ชนม์เวอร์ชั่นอัพเกรดเป็นอาจารย์นี่มันรุนแรงเกินต้านรับได้ไหวจริงๆ!
“ไม่ปอดเลยนะตะกี้” เพียวแซวด้วยน้ำเสียงกลั้วขำ
โด่งดังหน้าหงิก อยากตะโกนออกไปดังๆ ว่า แต่กุไม่ขำ โกรธมากบอกเลย แต่ทำแบบนั้นก็รังจะทำให้เส้นเสียงเขาพังไปเปล่าๆคนที่เพิ่งโดนอาจารย์(ที่เป็นแฟนเก่า)ตำหนิไปเมื่อครู่นี้จึงได้แต่นั่งจุมปุกอย่างหงุดหงิดปนๆกับพยายามทำให้หัวใจเลิกเต้นเร็วสักที
บ้าบอมาก มาใจเต้นตอนโดนดุเนี่ยนะตัวกู
เรื่องนี้ต้องเหยียบให้มิด!
“โกรธกุเฉย มึงไม่สังเกตอาจารย์เองอ่ะ” อาจเพราะเขากำลังนิ่งคิดไม่ได้ต่อปากต่อคำเพียวออกไปอย่างทุกที เพียวจึงเข้าใจว่าเขาน่าจะโกรธจริงๆ
“ก็ใครจะรู้!” เอาจริงๆก็แอบโกรธนิดๆ ที่เพื่อนไม่มีสะกิดเตือนกันหน่อยเลยสักคน
สงสัยต้องประชุมคุยกันเรื่องโค้ดลับและการส่งซิกเมื่อนายพี่ชนม์โผล่มาโดยไม่ทันตั้งตัว
“แล้วจะจีบไหม”
ย้งเอ่ยปากถามขึ้นด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติประหนึ่งว่ากำลังไถ่ถามเรื่องดินฟ้าอากาศโด่งดังละอยากจะถามนายย้งออกไปว่าได้เห็นฉากที่เขาโดนดุเมื่อตะกี้นี้ไหม!!ถ้าเห็นฉากนั้นแล้วยังกล้ามาถามเขาได้ลงคอหรือว่าเขาจะจีบนายพี่ชนม์อีกหรือเปล่า!
หรือย้งจะรู้ว่าเราใจเต้นเร็ว!!
บ้าบอไปแล้ว!! เราก็ไม่ได้แสดงพิรุธอะไรออกไปเลยนะ!!
“ไม่จีบว้อย!!! บ้าป่ะมาจีบจารย์!!!!”
ตอบกลับออกไปด้วยท่าทีที่เป็นปกติมากๆ คงไม่มีใครรู้หรอกนะว่าโด่งดังกำลังใจเต้น!
“อาการมึงออกเถอะนายโด่ง” เพียวว่า ท่าทางดูหมั่นไส้กันมากๆ
เห้ยบ้าป่ะ ใครอาการออกกัน!!
“มึงจะยัดเยียดโมเม้นไม่ได้นะนายเพียว”
เพียวหัวเราะ
“มึงเสียงดังอ่ะ คนเค้ารู้หมดแล้วมั้งว่ามึงชอบกินคนแก่กว่า”
“ไม่กินว้อย!” โด่งดังถลึงตาตอบกลับไปด้วยท่าทีที่เป็นปกติที่สุด!
บ้าบอไปแล้ว โด่งดังก็คิดว่าเขาไม่ได้แสดงท่าทีกระโตกกระตากหรือพิรุธอะไรออกไปเลยแม้แต่นิดนี่ต้องเป็นแผนหลอกให้เขาตายใจแน่ๆ นายเพียวนี่ร้ายจริงๆเสียแรงที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ปอหนึ่ง เ พื่ อ น รั ก เ พื่ อ น ร้ า ย
“ลืมไปว่าอาจารย์พี่ชนม์เขา..” เพียวว่าเสียงยานคล้ายกำลังปั่นประสาทมุมปากยกยิ้ม แต่ด้วยโด่งดังไม่ได้เป็นคนมีพิรุธอะไรชัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วบอกเลยว่าแผนตื้นๆ แบบนี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอกนะ
“เพียวอย่าปั่น กูไม่ได้กลัวหรอกนะถ้ามึงจะบอกว่า ‘นายคนนั้น’ เป็นฝ่ายกินกู แผนตื้นๆแค่นี้ไม่ทำให้จิตใจที่แข็งแกร่งประดุจหินผาคริสตัลเคลียร์ของกุสั่นคลอนแม้แต่นิดไม่เลยแม้แต่น้อย!”
หึ.. แผนหลอกเด็กแบบนั้นทำอะไร ‘โด่งดัง’ ไม่ได้!!
RE M E M B E R !!!!!!!
คู่หูเพียวย้งหลุดขำก๊าก ตัดภาพไปทางนายอึ่งที่ตอนนี้ได้แต่พยายามเอาหน้ามุดกระเป๋าขณะที่นายชามกำลังเอาชี้ทมาปิดหน้าปิดตาตัวเองแล้วโด่งดังก็ตระหนักได้ว่านี่มันผิดปกติ มีอะไรเอเร่อะ(ERROR) อย่างนั้นหรอ!!!
อาจเพราะเพียวสังเวชใจกับท่าทางโง่งมของเพื่อนตัวโตที่เหมือนมันจะโตแค่ตัวหัวสมองถูกสต๊าฟไว้ที่อายุ 17 ตลอดกาลแล้วไซร้นายเพียวจึงเอ่ยปากเล่าบอกบุญเขาว่า
“ลืมไปว่าอาจารย์ชนม์ยังไม่ไป.. ยืนคุยกับอาจารย์พ่อตรงนั้นเอง”
“...”
โด่งดังรู้สึกเหมือนโล่กกำลังถล่มตรงหน้า
“มึงพูดเสียงดังขนาดนี้.. คิดว่าเขาน่าจะได้ยินนะ”
ชีวิตกู.. จบสิ้นแล้ว
แอ่ก!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in