อาจารย์วิษณุเป็นครูที่มีลูกศิษย์มาก
แต่มีศิษย์เด่นสองคน คือ ชัย กับ จิต
เป็นผู้ชายทั้งคู่
ชัยมักรู้สึกน้อยใจที่อาจารย์วิษณุ
โปรดปรานจิตมากกว่า
ส่วนอาจารย์รู้ว่าชัยคิดอย่างไรกับตน
แต่ก็ไม่ได้พูดหรืออธิบายเหตุผล
ว่าทำไมจึงโปรดปรานจิตมากกว่า
วันหนึ่งอาจารย์เรียกลูกศิษย์ทั้งสองคน
แล้วพาไปดูห้องเปล่าสองห้องที่อยู่ไม่ไกลกัน
มอบเงินให้ลูกศิษย์คนละหนึ่งรูปี
แล้วมอบหมายว่า พวกเธอทำอย่างไรก็ได้
เพื่อให้ห้องของเธอเต็ม
อาจารย์จะมาดูผลงานของเธอค่ำนี้
.
.
ชัยก็รีบไปที่ตลาดทันที
แต่เงินหนึ่งรูปีนั้นมีค่าน้อยมาก
ซื้ออะไรก็ได้นิดหน่อย
เขาคิดอยู่สักพัก ก็ไปหาคนเก็บขยะ
ขอซื้อขยะทั้งกองด้วยเงินหนึ่งรูปี
คนเก็บขยะยินดียกขยะให้หมด
ชัยใช้เวลาหลายชั่วโมงในการขนขยะ
เข้าไปไว้ในห้องจนเต็ม
เขาภูมิใจที่ทำงานที่อาจารย์มอบหมาย
เสร็จทันเวลา
.
.
ส่วนจิตเมื่อรับมอบหมายจากอาจารย์
เขาก็นั่งสมาธิพักใหญ่
จากนั้นก็ค่อย ๆ เดินไปที่ตลาด
ใช้เงินหนึ่งรูปีซื้อไม้ขีดไฟ ธูป และประทีบ
พอใกล้ค่ำก็จุดธูปและประทีป
ไม่นานห้องก็สว่างและอบอวลด้วยกลิ่นหอม
.
.
เมื่อได้เวลาอาจารย์ก็มาตรวจผลงาน
ของลูกศิษย์ โดยไปที่ห้องของชัยก่อน
พอเปิดห้องอาจารย์ก็ผงะ
เพราะว่ากลิ่นขยะเหม็นตลบ
อบอวลเต็มห้องเลย
จากนั้นก็เดินไปยังห้องของจิต
พอเปิดประตูมาก็เห็นแสงสว่างสีนวลเต็มห้อง
และมีกลิ่นหอมอบอวล
อาจารย์ยิ้มให้กับบรรยากาศ
ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า
ถึงตรงนี้ชัยก็รู้แล้วว่าอาจารย์ชอบห้องไหน
และเข้าใจแล้วว่าทำไมอาจารย์
จึงโปรดปรานจิตมากกว่าตน
ทั้งสองคนตอบโจทย์อาจารย์ได้ทั้งคู่
เพราะใช้เงินหนึ่งรูปีทำให้ห้องของตัวเองเต็ม
แต่ห้องหนึ่งเต็มไปด้วยขยะ
ส่วนอีกห้องเต็มไปด้วยกลิ่นหอมและแสงสว่าง
.
.
นิทานเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นมุมมอง
หรือวิธีคิดของสองคนที่แตกต่างกัน
ชัยคิดแต่ในเชิงวัตถุ มองในแง่ปริมาณ
เมื่อได้รับโจทย์ว่าทำห้องให้เต็ม
เขาก็คิดถึงแต่การหาวัตถุเยอะๆ
มาเติมเต็มห้อง
ซึ่งลงเอยด้วยการหาขยะมาใส่
ส่วนจิตไม่ได้คิดในเชิงวัตถุ
เขามีความคิดที่ละเมียดละไมและประณีตกว่า
เขาให้ความสำคัญกับคุณภาพ
เพราะฉะนั้นจึงทำให้ห้องนั้น
เต็มไปด้วยกลิ่นหอมและแสงสว่าง
ชัยและจิตเป็นตัวแทนของคนในโลกนี้
ที่มีมุมมองต่างกัน
ประเภทหนึ่งคิดในเชิงวัตถุ
เวลามีปัญหา ก็นึกถึงวัตถุเป็นคำตอบ
วัดความสำเร็จในแง่ปริมาณ
อีกประเภทนึกถึงสิ่งที่มีคุณค่า
ในเชิงนามธรรม
วัดความสำเร็จในแง่คุณภาพ
เรื่องนี้เต็มไปด้วยอุปมาอุปไมย
ห้องนั้นเปรียบเสมือนชีวิตของคนเรา
เงินหนึ่งรูปี ซึ่งน้อยนิดนั้น
หมายถึงเวลาในชีวิตของคนเราซึ่งสั้นมาก
การทำให้ห้องเต็ม
หมายถึงการเติมเต็มชีวิตของเรา
เมื่อพูดถึงการเติมเต็ม
คนจำนวนไม่น้อย
จะนึกถึงการมีชีวิตที่พรั่งพร้อมด้วยวัตถุ
เงินทอง ทรัพย์สมบัติ
ยิ่งมีเวลาน้อยเท่าไร
ยิ่งต้องรีบหามาให้เยอะ
ชีวิตจะได้ไม่ว่างเปล่า
แต่บางคนเห็นว่าชีวิต
ควรจะเติมเต็มด้วยสิ่งที่งดงาม
มีคุณค่าและความหมาย
นั่นคือ คุณธรรมและปัญญา
กลิ่นหอมเป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี
ส่วนแสงสว่างเป็นสัญลักษณ์ของปัญญา
สองอย่างนี้ต่างหาก
ที่ทำให้ชีวิตงดงาม
และมีคุณค่าอย่างแท้จริง
ชีวิตของคนเราจะเติมเต็มและอิ่มเอมได้
ก็เพราะอุดมด้วยคุณธรรมและปัญญา
แต่คนจำนวนมากไม่สามารถมองเห็น
จึงเลือกที่จะไปหาวัตถุมาเติมเต็มชีวิต
แต่สุดท้ายสิ่งของเหล่านั้น
บางครั้งก็ไม่ต่างจากขยะ
นอกจากไม่น่าชื่นชม
แล้วยังเป็นภาระอีกด้วย
Cr : พระอาจารย์ ไพศาล วิสาโล
Cr : FB "Theeraphan Naksin"
สถานที่ : สามย่านมิตรทาวน์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in