ต้นตระกูลที่มีชื่อเสียงของเมืองเป็นต้นแบบของครอบครัวอื่น ๆมานับพันปี หญิงสาวหลายต่อหลายคนต่างหมายปองบุตรชายตระกูลอีกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นคนโตนามว่า แจฮยอน ซึ่งเป็นทั้งแม่ทัพและสหายคนสนิทของพระราชา หรือจะเป็นคนรองนามว่าโดยอง แต่ทั้งสองคนที่กล่าวมายังคงไกลเกินที่สาวชาวบ้านจะเอื้อมถึง จึงเหลือบุตรคนเล็กอีกหนึ่งคนที่รูปงามไม่แพ้พี่ชายทั้งสอง
อีเจโนผู้รักในเสียงดนตรีและมักจะเที่ยวเล่นไปตามโรงเตี๊ยมในยามค่ำคืนเสมอชื่อของเขาคือชื่อเดียวกับบรรพบุรุษผู้ที่สามารถช่วยเหลือเมืองนี้จากความชั่วร้ายของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้สำเร็จพ่อและแม่คาดหวังให้ตัวเขาเก่งกาจกว่าพี่น้องอีกสองคนแต่เพราะความกดดันที่มากเกินไปเขาจึงกลายเป็นคนต่อต้านความรู้ทุกแขนงเกียจคร้าน และไม่เอาไหนเพื่อที่อย่างน้อยเขาจะได้ถูกเลิกคาดหวังเสียที
“วันนี้นายน้อยของเจ้าไปไหนเสียล่ะ” ผู้เป็นใหญ่ในบ้านเอ่ยถามแม่นมที่เลี้ยงดูเจโนมาตั้งแต่เกิด
“นายน้อยบอกว่าจะไปที่วัดโบราณบนเขาเจ้าค่ะ”
“ไปทำอะไรเจ้ารู้ไหม”
“ไม่ทราบเจ้าค่ะ” นางตอบตามจริงจึงทำให้ผู้เป็นนายไม่ติดใจซักถามต่อ เขาเดินกลับไปยังห้องนอนที่มีภรรยารออยู่ก่อนแล้ว
“ของท่านด้วยเช่นกัน”
“เฮ้อ”
“ท่านพี่กำลังคิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ”
“เจ้าจำที่ข้าเคยเล่าให้ฟังได้ไหมว่ามีปีศาจจิ้งจอกเก้าหางถูกจองจำวิญญาณไว้ที่วัดโบราณบนยอดเขาสูง”
“ได้สิเจ้าคะ บรรพบุรุษของตระกูลอีเป็นผู้ปักดาบศักดิ์สิทธิ์ลงไปที่กลางอกของนางปีศาจแล้วนำดาบเล่มนั้นไปไว้ที่นั่น”
“และรอเวลาหนึ่งพันปีเพื่อชำระแค้น”
“ท่านพี่กำลังหมายถึงสิ่งใดเจ้าคะ ข้าไม่ค่อยแน่ใจ”
“เจโนกำลังไปที่นั่น”
“ที่ไหนเจ้าคะ!”
“วัดโบราณบนยอดเขา ออกไปแล้ว จะส่งคนไปตามก็คงจะถูกไล่ตะเพิดกลับมา”
“แล้วทำไมท่านถึงได้นิ่งนอนใจเช่นนี้ หรือเพราะลูกข้าไม่เอาไหนเลยได้รับความรักน้อยกว่าแจฮยอนและโดยอง”
“เจ้าฟังข้าก่อน ข้าแค่สังหรณ์ใจว่านี่คือชะตาฟ้าลิขิต”
“จะเพราะเหตุใดข้าก็ไม่สน ข้าเป็นห่วงลูกหากท่านพี่ไม่สนใจข้าก็จะออกไปตามหาเอง”
“นี่มันกี่ยามแล้วเจ้าเป็นหญิงจะออกไปตอนนี้ไม่อย่างไร”
“ก็ข้าเป็นห่วงลูกนี่เจ้าคะ”
“เจโนฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดได้ และข้าไม่คิดว่าเจ้าลูกคนนี้จะถูกใครทำร้ายง่ายๆ หรอก”
“แล้วถ้าเป็นปีศาจล่ะเจ้าคะ”
“ก็แค่หวังว่ามันจะไม่ทำอะไรเขา”
ชายหนุ่มสนุกกับการขี่ม้าขึ้นมาบนยอดเขาสูงจนลืมไปว่าพาหานะของเขาต้องการพักบ้างเขากระโดดลงมายืนบนพื้นและเลือกจูงม้าไปยังลำธารแทนแสงจันทร์ในยามค่ำคืนคือแสงนำทางเขาได้เป็นอย่างดีการไร้ผู้ติดตามคืออิสระที่เขาโหยหามาตลอดและอยากใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยซ้ำ
ตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกมาสิ่งที่เขาได้ยินและรับรู้มาตลอดนั่นก็คือการที่มีรูปร่างและหน้าตาคล้ายคลึงกับบรรพบุรุษของตนท่านหนึ่งซึ่งพ่อของเขาก็ตั้งใจหยิบเอาชื่อของบุรุษผู้นั้นมาตั้งเป็นชื่อของเขา เขาถูกคาดหวังว่าต้องเหมือนกับเจโนคนเก่าโดยไม่มีใครเคยถามเลยสักคำว่าเขาต้องการสิ่งใด
เจโนทิ้งตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ พิงศีรษะกับตัวลำต้นก่อนจะหลับตาเพื่อสูดดมเอาอากาศแสนบริสุทธิ์เข้าไปกลิ่นหอมของดอกไม้ลอยเตะจมูกจนเผลอยิ้มออกมาความหอมนั้นแม้จะเบาบางแต่กลับตราตรึงเข้าไปในหัวใจจนไม่สามารถสลัดมันให้หลุดออกไปได้
เขาได้ยินเรื่องตำนานของวิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมาตั้งแต่เด็กจนโตด้วยความคะนองของจนจึงทำให้เขาตัดสินใจควบม้ามายังที่แห่งนี้เขาตัดสินผูกม้าไว้ข้างลำธารเพราะมันคงเหนื่อยล้าเกินกำลังของมันแล้วเขาเลือกเดินเท้าขึ้นไปด้านบนแทนเพราะอีกไม่ไกลนักก็จะถึงที่หมายแล้ว
สายลมเอื่อยเฉื่อยในคืนเงียบสงัดชวนให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อพันปีก่อนหญิงสาวในชุดฮันบกสีขาวนั่งห้อยขาอยู่บนกิ่งไม้อย่างใจเย็นสายตาทอดมองไปยังคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ด้วยหัวใจที่พองโต แม้จะเต็มไปด้วยความแค้นแต่นางก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ายังคงมีความรักหลงเหลืออยู่ในภายในก้นบึ้งของหัวใจ
ชายหนุ่มหยุดพักหน้าทางเข้าวัดด้วยความเหนื่อยหอบ เขาทิ้งตัวลงนั่งที่บันไดขั้นบนสุดก่อนจะเงยหน้ามองดวงจันทร์ที่เคลื่อนตัวมาอยู่กลางศีรษะของเขาในตอนนี้
“ข้าหลงทาง”
เขามองเจโนปราดเดียวก็รู้ว่านี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่เข้าใจในตอนแรก
“ขอรับ” ชายหนุ่มเดินตามเข้าไปด้านในโดยที่หางตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างบนต้นไม้แต่เมื่อเพ่งมองอย่างถี่ถ้วนแล้วเขากลับไม่พบสิ่งใด
“เจ้าเข้าไปนอนในวิหารได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางต่อ”
เขาถือวิสาสะจุดเทียนภายในนั้นเพื่อมอบแสงสว่างและความอบอุ่นให้กับร่างกายสายตาเรียวคมไล่มองรอบกายด้วยความสงสัยจนสายตาไปสะดุดเข้ากับดาบเล่มหนึ่งซึ่งถูกวางไว้บนหิ้งสูงรายล้อมไปด้วยเส้นด้ายสีแดงซึ่งมียันต์สีเหลืองแปะทับเขาเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะเอื้อมมือไปจับดาบเล่มนั้น
ลมแรงพัดเข้ามาภายในจนหน้าต่างและประตูกระทบกันเสียงดังแต่นั่นก็ยังไม่สามารถช่วยดึงให้ชายหนุ่มกลับมามีสติได้อีกครั้งเขาใช้มืออีกข้างดึงดาบออกจากฝัก จากนั้นไม่นานก็มีกลุ่มควันสีฟ้าล่องลอยออกมาเขาตกใจจึงทิ้งดาบเล่มนั้นลงกับพื้น
“คนที่ขังข้าไว้คือคนเดียวกับที่ปลดปล่อยข้าสินะ”
“จะ..เจ้าเป็นใคร”
“ข้าคือคนรักของเจ้าเมื่อหนึ่งพันปีก่อน”
โปรดติดตามตอนต่อไป
เราเห็นฟีดแบคในทวิตแล้วนะคะดีใจมาก
จะพยายามพัฒนาฝีมือการเขียนอย่างแน่นอนค่ะ
และขอบคุณหลายๆคนที่ทักมาท้วงคำผิดเพราะบางทีเราก็ตาลาย
รักคนอ่านนะคะ อิอิ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in