เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
when I was in HainanKhunmook
คิดถึงอาอี๋ ผู้ที่ทำให้ฉันอ้วน
  • วิธีที่จะทำให้เราประหยัดเงินในกระเป๋า เมื่อครั้งที่ฉันได้ไปเรียนที่เกาะไหหนานนั้น วิธีหนึ่งที่ค่อนข้างดีเลยก็คือ การกินข้าวในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยแทนที่จะไปกินข้างนอก 

    กับข้าวในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยนั้นก็มีหลากหลายมากมาย วิธีการสั่งอาหารก็คล้ายกับข้าวแกงบ้านเรานี่แหล่ะ จะเลือกกินกี่อย่างก็ว่ากันไป แต่ที่แตกต่างกันก็คือ กับข้าวของที่นั่นจะไม่ใช่ ข้าวราดแกง 1 อย่าง 25 บาท 2 อย่าง 30  เหมือนที่บ้านเรา แต่ราคากับข้าวนั้นจะขึ้นกับวัตถุดิบของกับข้าว นั่นคือ ถ้ากินหมูก็แพงหน่อย แต่ถ้ากินผักก็ถูกเลย

    แต่ว่าวิธีการสั่งกับข้าวของที่จีนก็ไม่ได้ง่ายเหมือนที่ไทย ที่เราสามารถบอกคนตักได้ว่า "เอาอันนี้ กับอันนี้" โดยที่เราใช้นิ้วจิ้มไปที่กับข้าวได้ ที่ในโรงอาหารในมหาวิทยาลัยของฉันนั้น คนซื้อกับคนขายจะถูกกั้นด้วยกระจก และกับข้าว จะอยู่ทางด้านหลังของคนขาย วิธีที่เราจะสั่งกับข้าวได้ก็คือ เราจะต้องรู้ว่า กับข้าวนั้น มีชื่อว่าอะไร

    เอาแล้วไง ฉันผู้ซึ่งไปเรียนที่จีนได้ไม่นาน ภาษาก็ไม่ได้แข็งแรงขนาดที่ว่าจะรู้ชื่ออาหารทั้งหมดหรอกนะ ทางที่พอจะทำให้ฉันเอาตัวรอดได้ก็คือ การที่เรียกชื่อส่วนประกอบบางอย่างของกับข้าวนั้นๆ เช่น ถ้าอยากกินมะเขือเทศผัดไข่ ฉันก็แค่พูดไปว่า " 我要西红柿" (เอามะเขือเทศอ่ะค่ะ) ถ้าคนขายยังไม่เข้าใจล่ะก็ เราก็มีแผนสำรอง นั่นคือ การบอกตำแหน่ง แบบนี้ " 你的后面 , 右边右边, 啊 ! 对了对了" (ข้างหลังป้าอ่ะค่ะ ทางขวาค่ะ ทางขวา อ่ะ ใช่ค่ะๆ ถาดนั้นแหล่ะ ) บางครั้งกว่าที่คนตักจะเข้าใจ ก็เล่นเอาฉันเหนื่อยเหมือนกัน อาอี๋(ป้าหรือน้า) บางคนถึงขั้นโมโหเราเลยทีเดียว (เฮ้อ ไม่เข้าใจเรารึไงนะ เราต่างชาตินะป้าาา จะไปรู้ทุกคำได้ยังไงงงง)

    แต่มีอาอี๋ตักกับข้าวอยู่คนนึงที่ฉันประทับใจมากๆ อาอี๋คนนี้ค่อนข้างใจเย็นและตักกับข้าวให้ฉันเยอะมากกกกก ครั้งแรกที่เจอกัน จำได้ว่า ฉันก็เข้าไปด้วยท่าทางมึนๆและพูดภาษาจีนสั่งกับข้าวไม่ค่อยได้เหมือนเดิม แต่อาอี๋คนนี้กลับใจดี  เหมือนดูออกแหล่ะว่าฉันไม่ใช่คนจีน อาอี๋จึงบอกชื่ออาหารให้ฉันรู้ว่า กับข้าวที่ฉันจะสั่งนั้น มีชื่อว่าอะไร (แน่นอนล่ะ ก็จำไม่ค่อยได้อยู่ดี) นี่คือความประทับใจแรกของฉันที่มีต่ออาอี๋ และเมื่อฉันกลับมาถึงห้อง เปิดกล่องข้าวดู ฉันก็พบว่า อาอี๋ตักกับข้าวให้ฉันเยอะมากๆ คือก็เยอะกว่าที่คนอื่นๆเคยตักให้ฉันแหล่ะนะ

    หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าที่โรงอาหารคนจะเยอะขนาดไหน ฉันก็จะไปต่อคิวซื้อข้าวกับอาอี๋คนนี้ทุกครั้ง และฉันก็ได้กับข้าวเยอะทุกครั้ง และบางครั้งฉันเอากล่องข้าวของฉันลงไปซื้อข้าวเพื่อมากินบนห้อง ไม่ว่าฉันจะเอากล่องใหญ่ขนาดไหนไป อาอี๋จะใส่ทั้งข้าวและกับจนเต็มกล่องทุกครั้ง แรกๆฉันก็กินข้าวไม่หมดหรอก แต่หลังๆมานี่ก็กินไม่เหลือ ไปๆมาก็เริ่มไม่อิ่มแล้วล่ะ

    มีความสุขอยู่ได้ไม่นาน หลังจากนั้นความเครียดก็มาเยือน เมื่อฉันได้ไปชั่งน้ำหนัก ก็พบว่า น้ำหนักฉันขึ้นมา 5 กิโล ภายในเวลาอันสั้น หลังจากนั้นฉันจึงไม่ค่อยได้ไปกินข้าวที่โรงอาหารบ่อยนัก เพราะฉันหันมาลดน้ำหนักอย่างจริงจัง จึงไปตลาดอาหารสดมาทำกินเอง

    หลังจากนั้น อาอี๋กับฉันก็ไม่ได้พบเจอกันในโรงอาหารอีก แต่เราจะพบเจอกันตามทางเดินในมหาวิทยาลัยบ้าง อาอี๋จะทักทายฉันด้วยความคุ้นเคยตลอดทุกครั้งที่เจอกัน

    ช่วงครึ่งเดือนสุดท้ายก่อนกลับไทย ฉันได้แวะเวียนไปกินข้าวที่โรงอาหารอยู่บ่อยครั้ง แต่ฉันก็ไม่เจออาอี๋คนนั้นมาตักข้าวเหมือนเคย ฉันคิดว่าอาอี๋อาจจะไม่ได้ทำงานวันนี้ หรือบางทีอาอี๋อาจถูกสลับไปตักอาหารที่โรงอาหารอีกแห่งหนึ่งของมหาวิทยาลัยก็ได้ 

    ช่วงนั้นฉันไปโรงอาหารบ่อยขึ้น แต่ก็ไม่เจออาอี๋คนนั้นของฉันเลย จนวันสุดท้ายก่อนกลับไทย ฉันตั้งใจจะเอาของที่ระลึกไปให้อาอี๋ ฉันจึงถามหาอาอี๋กับพนักงานโรงอาหารคนอื่น แต่ฉันไม่รู้ชื่อของอาอี๋ของฉันคนนั้น ฉันจึงชี้ไปที่รูปที่แปะอยู่บนบอร์ดพนักงาน ที่ดูว่าหน้าตาคล้ายคลึงกับอาอี๋ของฉันมากที่สุด แล้วพนักงานโรงอาหารคนนั้นก็ชี้ไปที่พนักงานอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่อาอี๋คนที่ฉันตามหา (เฮ้ออ แล้วอาอี๋ของฉันไปไหนนนนน)

    สุดท้าย ฉันก็ไม่ได้ให้ของที่ระลึกกับอาอี๋ และเราสองคนก็ไม่ได้ร่ำลากันอย่างเป็นทางการ  คงจะมีก็แต่ไขมันที่อยู่ในตัวฉันนี่แหล่ะมั้ง ที่พอจะเป็นร่องรอยแห่งความประทับใจของอาอี๋ที่มีให้ฉัน

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in