กว่าสองวันที่นางเฝ้ารอชายหนุ่มให้มาหายังกระท่อมแห่งนี้แต่ก็ไร้วี่แววบุรุษรูปงามที่บอกรักนางเมื่อวันก่อนคือคนเดียวกับที่หายหัวไปในตอนนี้กลางดึกนางตัดสินใจที่จะไปหาเขาเพื่อหวังไม่ให้ใครจับได้แต่ระหว่างทางยังบ้านของเจโนนางกลับไปพบภาพบาดตาบาดใจจนแทบสิ้นสติ
อ้อมแขนที่ประคองกอดเอวของหญิงสาวแปลกหน้านั้นทำให้แจมินต้องกำหมัดแน่นนางพยายามหาเหตุผลมาหักล้างถึงสิ่งที่ทำให้เจโนไม่สามารถมาหานางได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่บ้านหรือธุระสำคัญมากมาย แต่แล้วข้อเท็จจริงกลับเป็นเพียงแค่เขากำลังมีความสุขกับหญิงอื่นนางตัดสินใจเดินไปขวางทางคนทั้งคู่ก่อนจะส่งรอยยิ้มเยือกเย็นไปเป็นการทักทาย
“บังเอิญจังที่เจอเจ้าที่นี่” เสียงหวานเอ่ยทักทายก่อนจะปรายตามองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“แจมิน! เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร”
“ข้ามีขาข้าก็เดินมาสิข้าไม่ได้พิการจนต้องให้ใครช่วยจับเอวตอนเดินหรอกนะอีเจโน”
“มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด”
“แล้วที่ข้าเห็นมันคืออะไรล่ะ” นางยิ้มก่อนจะจ้องไปที่หญิงสาวอีกคนแล้วยกยิ้มมุมปาก
“แจมิน” เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างใจเย็น “ข้ามีที่ต้องไปไว้ค่อยคุยกันนะ”
“ก็พูดมันออกมาเลยสิ”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“อยากเห็นข้าร้ายใช่ไหม!”
“พอได้แล้ว!” เจโนดึงแจมินออกมา ภาพตรงหน้าไม่ใช่หญิงสาวแสนสวยแต่กลับเป็นแค่งูยักษ์ตัวหนึ่งซึ่งถึงแก่ความตายด้วยฝีมือของแจมิน “มันตายแล้ว”
“มันคือ...”
“ใช่ ปีศาจงูพันปี กว่าข้าจะล่อมันออกมาได้ก็ใช้เวลาถึงสองวัน”
“ข้าขอโทษ....”
“เฮ้อ ไม่เป็นไร” เขาดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดแล้วกดปลายจมูกลงที่กลุ่มผมสีดำนั่น
นางทรุดตัวลงกับพื้นดินโดยที่สายตายังคงมองศพตรงหน้า
“ลุกขึ้นเถอะ ต้องล้างเนื้อล้างตัวนะ ดูสิเปื้อนไปหมดแล้ว”
แสงดาวที่พร่างพราวบนท้องฟ้าคงไม่อาจสู้ความงามของใบหน้าของหญิงตรงหน้าได้เลยจุมพิตแสนหวานเกิดขึ้นภายใต้แสงจันทร์ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนเรียวลิ้นร้อนชื้นถูกส่งเข้าไปภายในรังผึ้งที่เต็มไปด้วยน้ำหวานของนางพญาอย่างแจมินเกี่ยวตวัดเอาของเหลวสีใสมาลิ้มลองจนพอใจก่อนจะถอดจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งก้านนิ้วเรียวยาวดึงเชือกที่ผูกเสื้อออกอย่างอ้อยอิ่งเสื้อผ้าชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกถอดด้วยความตั้งใจของทั้งสองฝ่าย ลำธารริมกระท่อมคือสถานที่ชำระล้างคราบเลือดให้ออกจากตัวจนหมด
เมื่อสองกายแนบชิดกันความรู้สึกที่อยู่ลึกภายในใจก็ตีตื้นขึ้นมากะทันหันส่วนที่กำลังแข็งตัวดุนดันส่วนล่างอย่างตั้งใจ ขาเรียวยาวถูกแยกออกก่อนที่ชายหนุ่มจะส่งบางสิ่งเข้ามาภายในดอกไม้งามแผ่นหลังของแจมินสัมผัสเข้ากับความเย็นของโขดหินริมลำธารเล็บคมจิกเข้าที่หัวไหล่ซึ่งมีรอยประทับของตระกูลและมันคือจุดเดียวกับรอยแผลเป็นของเจโนในอดีต
“อื้อ...” ความคับแน่นไม่ได้สร้างความเจ็บปวดหากแต่สร้างความวูบโหวงที่หน้าท้องจนต้องปล่อยเสียงในลำคอออกมาแทน
“เวลาเจ้าหึงนอกจากจะน่ากลัวแล้ว...ยังน่ารักด้วยนะรู้ตัวไหม”
“อ๊ะ! เจโน…เบา ๆ”
“เจ้ายั่วข้าเองนะ”
“ข้าเปล่า”
“เจ้านั่นแหละทำ อืม..”
“อึก! เจโน….”
“บอกสิ่งที่เจ้าต้องการมาสิแจมิน”
“แรงอีก...อ๊ะ” เสียงเนื้อกระทบกันคงไม่ดังเท่าเสียงของน้ำที่แตกกระจายเนื่องจากแรงกระแทกด้านล่างทั้งคู่เปียกแต่ไม่มีใครสนใจเท่าไหร่เพราะตอนนี้พวกเขาสนใจแค่สิ่งที่กำลังทำให้มีความสุขมากกว่า
เจโนทำตามคำร้องขอของแจมินโดยไม่ปฏิเสธเขาโถมกายใส่เฮือกสุดท้ายแล้วปลดปล่อยสายธารเข้าสู่ร่างกายของหญิงสาว
ดวงตาคู่โตมองจ้องเข้าไปในดวงตาที่แสนลึกลับนั่นก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
“ถ้าข้าไปมีหญิงอื่นจริง ๆ เจ้าจะทำเช่นไร”
“ข้าจะทำให้เจ้าเจ็บปวดยิ่งกว่าข้า”
“เจ้าดุแบบนี้เสมอเลยหรือไง”
นางส่ายหน้า “เฉพาะเรื่องของเจ้าเท่านั้น”
“สงสัยข้าคงต้องกลัวเมียแล้วล่ะสิ”
“อุ้มข้าไปนอนทีได้ไหม ข้าเหนื่อยเหลือเกิน”
“ได้อยู่แล้วขอรับแม่นางปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง”
ในอ้อมกอดของคนรักแจมินรู้สึกเหมือนตนย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมนุษย์ครั้งแรกแต่ครั้งนี้ช่างแตกต่างตรงที่เป็นคนละเจโนและคนปัจจุบันนั้นยอมรับตัวตนแท้จริงของนางได้
“ตอนนั้นข้าไม่มีสติพอจะแยกว่าเป็นมนุษย์หรือปีศาจได้หรอก”
“พิษรักแรงหึงเป็นเช่นนี้นี่เอง”
“แล้วเหตุใดเจ้าต้องไปโอบเอวของนางด้วย”
“เพื่อความสมจริง”
“แล้วถ้ามันเลยเถิดล่ะ”
“ข้าไม่ให้มันเกิดขึ้นหรอกน่าเจ้าสบายใจได้”
“ชิ”
“นอนเถิดแม่นาง เจ้าบอกว่าเหนื่อยข้าก็จะไม่กวน”
แจมินยิ้มก่อนจะพลิกกายขึ้นมาทับบนตัวของเจโน
“เจ้าก็จงรู้ไว้ว่าพรุ่งนี้เจ้าจะไม่มีแรงได้เดินออกไปนอกบ้าน”
โปรดติดตามตอนต่อไป
แงแอท่านนั่นร้ายรึไม่ร้ายกันแน่เจ้าคะ
(แต่ท่านแซ่บแน่นอน)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in