ภาพปก Wang Yixuan/IC
เซี่ยงไฮ้ : ณ โรงภาพยนตร์ที่คราคร่ำไปด้วยกลุ่มเด็กสาวที่กำลังตื่นเต้นและชายหนุ่มผู้หลงใหล ต่างพากันกระซิบกระซาบถึงเด็กหนุ่มผิวขาวในทรงผมกะลาครอบ
ทุกคนกำลังพูดถึงหวังจุนไค (อายุ 18 ปี) นักร้องนำเสียงใสแห่ง TFBOYS วงบอยแบนด์ของจีนที่มีสมาชิก 3 คน แม้ว่าหวังจุนไคจะไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย แต่เด็กๆ วัยทีนและสาวๆ อายุ 20 เศษๆ พากันเขียนข้อความแสดงความรักของพวกเธอลงบนป้ายที่ทำขึ้นเอง ประโยค "จากจุดเริ่มต้นถึงอนาคต จะมีแค่หวังจุนไคเท่านั้น" ที่ตะโกนซ้ำไปซ้ำมาต่อหน้ากล้องนั้น เป็นสโลแกนที่ใช้กันแพร่หลายในกลุ่มแฟนคลับ
พวกเขาเหล่านี้คือซุปเปอร์แฟนของหวังจุนไค เป็นวัยรุ่นที่มารวมกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรมสนับสนุนดาราที่ตัวเองชื่นชอบ ประเทศจีนมีกลุ่มแฟนคลับลักษณะนี้เป็นร้อยๆ ที่จัดกิจกรรม ซื้อผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่บริจาคเงินเพื่อการกุศลในนามของไอดอล ปัจจุบันอุตสาหกรรมแฟนคลับของจีนมีมูลค่าหลายพันล้านหยวนและคาดว่าจะพุ่งถึง 100 พันล้านหยวน (15.8 เหรียญสหรัฐ) ในปี 2020
ลำพังแค่หวังจุนไคคนเดียวก็มียอดฟอลมากกว่า 39 ล้านคนบนเว่ยป๋อ (โซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน) ข้อความที่เขาโพสต์ขอบคุณแฟนๆ เนื่องในวันเกิดอายุ 15 ปี ถูกบันทึกลงกินเนสบุ๊คว่าเป็นข้อความที่มีการรีโพสต์มากที่สุดของเว่ยป๋อ แฟนคลับของหวังจุนไครู้จักกันในนาม "ปูน้อย" ซึ่งออกเสียงคล้ายกับชื่อของเขาในสำเนียงฉงชิ่ง (บ้านเกิดของหวังจุนไค) มีการรวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นเป็นระบบทั่วทั้งประเทศจีน แต่ละกลุ่มอุทิศเวลาและเงินเป็นจำนวนมากในการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนความดังของเขา อย่างที่เซี่ยงไฮ้ก็มีหู (อายุ 20) และ เจิ้งถังถัง (อายุ 25) ที่เป็นแกนนำหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับลักษณะนี้ ช่วงเดือนธันวาคม พวกเธอยุ่งมากกับการแพ็คถุงของขวัญและแจกจ่ายตั๋วหนังที่จองเอาไว้ล่วงหน้า จนไม่ได้กินข้าวกินปลา
หูและแฟนๆ จำนวนนึงทำป้ายโปรโมทหวังจุนไคขนาดยักษ์ติดตั้งที่โรงภาพยนตร์กลางนครเซี่ยงไฮ้ ดึงดูดคนที่เดินผ่านไปผ่านมาให้หยุดถามว่า พวกเธอกำลังทำอะไรกัน? บางคนคิดว่าเป็นกิจกรรมจับสลากหาผู้โชคดี บ้างก็ถามว่า จะมีดาราตัวเป็นๆ มาเหรอ หูไม่สนใจผู้คนเหล่านั้น หลายปีในฐานะปูน้อยที่ภักดี เธอเคยโดนมองด้วยสายตาสงสัยแบบนี้มาแล้ว
ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังรอคอยที่เฉลิมฉลองในวันส่งท้ายปีเก่า เด็กสาวหน้าใสที่เพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนอาชีวศึกษาใช้เวลาตลอดทั้งวันหยุดสุดสัปดาห์ในการเตรียมงานโปรโมทภาพยนตร์ "นามิยะ" รอบปฐมทัศน์ ที่หวังจุนไคแสดงนำเป็นครั้งแรก แทนที่จะซื้อตั๋วใบเดียวให้กับตัวเอง หูจองโรงหนัง 200 ที่นั่งไปทั้งหมด 4 โรงทั่วเซี่ยงไฮ้เพื่อจัดกิจกรรมดูหนังกับเหล่าแฟนคลับด้วยกัน
มีแฟนคลับอย่างน้อย 100 กลุ่ม ที่อุทิศตนเพื่อหวังจุนไคเพียงคนเดียว ผลจากการค้นเว่ยป๋อของ Sixth Tone พบว่า กลุ่มแฟนคลับเหล่านี้มีหลายขนาดและให้ความสนใจในเรื่องที่ต่างกัน มีกลุ่มที่ชอบเขียนข่าวและข้อมูลของหวังจุนไคและทำให้มันกลายเป็นไวรัล, กลุ่มที่เน้นการระดมโหวตเพื่อทำให้เพลงของเขาติดชาร์ต, กลุ่มที่มักจะเผยแพร่รูปแฟนอาร์ตต่างๆ หรือแม้แต่กลุ่มที่ทำทุกอย่าง กลุ่มของหูไม่ได้ติดต่อโดยตรงกับบริษัทต้นสังกัดของหวังจุนไค แต่อดีตแกนนำแซ่โจว ผู้ไม่ประสงค์จะออกนามด้วยเหตุผลส่วนตัว ได้ให้ข้อมูลกับทาง Sixth Tone ว่า หวังจุนไคนั้นช่วยให้กลุ่มของพวกเธอได้รับการรับรองจากเว่ยป๋อ
อีเว้นท์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของหวังจุนไคเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้ ในการเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 18 ปีของหวังจุนไค เมื่อปลายเดือนกันยาที่ผ่านมา แฟนๆ เลิกเช่าพื้นที่โฆษณาบิลบอร์ดที่ไทม์สแควร์ นิวยอร์ค ซึ่งปกติเป็นตำแหน่งที่แฟนคลับนิยมเช่ากันเพื่อทำโปรเจกต์วันเกิดให้กับศิลปินจีน พวกเธอเปลี่ยนไปเช่าเครื่องบินเหินสู่ท้องฟ้าแล้วพิมพ์เป็นชื่อของหวังจุนไคเหนือป้าย Hollywood ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งลอสแองเจลิส แล้วยังซื้อดาวบนท้องฟ้าเรียงกันเป็นตัวย่อชื่อของเขาแทน กลุ่มแฟนคลับของหวังจุนไคอ้างว่า มีคนเข้าร่วมกิจกรรมชมภาพยนตร์นามิยะที่กลุ่มแฟนคลับจัดขึ้น 140 เมืองทั่วประเทศและต่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,422 คน โดยกิจกรรมดังกล่าวได้เงินสนับสนุนมาจากเหล่าสมาชิก นี่ไม่ใช่แค่การแสดงความรักแบบไร้เงื่อนไขเสียทีเดียว เพราะการที่แฟนๆ ซื้อผลิตภัณฑ์หรือจัดกิจกรรมดูหนังแบบนี้ขึ้นมา ด้วยหวังว่าแบรนด์ต่างๆ จะสนใจแล้วตกลงร่วมงานกับไอดอลของตนต่อไปในอนาคต ขณะที่โรงภาพยนตร์เองอาจจะพิจารณาเพิ่มรอบฉายภาพยนตร์ "วันแรกๆ ของการฉายเป็นตัวตัดสินชะตาของหนัง" เจิ้ง (อายุ 25) กล่าวไว้ เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมจัดงานโปรโมท ผู้ใช้ชื่อเล่นว่าถังถัง เพื่อแยกบทบาทแกนนำแฟนคลับออกจากชีวิตจริง
ความรักที่หูมีให้กับหวังจุนไคเริ่มต้นขึ้นในปี 2013 ก่อนที่วง TFBOYS จะเดบิวต์ เธอดูวีดีโอที่หวังจุนไค ร้องเพลงทางช่องออนไลน์ ในตอนแรกโดนดึงดูดด้วยความหล่อและเสียงอันไพเราะของเขา แต่เมื่อได้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเด็กชายวัย 13 ปีคนนั้น ก็ติดใจกับนิสัยใจคอของหวังจุนไคไปด้วย "เขาทำงานหนักมาก" หูบอกกับ Sixth Tone "ฉันนึกไม่ออกเลยว่า เด็กอย่างเขาคิดอะไรได้ลึกซึ้งถึงขนาดนี้ได้อย่างไร ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กในวัยเดียวกัน"
ปีทีแล้วหูย้ายจากเหอหนานมายังเซี่ยงไฮ้ เธอเข้าร่วมกลุ่มแฟนคลับท้องถิ่น ที่เป็นสาขาย่อยจากสาขาใหญ่ที่มีสาขากว่า 30 เขตทั่วประเทศ แต่ละสาขามีแกนนำราวๆ 12 คน และสมาชิกสมทบอื่นๆ ที่เข้าๆ ออกๆ หูเริ่มทำงานในฐานะแกนนำตั้งแต่ก่อนจัดกิจกรรมดูหนังในเดือนธันวา เธอรับหน้าที่สำรวจโลเคชั่นของสถานที่จัดงาน, โปรโมท และสั่งซื้อของขวัญ โดยใช้เวลาว่างของวันปกติและช่วงวันหยุด ในขณะเดียวกันยังต้องทำงานเต็มเวลาที่โรงเรียนอนุบาลท้องถิ่น กราฟการเรียนรู้ของหูพุ่งพรวดเลยทีเดียว ตอนที่เธอต้องโทรหาผู้จัดการโรงภาพยนตร์สอบถามเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมในเดือนธันวาคม เธอกังวลใจมากจนต้องจดคำถามที่ต้องถามไว้บนกระดาษโน้ต "รู้สึกเหมือนอยู่ในที่ทำงานเลย" แม้ว่าจะอยู่ในระดับแกนนำแฟนคลับ หูยังพูดตะกุกตะกักว่า "ฉันทำเหมือนว่านี่คืออาชีพของฉันเลย"
แม้ว่าภารกิจนี้จะยากสำหรับมือใหม่อย่างเธอ แต่หูก็สนุกกับการทำงานร่วมกับพี่น้องในกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบหวังจุนไคเหมือนกัน ทว่าหน้าที่ความรับผิดชอบของเธอเป็นเหมือนแรงกดดันมหาศาล "ฉันกลัวว่าตัวเองจะทำทุกอย่างพัง ถึงฉันจะดูไม่ดีก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญกว่าคืออย่าให้แฟนคนอื่นต้องผิดหวัง" เธอยังเสริมด้วยว่า "ถ้าคุณเป็นแค่แฟนธรรมดา คุณยังเลือกได้ว่าจะทำอะไร แต่ถ้าคุณเข้าร่วมกลุ่มแฟนคลับแล้ว ถึงเป็นเรื่องที่คุณไม่อยากทำคุณก็ล้มเลิกไม่ได้"
ในส่วนของเจิ้งนั้น เธอเริ่มสนใจหวังจุนไคตั้งแต่ปี 2014 และมองว่าตัวเองนั้นเป็น "แฟนคลับประเภทพี่สาว" ผู้ที่เสียสละคอยเอาใจใส่ดูแลไอดอลของตัวเอง เธอใช้แอปพลิเคชันนำทางเป็นเสียงของหวังจุนไคและใช้ซองใส่ใบขับขี่เป็นรูปเขาด้วย "เหมือนเป็นสาวก" เจิ้งพูดด้วยสำเนียงเซี่ยงไฮ้ "ไอดอลมีคุณลักษณะบางอย่างที่ทำให้คุณปรารถนาและเลื่อมใส"
แม้ในตอนนี้เธอจะทุ่มเทให้กับหวังจุนไค แต่เจิ้งจำต้องละทิ้งบทบาทแกนนำกลุ่มแฟนคลับในอีกไม่ช้า เพื่อไปเริ่มต้นประกอบอาชีพ บทบาทของเจิ้งในกลุ่มแฟนคลับเป็นต้นเหตุทำให้เธอขัดแย้งกับพ่อแม่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้พ่อแม่ยอมรับได้ว่าลูกสาวใช้เวลาหมกหมุ่นไปกับไอดอลมากกว่าหางานทำ เจิ้งเพิ่งจะเรียนจบและยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งไม่ค่อยพอใจนักเวลาที่เห็นเซ็ตของขวัญ 400 เซ็ต อันประกอบไปด้วย ขวดน้ำ เกมการ์ด และแบนเนอร์ ส่งพัสดุมาถึงบ้าน แต่เจิ้งสามารถโน้มน้าวให้แม่ของเธอช่วยแพ็คถุงของขวัญในตอนกลางคืนและขับรถไปส่งของที่โรงหนังเพื่อแจกของเหล่านั้นให้กับเหล่าคนที่มาร่วมงาน "ทั้งหมดที่ทำมันเหนื่อยมาก" เจิ้งยอมรับและเข้าใจถึงความกังวลของแม่เธอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in