ผมเริ่มสนใจการดูหนังอย่างจริงจังเมื่อตัวเองอยู่ชั้นประมาณ ม.2 ทุกๆ เย็นวันที่ไม่มีธุระ ผมจะติดสอยห้อยตามเพื่อนคนหนึ่ง ที่บ้าหนังและชอบสะสมใบปิดไปโรงหนังตรงโน่นตรงนี่เสมอ โปสเตอร์สีชมพูสุดผสมกับหยดเลือดยังตรึงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ผมคิดสงสัยมาตลอดว่า เอ้อ หนังจะเป็นเรื่องประมาณไหน เกี่ยวกับอะไรกันนะ แต่ก็ไม่ได้ลงมือค้นหาอย่างจริงจัง
ผ่านไปสิบกว่าปี ที่คิโนะคุนิยะพารากอน ชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนี้ทำผมจำได้ (เขียนโดย ปราบดา หยุ่น) จึงลองซื้อมาอ่าน ปรากฏว่าชอบมาก ประทับใจเลยล่ะ พี่คุ่นเล่าเรื่องได้แยบคายติดตลกดี อ่านจบก็คิดอยากจะดูหนังขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ได้ลงมือขวนขวายอย่างจริงจัง
วันดีคืนดี อยู่ๆ Bangkok Screening Room ก็เอาหนังเรื่อง Last Life in the Universe หรือ เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล กลับมาฉายเสียดื้อๆ เลยมีโอกาสในดูหนังที่ติดใจมายาวนานนี้เสียที
เรื่องราวของชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นชื่อเคนจิที่มีความคิดอย่างจะฆ่าตัวตายอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเพราะเศร้าหรืออะไร เพียงแค่เขา (คงจะ) รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีประเด็นของการใช้ชีวิตอยู่แล้ว ความตลกมันอยู่ที่เมื่อไรก็ตามที่การปลิดชีพของเคนจิกำลังดำเนิน มักจะมีอะไรมาขัดไม่อยู่เสมอ เฮียแกก็เลยไม่ตายสักที จนวันนึง เคนจิก็ได้เจอกับ คู่พี่น้อง น้อย และ นิด ที่มีอาชีพเป็นเด็กเสี่ย โดยบังเอิญ (?) และเรื่องราวก็ดำเนินต่อไป
เมื่อดูจบแล้ว เราอินกับความหมายและเรื่องราวของแฟรนไชส์นี้มากขึ้นอีกหลายระดับ เพราะ
1. มันเป็นหนังที่ based on นิยาย ที่ถูกแต่งขึ้นจากการกระตุ้นของผู้กำกับหนังอีกที (เป็นเอกเอาไอเดียไปปลูกไว้ให้ปราบดาขยายต่อ) มันจึงมีความพิเศษของที่มาของเรื่องมากๆ
2. Cinematography มีความ มินิมอล และ ฮิปสเตอร์ ก่อนจะมีการใช้สองคำนี้เสียอีก ดูแล้วถ้าบอกว่าเป็นหนังที่ทำเมื่อปีที่แล้วก็ต้องเชื่อแน่ๆ เพราะสไตล์มันใช่เลย ไม่น่าเชื่อว่าทีมสร้างจะมีวิสัยทัศน์ที่นำสมัยขนาดนี้ เขาบอกว่าต้องมีการล้างฟิล์มแบบพิเศษเพื่อให้ได้สีตุ่นๆ แบบในหนังดู โอว ยุคอานาลอกสุด
3. ชอบความ 'ไม่สมจริง' ที่หนังเล่า มันมีความละครเวทีนิดนึง คือนำเสนอไอเดียและความสวยงานของภาพก็เพียงพอแล้ว ยกตัวอย่างเช่นฉากรถชนของ นิด เลือดก็แค่ใช้สีแดงมาป้ายๆ ก็พอ หรือ การใช้ตะเกียบกินข้าวผิดจนสะอาดในช่วงเวลาประมาณ 30 วิ (คือทุกคนรู้ว่าทีมงานต้องเปลี่ยนเป็นจานเปล่าแน่ๆ) เป็นเป็นฉากที่ขี้เล่นดี
4. ความเจ๋งของการแคสติ้ง พลอย-นุ่น มาแสดง ผมรู้สึกว่าเคมีพี่น้องคู่นี้มีความพิเศษมากๆ เราชอบนุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รู้สึกว่าเขาเป็นนางเอกที่หน้าเก๋ ดูฉลาด และ ภาพลักษณ์และ presence ของพลอยก็มีพลังมากจนสามารถคงตัวเองในหนังได้ตลอดทั้งเรื่องแม้จะออกมาแค่ไม่ถึง 10 นาที (5 นาทีถึงรึเปล่าก็ไม่รู้)
เอาจริงแค่ชื่อเรื่องก็กินขาดแล้ว เรื่องราวของใครก็ไม่รู้สองคน ต่างคนต่างสะบักสบอมจากชีวิตอันไม่ปราณี จนได้มาเจอกัน รักกันข้ามคืนแบบธรรมดาๆ มันเป็นอะไรที่น้อยนิดมากหากจะเทียบสเกลกับ matter อื่นในโลกนี้ แต่ ความรักเล็กๆ นี่มันทำให้ชีวิตของเขาแหละเธอสองคน 'มีที่ยึดเหนี่ยว' หรือเหตุผลที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มหาศาลไม่ใช่เล่นเลย
RANKINGS
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in