ผมเดินไปยังเคาเตอร์เพื่อแลกเหรียญที่นี่เป็นเหมือนย่านอาเขตในการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีทางเดินยาวเข้าไปสองข้างทางเป็นร้านค้าเช่าที่มีทั้งเสื้อผ้าวัยรุ่น ร้านเทป ร้านของเล่นต่างๆทั้งยังมีซอยย่อยเข้าไปเป็นตู้คาราโอเกะหยอดเหรียญ หากเดินไปจนสุดจะพบกับลานตู้เกมที่มีทั้งเกมยิงปืนอย่าง House Of the Dead หรือเกมเต้น DanceDance Revolution ที่ส่งเสียงเพลงแว่วมาแต่ไกล พีคเอาแขนพาดบนไหล่ผมเมื่อผมหยุดตรงเคาเตอร์แลกเหรียญพนักงานมองหน้าเราสองคนที่ยืนนิ่ง เธอทำหน้างงๆ ผมหันไปมองพีคพีคเลิกคิ้วขึ้นทีนึงด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“อ้าว... แลกเหรียญดิ ยืนบื้ออยู่ทำไม” พีคเหมือนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆหลังผมพูดจบ ก่อนจะเอาฝ่ามือสองข้างประกบแก้มผมแล้วกดเข้าหากัน
“มึงก็ช่วยพูดจาให้มันดีๆ เพราะๆ หน่อย จะได้มั้ย” มันผลักหน้าผมไปซ้ายทีขวาทีขณะที่พูดไปด้วยส่วนพนักงานแลกเหรียญก็แอบอมยิ้มกับสิ่งที่เราทำ
“อ๋อโอ้ดอั๊บบบบ” ผมรีบขอโทษด้วยเสียงอู้อี้ก่อนที่กรามผมจะแหลกตามือใหญ่ๆ ของมัน “ช่างเถอะ” มันปล่อยผม
“เอาสิบเหรียญครับ” มันวางแบงค์ร้อยบาทลง แลกกับที่พนักงานเลื่อนกองเหรียญสีเงินวาวสิบเหรียญมาให้ ก่อนหน้าการปรับปรุงใหญ่ การใช้เหรียญสิบหยอดเป็นเรื่องปกติของตู้ทั่วไปแต่ด้วยปัญหาน้ำหนักเหรียญที่ผลิตในแต่ละปีไม่เท่ากันทำให้หยอดได้บ้างไม่ได้บ้างทางเจ้าของจึงหาทางแก้ด้วยการจ้างทำเหรียญเฉพาะขึ้นมา ที่สำคัญ แลกแล้วจะคืนไม่ได้
“กูขอเลือกก่อนนะ”ผมผายมือเชิญมันเดินนำไปเลย
เกมที่มันเลือกเล่นคือเกมแข่งรถ แน่นอนว่าผมก็ต้องเล่นไปกับมันด้วยผมกระโดดไปนั่งบนเก้าอี้ฝั่งซ้าย มือสองข้างจับที่พวงมาลัยพีคหยอดเหรียญลงไปสองเหรียญ หน้าจอเปลี่ยนเป็นให้เลือกรุ่นของรถขึ้นมาโดยพลันตู้นี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ผู้ชนะจะสามารถตกแต่งรถรุ่นที่ตัวเองชอบไว้ใช้งานได้หากมาเล่นเครื่องเดิม แต่ต้องรักษารหัสหกหลักตัวเองไว้ให้ดีถ้าใครตาดีแอบขโมยไปใช้ก็จบเห่ แม้ผมเองจะไม่ค่อยสันทัดกับเกมแข่งรถนักแต่ก็มีรถสีลูกกวาดให้ใช้ แต่ไส้ในก็ปรับเครื่องตามแบบของคนข้างๆ นี่แล่ะคราวนี้ผมเลือกรถรุ่นใหม่ที่พึ่งอัพเดต มาเซราติ สีแดงเพลิง ถ้าผมชนะผมก็จะได้รถคันนี้มาใช้ในคราวถัดไป
“โอ้โห... มั่นใจขนาดนั้นเชียวเหรอ” เจ้าพีคถามผมมันเลือกเฟอรารี่สีเหลือง ผมหันไปยักคิ้ว
“เล่นเอามันส์” ผมไม่ได้สนใจรถนักหรอกแต่พีคมันบ้ารถ มันมักจะชอบคุยสรรพคุณของรถแต่ละรุ่นให้ฟังเกมการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี ผมเองไม่ค่อยชอบแข่งความเร็วแบบนี้เท่าไหร่ถ้าเป็นพวกขี่ไปแย่งเอาไอเท็มพิเศษมาแกล้งกัน อย่าง มาริโอ้คาร์ท หรือโจโกโบะเรซซิ่ง ก็ว่าไปอย่าง อันนั้นผมมั่นใจว่า ผมก็ไม่แพ้ใคร เกมจบลงโดยที่พีคชนะแต่ก็ยังทำลายสถิติเดิมของตัวเองไม่ได้ ผมหันไปแลบลิ้นใส่ ทีนี้ตาผมเลือกบ้าง
ผมวิ่งไปหยอดเหรียญที่ตู้เกมเต้นแล้วเลือกเพลงเสร็จสรรพก่อนที่พีคจะมาถึงแล้วแย่งเพลงไป
“ไอ้เปี๊ยกกก” มันทำเสียงฉุนเฉียวใส่ผมเมื่อผมเลือกเพลงที่แม้สเต็ปไม่ยาก แต่
“มึงเลือกแต่เพลงตุ๊ดๆอีกละ” มันตบหัวผม แหม่... ช่วยไม่ได้ จะให้เต้นเพลงร็อคมันใช่แนวซะที่ไหนของแบบนี้ต้อง Dub bie Dub ผมวางเท้าที่แป้นกลาง โยกซ้ายขวาเพื่อวอร์มส่วนพีคยืนกอดอก รอสัญญาณนับถอยหลัง ผมเลือกระดับ ฮาร์ด พีคหันมามองหน้า ขามึงพันกันแน่ สาม สอง หนึ่ง “เริ่ม” ลูกศรไล่มาจากล่างขึ้นบนผมจะต้องเหยียบแป้นให้ตรงตามเครื่องหมายที่จะมาพอดีกันตรงบนสุดของจอ
“ดุ๊บ ดุ๊บดุ๊บ ดู บา บี๊ ดุ๊บดุ๊บดุ๊บ ดุ๊บบี่ดุ๊บบี่ เย่เหย่...” ผมร้องไปด้วยสลับเท้าไปด้วย แหม่... เพลงโปรดมาพร้อมทักษะการเต้น ฝีเท้าดี ลีลาต้องมาด้วยผู้คนเริ่มมาล้อมวงดูเราเต้นกัน แต่ถึงอย่างนั้นพีคเองก็ใช่ย่อย ขายาวๆนั้นได้เปรียบในการเหยียบแป้นมากกว่าผมที่ต้องกระโดดไปมา หากต้องกดสองปุ่มพร้อมกันคะแนนของผมกับพีคสูสีไม่ทิ้งห่าง ผมแกว่งแขน ยกมือบางครั้งตบเข้าจังหวะไปกับเพลงด้วย คะแนนได้มั่งไม่ได้มั่งไม่สนละ ขอลีลาชนะใจคนดูก่อนละกันจบเพลงผมชนะ
แต่แล้วสิ่งที่ผมไม่เคยคิดก็เกิดขึ้นเมื่อผมโดนท้าแบทเทิลจากผู้ชม ตามธรรมเนียมคนท้าต้องหยอดเหรียญให้กับแชมป์ ถ้าแชมป์รับคำท้าแล้วชนะ คนท้าต้องให้เหรียญหนึ่งเหรียญแต่ถ้าแพ้ แชมป์ก็จะคืนเหรียญให้หนึ่งเหรียญเช่นกัน เอาไงดีล่ะนี่เป็นแบทเทิลแรกของผมซะด้วย ถึงจะเล่นมาก็แค่ระดับงูกับปลา
คนที่ท้าแบทเทิลเดินขึ้นบนแป้นที่พีคเต้นเมื่อครู่ ตัวสูงกว่าผมเล็กน้อย สวมฮู้ดแขนกุดสีดำ รูดซิปขึ้นปิดครึ่งหน้ายืนหันข้างทำให้ผมมองเห็นหน้าไม่ถนัดนัก ในมือชูเหรียญสองเหรียญขึ้นมาเพื่อบอกว่าถ้าผมเอาชนะเค้าได้ จะให้โบนัสเพิ่มเรียกเสียงเฮจากกลุ่มผู้ชมลั่นลานอาเขต เพื่อนผู้ท้าชิงเดินไปหยอดเหรียญให้กับเราทั้งคู่ ก่อนจะโยนหัวหรือก้อยเพื่อสิทธิ์ในการเลือกเพลง
“หัว” ผมเลือกก่อน เหรียญถูกโยนขึ้นมันหมุนคว้างกลางอากาศก่อนจะตกลงมาบนมือของคนโยนที่เป็นเพื่อนของผู้ท้าชิง “หัว” เสียงตะโกนบอกผลการโยนเหรียญบอกว่าผมได้เป็นผู้เลือกเพลง เอาล่ะสิผมเต้นเป็นอยู่ไม่กี่เพลงด้วย เวลาในการเลือกมีแค่สามสิบวินาทีผมเลื่อนเพลงไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่เพลง Boys เอาวะเป็นไงเป็นกัน
ดนตรีเริ่มขึ้นพร้อมใจผมที่หวั่นๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะท้าหรือโดนท้าเลยกลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งอาเขตหันมาสนใจกับการประลองเพราะเสียงเฮของบรรดาขาเชียร์แม้ตาจะมองลูกศร แต่ผมก็ชำเลืองดูอีกฝ่ายไปบ้างผู้ท้าชิงโยกตัวขยับเท้าได้รวดเร็วมากจนผมหวั่น แถมลีลานั่นก็ชำนาญไม่แพ้ผมด้วย
โหมดแบทเทิลจะมีความสนุกอยู่อีกอย่างคือการเก็บลูกศรพิเศษเพื่อโจมตีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามให้ทันเสียงเฮลั่นเมื่อผมเก็บลูกศรหยุดเต้นได้อย่างฉิวเฉียดลูกศรอีกฝ่ายถูกหยุดไว้สองวินาที ทำคะแนนนำไปก่อนได้ แต่ก็ใช่ว่าผมจะโชคดีบ่อยๆเมื่อผมโดนโจมตีกลับด้วยลูกศรกลับด้าน งานนี้หนักเลยแถมไอ้ตอนกลับด้านนี่มีตัวพิเศษมาอีกคือเร่งความเร็วคู่ต่อสู้ โอ้ย เสียงเฮของผู้ชมแทบไม่เข้าหูเราสองคนสลับกันโจมตี แก้แค้นกันไปมา ไม่มีฝ่ายไหนเน้นทำคะแนนให้ทิ้งห่างกันเลยเสียงตะโกนของพีคดังลอดออกมาจากเสียงเชียร์ที่อึงคะนึงอยู่ว่า
“ชนะมาป๋าให้เลือกของเล่น” โวะ... เสี่ยใจป้ำกระหน่ำแทงฝั่งผมขนาดนี้มีเหรอจะยอมเหลืออีกครึ่งเพลง แค่นาทีเศษๆ เท่านั้น ผมต้องทำคะแนนที่ตามอยู่มานำให้ได้ผมกวาดตามองลูกศรบนจอเพื่อคำนวนจังหวะที่จะก้าวเท้าและเตรียมรับมือกับอีกฝ่ายที่อาจได้ลูกศรพิเศษมาใช้โจมตี ด้วยความที่อีกฝ่ายปิดหน้าปิดตาเอาไว้ทำให้ผมหงุดหงิดเล็กน้อยที่ประเมิณอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ออก
ขวา ล่าง ขวา บน ล่าง ซ้าย ล่าง บน ผมกระโดดแตะแป้นตามจังหวะเพื่อทำคอมโบ เสียงเฮลั่นกับจังหวะเพอร์เฟคต์ห้าครั้งรวด คะแนนผมนำมาแล้วเหลืออีกแค่สามสิบวินาที ลูกศรเริ่มยากขึ้น เมื่อต้องเหยียบเป็นคู่แสงไฟฝั่งผมสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสีเขียวสว่างเมื่อจบเพลง พร้อมทั้งคะแนนที่เอาชนะผู้ท้าชิงไปได้อย่างฉิวเฉียด
ผมยืนหอบ พยายามโกยอากาศเข้าปากให้มากที่สุด ผู้ท้าชิงเดินเข้ามายกมือผมขึ้นเสียงตะโกน เยส ของไอ้พีคดังลั่นกว่าใคร เด็กหนุ่มในเสื้อฮู้ดสีดำ ยื่นเหรียญให้ผมสองเหรียญตามสัญญาผมสังเกตเห็นตาคู่นั้นคุ้นๆ อีกฝ่ายค่อยๆ รูดซิปลง สะบัดฮู้ดไปด้านหลังยิ้มแฉ่งมาให้อย่างกวนๆ
“ไง เท้าไฟไม่ใช่เล่นนะเนี่ย” หน้าขาวๆ กับตาที่คุ้นนั่นเป็นของประธานชมรมวิทย์โรงเรียนผมนี่เอง
“วิว.... เล่นไรบ้าๆ เนี่ย เกิดมาพึ่งเคยโดนท้าเต้น ใจหายหมดเลย” ผมโวยวายไปนิดหน่อย วิวหัวเราะ
“อิจฉาว่ะ นี่ถ้ามีของขวัญล่อใจบ้างวิวคงไม่แพ้หรอก” วิวแซว พีคเดินเข้ามาตบหลังผมดังป้าบ “แบบนี้สิลูกพ่อ” ผมหันไปค้อน “ใครลูกมึงฟะ”ผมเอาศอกถองพุงมัน ฝูงชนเริ่มสลายตัว
“ว่าแต่แปลกดีเด็กเรียนอย่างวิวนี่เต้นเป็นด้วยอะ” วิวหัวเราะลั่น
“หน้าตาวิวเหมือนเด็กเรียนเหรอ” จริงๆ ก็ไม่ใช่ ไม่ใกล้เลยล่ะแต่ว่าประธานชมรมวิทย์นี่ถ้าไม่เรียนเก่งพอตัวก็ไม่ใช่แน่ หน้าตาผมก็คงบอกคำตอบไม่ได้เหมือนกันนั่นแล่ะว่าใสๆ แบบนี้จะเป็นหนึ่งในขาโดดตัวเอ้ของโรงเรียน
“อย่าดูคนที่หน้าอย่างเดียวสิ ว่าแต่วันนี้มาทำอะไร” ผมเผลอกลอกตาบางทีเด็กเรียนก็ไม่ได้ฉลาดที่จะถามคำถามเลย ในเมื่อมาเกมเซ็นเตอร์แบบนี้มันมีอะไรให้ทำบ้างล่ะ อย่างศาลาไอศกรีมด้านหน้านั่นก็ไม่ใช่ที่ๆ เด็กๆจะไปนั่งกินไอติมเหมือนสมัยก่อนแล้วด้วย
“ออกเดท” ผมตอบไป พีคตบหัวผมแทบคว่ำ“เดทพ่อง” ผมลูบหัวป้อยๆ วิวยิ้มแปลกๆ ก่อนจะขอตัวแยกไปเล่นเกมอื่น ผมหันมาแบมือใส่พีค“อะไรของมึง” สีหน้าไร้อารมณ์ของมันน่าต่อยจริงๆ “อย่าลืมสัญญาดิ”มันผลักหน้าผากผมเบาๆ “เออ” คำตอบสั้นๆ ผมรู้ว่ามันไม่ลืมหรอก
ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนเลือกดูหนังแต่หนังที่ผมอยากดูกลับไม่ได้ดูผมกับมันทุ่มเถียงกันใหญ่ว่าหนังหายนะโลกระหว่างDeepImpact กับ Armageddon อันไหนน่าดูกว่ากันเมื่อผมโหวตหนังที่เห็นฉากหายนะชัดๆ อย่างดีพอิมแพคแต่พีคอยากดูอีกเรื่องเพราะเพลงของวงแอโร่สมิธ สุดท้ายเจ้าของเงินก็เป็นฝ่ายชนะไปเงื่อนไขใครจ่ายคนนั้นเลือกไม่อยู่ในข้อตกลงของวันนี้ เจ้าพีคงัดมาใช้เป็นไม้ตายสุดท้าย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in