เสียงลมหน้าหนาวพัดหวีดหวิวเศษใบไม้และฝุ่นคลุ้งปลิวไปทั่วสนามโรงเรียน ผมยกเสื้อแขนยาวขึ้นมาบังหน้านึกย้อนไปถึงเวลากว่าสิบปีที่แล้ว ที่นี่แล่ะ และหน้าหนาวๆ แบบนี้หลายเวลาหลายนาที ภาพก็ยังชัดเจนอยู่
เค้าว่ากันว่าความทรงจำที่มีความสุขที่สุดของคนเราคือสมัยเรียน โดยเฉพาะ เรียนม.ต้นบางคนก็อาจจะโชคดีมีความสุขทั้ง ม.ต้น ม.ปลาย และมหาลัย สำหรับผมมันก็อาจจะทั้งใช่และไม่ใช่ก็ได้ แต่นั่นไม่สำคัญหรอก สิ่งเดียวที่ผมใส่ใจคือมันเป็นความทรงจำที่มีค่าก็พอ
ผมนั่งลงที่ม้านั่งหินอ่อนเก่าๆหน้าตึกแรก โบกมือทักทายให้กับเพื่อนอีกสามคนที่กำลังเดินเข้ามาจากหน้าโรงเรียนลัดผ่านสนามฟุตบอลที่มีแต่หญ้าแห้งๆ
“นังต๊อบ....”เสียงตะโกนเรียกดังมาแต่ไกล ของริน เพื่อนสาวในกลุ่ม เธอเปลี่ยนไปมาก จากสาวแก่นๆมีแฟนเป็นทอม จนตอนนี้เธอแต่งตัวเป็นสาวสวย บรรยากาศสเน่ห์แรงๆ ของเธอยังไม่จางออกจะมากขึ้นตามวัยและประสบการณ์ของเธอ เธอมากับเพื่อนอีกคน เจ้าเบสเพื่อนเกย์ที่เรียนห้องเดียวกันตลอดสามปี ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นต่างจากเดิมที่ดูหัวโปกกะโหลกกะลา กันทั้งนั้น และอีกคนเพื่อนเกย์สนิทต่างห้องเรียน มีรสนิยม เล่นเกมเล่นเน็ทเหมือนกันจึงสนิทสนมกันไปได้ ผมร้องตะโกนตอบกลับไป
“ให้ไวๆทำไมทำตัวแก่ๆ กันจังพวกแก” ทั้งสามหัวเราะ กึ่งวิ่งกึ่งเดินให้มาถึงเร็วขึ้น
“คิดถึงแกจัง”รินพูดก่อน ผมยิ้มให้ ตอบกลับไปว่า “คิดถึงเหมือนกัน เหงานะ ไม่มีพวกแก”ทั้งสามคนนั่งลงข้างๆ รออีกคน คนสำคัญที่จะแวะมารับพวกเรา เหตุที่เรากลับมารวมตัว
สารทุกข์สุกดิบพรั่งพรูออกมาจากปากแต่ละคนไม่หยุดหลายปีที่เราแยกย้าย ไปพบเจอเรื่องราวต่างๆ และเติบโตขึ้นแต่ความเป็นเด็กของเรายังคงชัดเจนภาพก็ชัดเจน ไม่มีวันใดที่ลืมมันได้เลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in