เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
YUMARKhikari_sakai
✟ ψυχοπομπός ✟

  •  

    ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติผมก็จะตามหาคุณ

    เพื่อที่ให้เราทั้งสองคนนั้นกลับมาเคียงคู่กันได้อย่างเช่นเคย

     

     

     

                ผมยืนมองผู้ชายตัวเล็กกว่าผมและรูปร่างบอบบางจนเหมือนจะแตกสลายได้ง่ายยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาจนไหล่เล็กที่สั่นสะท้านอยู่นั้นเปียกชุ่มโดยไม่ได้สนใจว่าจะมีใครมองเขาอยู่หรือไม่แต่เขาก็ไม่ใส่ใจยังคงก้มหน้าร้องไห้จนน้ำสีใสไหลท่วมใบหน้าจมูกและแก้มที่แดงเพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้ผมเริ่มที่จะทนไม่ไหวเมื่อเห็นภาพนั้นขายาวๆของผมก้าวออกไปอย่างไม่ได้คิดก่อนจะยื่นร่มคันใหญ่สีใสไปช่วยบังหยาดฝนที่เริ่มร่วงหล่นลงมาแรงขึ้นกว่าเดิม


     

                "ถ้าไม่รังเกียจให้ผมไปส่งที่บ้านได้ไหมครับ"


     

                ดวงตาสวยที่เอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตามองมาที่ผมด้วยความแปลกใจที่เห็นคนแปลกหน้าอย่างผมพูดด้วยแบบนั้นแต่ผมก็ไม่รอให้คนตรงหน้าได้พูดอนุญาติออกมาผมดึงมือคนที่ยืนนิ่งอยู่ให้ออกจากที่ตรงนั้นให้ตามมามือเล็กที่เย็นเฉียบเพราะอากาศที่หนาวเย็นซึมซับเข้าสู่ความอบอุ่นจากมือผมที่บีบมือเล็กนั้นเอาไว้แน่นอาจจะเพราะเขายังปรับตัวไม่ทันเขาจึงเดินตามผมมาอย่างง่ายดายก่อนที่จะหยุดยืนนิ่งแล้วดึงมือกลับ


     

                "เดี๋ยวสินายเป็นใครเรารู้จักกันด้วยเหรอ?"

     

                "คุณอาจจะไม่รู้จักผมแต่ผมเป็นคนที่เฝ้ามองคุณอยู่ตลอดเวลา"

     

                "นายเป็น...สโตกเกอร์เหรอ?"

     


                สโตกเกอร์...ผมอาจจะเป็นแบบนั้นจริงก็ได้เพราะเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้วที่ผมแอบเฝ้ามองคนนี้ผ่านทางกระจกใสพร้อมกับผู้ชายร่างสูงที่มักจะเห็นอยู่ด้วยเป็นประจำก่อนที่ชายคนนั้นจะหายจากเขาไปในวันนี้ผมไม่อยากใช้โอกาสนี้เข้าหาด้วยความรู้สึกแบบนี้อยากที่จะรู้จักสนิทสนมกันด้วยความรู้สึกดีๆมากกว่าแต่เวลานี้ผมกลับไม่อยากปล่อยให้ร่างเล็กต้องอยู่เพียงคนเดียวกับน้ำตาที่ยังคงไหลไม่ขาดสายอยากกอดเอาไว้แล้วให้น้ำตาไหลลงมาเปียกชุ่มที่ไหล่ของผมแทน


     

                "ผมเป็นANGELครับ"ดวงตาสวยจ้องมองผมด้วยความสงสัยเมื่อผมบอกออกไปแบบนั้น

     

                "ANGEL?นายเพี้ยนรึปล่าว" ริมฝีปากบางยิ้มให้กับผม

     

                "ก็แล้วแต่คุณจะคิด"ผมยิ้มตอบกลับ

     

                "ถ้าอย่างนั้นแองเจิลจะช่วยผมให้มีความสุขได้สินะ"

     


                "ได้เท่าที่คุณต้องการ"ผมคว้าเอวบางแล้วรั้งเข้ามาประชิดตัวใบหน้าเล็กดูจะประหม่าเล็กน้อยที่ถูกคนแปลกหน้าอย่างผมทำแบบนั้นแต่เมื่อผมเห็นใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อแล้วก็อดไม่ได้ที่จะดึงเข้ามาให้แนบชิดกว่าเดิมจนรู้สึกถึงความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายไม่ทันที่เขาจะตั้งตัวผมก็ก้มลงแตะริมฝีปากเย็นเฉียบนั้นด้วยริมฝีปากนุ่มของผม


     

                "เดี๋ยว.."ได้ยินเสียงร้องท้วงขึ้นมาและแรงดันจากมือเล็กที่กำลังผลักอกผมอยู่แต่มือของผมกลับยิ่งรั้งร่างบางเข้ามาจนแน่นแล้วกดแนบริมฝีปากนุ่มด้วยความร้อนแรงจนคนในอ้อมกอดอ่อนระทวยมือที่ผลักไสกลับกำเสื้อสูทสีเข้มของผมแน่นเมื่อร่างบางเผลอผมก็แทรกความอุ่นชื้นเข้าสัมผัสความหอมหวานในโพรงผนังปากอย่างกระหายไม่ได้สนใจว่าร่างบางจะดิ้นรนสักแค่ไหนเพราะนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้พบกับเขาก่อนที่จะพาเขาไปสู่แม่น้ำแห่งความตาย...

     

     

                จริงแล้วผมไม่ใช่ANGELอย่างที่บอกหรอก

     

                ตัวจริงผมคือ..

     

                ยมทูต

     

                และในวันนี้ผมจะมารับเขาไป

     

     

     

                10นาทีที่แล้ว

     

                เพราะฝนที่ตกหนักทำให้ถนนลื่นชายหนุ่มสองคนที่ถกเถียงกันอยู่ภายในรถจนกลบเสียงเพลงแจ็สที่เปิดคลออยู่ลืมไปว่าด้านหน้าของถนนเป็นทางแยกและไฟจราจรก็เสีย ด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของคนขับเขาเหยียบคันเร่งเร็วหวังจะข้ามผ่านทางสี่แยกนั้นไปโดยลืมดูไปว่าด้านซ้ายนั้นมีรถบรรทุกกำลังแล่นมาเสียงปะทะกันของเหล็กสองชิ้นดังจนคนแถวนั้นต้องออกมาดูอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแสงไฟจากหน้ารถบรรทุกส่องให้เห็นชายหนุ่มร่างบางที่นอนจมกองเลือดอยู่และคนขับที่กระเด็นออกมาก่อนตอนที่เกิดแรงปะทะเขารู้สึกตัวขึ้นและพยายามเอื้อมมือคว้าร่างบางที่นอนแน่นิ่งอยู่ใกล้ๆแต่ขาทั้งสองข้างก็ไร้เรี่ยวแรง พยายามใช้มือดันตัวให้ไปยังคนที่เขารัก


     

                "มาร์ค!!!ไม่นะ !!! ผมขอโทษ" แจบอมดึงร่างบางมากอดเอาไว้ น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสายพร้อมเสียงสะอื้นแทบขาดใจร่างบางนอนแน่นิ่งไร้การเคลื่อนไหวและลมหายใจ...

     

    .

    .

    .

    .

     

     

                เสียงไซเรนจากรถตำรวจและรถพยาบาลดังลั่นในแถบนั้นผมกำลังยืนกลางสายฝนและเริ่มรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแจบอมกอดตัวผมที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงจนเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าของเขา เสียงสะอื้นแทบขาดใจที่ได้ยินอยู่นั้นทำให้ผมต้องกัดปากแน่น

     


                เพียงเวลาชั่วครู่ผมก็ถูกพรากลมหายใจมาเสียแล้ว

     

     

                "นี่ผมตายแล้วเหรอ?"ผมหันไปถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยอาการสงบนิ่ง

     

                "ใช่ครับ"ชายคนแปลกหน้าในสูทสีเข้มบอกกับผม

     


                ผมมองใบที่ใบหน้าของชายแปลกหน้าใบหน้าหล่อและร่างสูงเพรียวแต่กลับมีดวงตาที่เศร้าโศกเพราะเป็นหน้าที่ของเขาสินะที่จะนำพาทุกคนเมื่อถึงเวลาไปสู่แม่น้ำแห่งความตายแต่เขาต้องทำแบบนั้น...กับทุกคนด้วยหรือเปล่า ผมคิดแล้วก็รู้สึกร้อนใบหน้าขึ้นมา


     

                "นายทำแบบนั้น..กับทุกคนเหรอ?"ผมก้มลงไม่กล้าสบตากับชายหนุ่มตรงหน้า

     

                "แบบไหนครับ?อ๋อ " มือหนาของชายหนุ่มคนนั้นรั้งเอวผมเข้าไปอีกครั้งแผ่นหลังบางก็ถูกมือหนากดให้แผ่นอกของผมแนบกับแผ่นอกหนาของชายหนุ่มที่สูงกว่า

     

                “ก็ไม่ทุกคนหรอกครับ กับคุณเป็นพิเศษ”รอยยิ้มที่ส่งมาให้แฝงความนัยอะไรบางอย่างที่ผมไม่อาจคาดเดาได้

     

                “หมายความว่ายังไงกันเหรอ?”

     

                “ผมชอบคุณถึงมันจะเป็นไปไม่ได้เพราะผมคือยมทูตแต่การที่ได้เฝ้ามองคุณอยู่ทุกวันหลายเดือนมันกลับทำให้ผมรู้สึกดีกับคุณเป็นพิเศษ”

     

                “แล้วถ้าผมไม่ตายล่ะ”

     

                “ถ้าคุณไม่ตายเราก็จะไม่ได้พบกัน”

     

                “โชคชะตากำหนดเอาไว้แล้วสินะ”


     

                ถูกแล้ว โชคชะตากำหนดมันเอาไว้ให้เป็นแบบนั้น

     

                ให้ผมต้องเป็นคนนำพาวิญญาณเขาไปยังแม่น้ำแห่งความตายพาเขาล่องเรือข้ามฝั่งไปสู่อีกภพที่ซึ่งไม่อาจพบปะผู้ใดได้อีก

     

     

     

                แท้จริงแล้วะชะตาไม่ได้ถูกกำหนดไว้ให้พรากลมหายใจของเขาในวันนี้หรอกแต่ผมพรากมันมาก่อนจะถึงเวลาอันสมควรเหมือนกับทุกครั้งที่ผมทำ...


     

                ไม่ว่าจะกี่ร้อยปีที่ผ่านมาผมไม่อาจกลับขึ้นไปยืนเคียงคู่กับเขาอย่างที่เคยก่อนที่ผมจะถูกฝังร่างลงในหลุมลึกผมเฝ้าตามหาอีกครึ่งของหัวใจมาตลอดเวลาแต่เมื่อผมพบเขาแล้วผมกลับไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับเขาได้


     

                เพราะความผิดบาปที่เคยก่อขึ้นทำให้ผมต้องตกอยู่ใต้ขุมนรกที่ไม่อาจหวนกลับคืนมาแต่ผมก็แอบหลบออกมาเพื่อที่จะได้พบกับเขาแต่เขากลับอยู่กับคนอื่นที่ทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจ


     

                ความเจ็บแค้นที่ไม่อาจเคียงข้างกันก่อให้เกิดความคิดชั่วร้าย


     

                ทุกวันที17 เดือน 4

     

                ผมจะมาพบเขาในฐานะยมทูตที่พรากวิญญาณเขาจากโลกมนุษย์

     

                เหมือนเช่นวันนี้...


     

                END…

     

                #ยมทูตยม #yumark #ymfiction



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in