เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
A Moment of my Lifennmally
About 31
  • ผ่านอายุ 30 มาอีก 1 ปี 

    ในช่วงเดือนมกราคม 2021 ก็ยังเฝ้ารอคอยผลสัมภาษณ์งาน โทรไปสอบถาม HR ของบริษัทนั้น ก็ยังไม่ได้คำตอบ ก็เลยแน่ใจแล้วล่ะว่าคงไม่ได้แล้ว เลยทำใจ ถึงแม้ว่าจะเสียใจและเสียดายก็ตาม

    ความเสียใจและนอยด์อยู่กับเราได้ไม่นานก็ Move on เพราะภาระงานหนักหน่วงจนทำให้ลืมนี้ไปได้ และล้มเลิกการสมัครงานหางานใหม่ไปเลย

    เรื่องงานในปีนี้ถือว่าเป็นที่สุดของช่วงชีวิตการทำงานมา 8 ปี เนื่องจากมี New Project เข้ามา 3 Project และต้องร่วมงานกับบริษัทในเครือที่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน (เนื่องจากเราอยู่สังกัด HQ จึงต้องรับผิดชอบร่วมงานกับบริษัทในเครือด้วย) รวมถึง Project ที่เป็น New Route อีก เหมือนสนุกและดูท้าทายให้ชีวิตการทำงาน แต่ความจริงมันไม่สนุกเลยสักนิดมันส่งผลกระทบชีวิตเรามากๆ

    1. Over time (OT) เยอะมาก จนคิดว่าเวลาวันนึงไม่ควรมี 24 ชั่วโมง วันหยุด วันเสาร์บางเสาร์ ก็ต้องมาทำงาน พอเงินเดือนออก ค่า OT ที่ได้รับมา กูก็ยังไม่รู้สึกหายเหนื่อยเลย กลับถึงหอก็สลบเลย น้ำไม่อาบ จนบางครั้งไม่มีเวลาเวลาโทรหาแม่เลย ซึ่งปกติจะโทรหาแม่ทุกวัน

    2. พองานเยอะเครียดไม่รู้ทำอย่างไร แดกเบียร์ค่ะ เป็นปีที่เสียค่าเบียร์เยอะมาก แดกทั้งวันธรรมดาและวันหยุด วันธรรมดากินเพื่อให้รู้สึกง่วงและหลับไปเพื่อจะได้ไม่ต้องฝันถึงเรื่องาน วันหยุดก็กินเพื่อให้บรรเทาความเครียด ให้สมองมันเมาๆอึนๆ ฟีลแบบอยากห้วิญญาณหลุดออกจากร่าง แบบไม่อยากรู้สึกอะไรสักอย่าง

    3. เป็นโรคกลัวการรับโทรศัพท์ เพราะเวลามีคนโทรมาหาเรา ส่วนใหญ่มักจะต้องมีปัญหาให้เราต้องไปจัดการแก้ไข บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ลำบากใจมากๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งนั้น ก็ต้องอดทนสุดๆ บางครั้งไม่ไหว กลับหอมาก็ร้องไห้แมร่งเลยย แต่ปีนี้สตรองขึ้นเยอะ ร้องไห้น้อยกว่าปีที่แล้ว

    4. ว่าด้วยเรื่องการร้องไห้ เนื่องจากงานมันเครียดและกดดันมากๆ ตอนกลับบ้านต่างจังหวัด มีครั้งนึงกำลังนั่งกินข้าวกับพ่อแม่แล้วพูดเรื่องงาน เราก็ร้องไห้เขื่อนแตกน้ำตาไหลสะอึกสะอื้นต่อหน้าพ่อแม่ไปเลย จนพ่อแม่ต้องปลอบกันในวงข้าวเลยทีเดียว (นั่งพิมพ์ตอนนี้น้ำตายังจะไหล ตอนนั้นมัน Sad มากจริงๆ)

    5. เนื่องจากหอกับที่ทำงานใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณ 3 ชั่วโมงต่อวัน นั่ง BTS ต่อรถบริษัท และด้วยงานที่เยอะสัสๆ ทำ OT กลับหอดึกเกือบทุกวัน วันหยุดมาทำงานอีก มันเหนื่อยยยยย เหนื่อยแบบร่างจะแหลก ความคิดซื้อคอนโดเพื่อให้ใกล้ที่ทำงานก็แว้บเข้ามาในหัว ก็หาๆและเจอคอนโดนึงแถวในซอยสุขุมวิท 101/1 โฆษณาว่า Ready to Move เข้าทางเลย ก็ไปดูแล้วจองเลยช่วงเดือนกรกฎา 2021 จนตอนนี้ กุมภา 2022 คอนโดกูยังไม่เสร็จเลย WTF!!!!

    6. เดือนธันวา เราก็ได้สมัครงานใหม่ไปอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นสายงานที่ทำอยู่แต่สเกลใหญ่ขึ้น (บริษัทใหญ่ขึ้น) เหตุผลที่สมัครงานใหม่คือ อยากลองเปลี่ยนงานสักครั้งในชีวิต อยากอัพเงินเดือน อยากไปเจอสังคมใหม่ เหตุผลเรื่องงานนี่เป็นรองๆไปเลย เพราะคิดว่าการทำงานอะไรที่ไหน มันก็ไม่ง่ายและไม่มีความสุขทั้งนั้นแหละ (ตอนนั้นและตอนนี้คิดแบบนี้จริงๆ) ทำงานเพื่อหาเงิน!

    7. ช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี กลับมาดูบอลและเชียร์บอลอย่างจริงจัง ถ้าบอลไม่เตะตีสองตีสามก็ดูเกือบทุกนัด ช่วยฮีลจิตใจได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตอนทีมที่เชียร์เตะชนะ เซลซีของพี่ปีนี้ลุ้นบอลถ้วยเอาเนอะ แชมป์พรีเมียร์ลีกไม่ทันแมนซิแน่นอน นอกจากบอลพรีเมียร์ลีก ก็ดูบอลบุนเดสดีกาของเยอรมัน แมร่งเตะกันมันดี วิ่งกันเหมือนไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย ดอร์ทมุนสู้ๆ

    8. เป็นปีของเรื่องงานล้วนๆ ไม่มีแฟน ไม่มีคนมาจีบ และไม่ได้ชอบใครเลย (มีคนแบบนี้อยู่จริงๆนะ ฮ่าๆ)

    และได้เข้าใจชีวิตมากขึ้นว่า ถ้าช่วงไหนไม่โอเค ไม่มีความสุข ทุกข์ใจ มันทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันและอดทนรอให้มันผ่านไป เพียงแค่พูดออกไปว่า ช่างแมร่ง บ่อยๆก็พอ.



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in