จริงๆ สิ่งที่จะเขียน เราเขียนในเฟซส่วนตัวไปแล้ว แต่เราอยากจะหาเพื่อนใหม่ๆ ที่อาจจะอยากคุยกันเรื่องหนังสือ เลยคิดว่านำมาลงที่นี้ไว้ เผื่อมีใครอยากคุยด้วย หรือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน...ก็น่าจะดี
.
เกริ่นตรงนี้ล่ะว่า อันที่จริงคำว่า "รักการอ่าน" อาจไม่ใช่คำจำกัดความที่ถูกต้องนักเมื่อพูดถึงเรา คำเฉพาะเจาะจงที่ถูกต้องที่สุดต้องเป็น "รักการดอง" 555555 (ถ้าคุณรำคาญความเยิ่นเย้อ เรื่องจริงๆที่จะพูดอยู่ที่หน้าถัดไป เชิญข้ามครับ)
.
นั่นเพราะช่วงเวลา 4 ปี ของมหา'ลัย เงินเดือนค่ากินเมื่อหักค่าเช่าหอครึ่งนึงถูกกันเป็นส่วนไว้สำหรับซื้อหนังสือ แน่นอนอีกละว่า มักไม่มีเนื้อหาที่เป็นด้านวิชาการมากนัก เว้นแต่ความคึกคะนองที่เกิดขึ้นนานๆครั้งจะทำให้เด็กรัฐศาสตร์อย่างเรา เหลียวไปมองและหยิบ มายาคติ ของ โรลอง บาร์ต หรือ หนังสือของ การ์มูร์บ้าง
.
จริงๆแล้วเฟซบุ๊กมีส่วนอย่างมากที่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้รู้จักวรรณกรรมหลากหลายแหล่ง ที่มีการแปลไทยออกมา (เราอ่านอังกฤษไม่ไหว ถ้าเจอเป็นเล่มหนาๆ) พวกเพจหนังสือนี่แหละ Readery เอย ก็องดิด เอย ทุกครั้งที่พบว่ามีหนังสือออกใหม่ และอ่านเรื่องย่อจากเพจแล้วสนใจ....เราต้องได้มา (บ้าคลั่ง ขาดความยั้งคิด...เราขอโทษ)
.
แต่ครั้งแรกที่เราเริ่มอ่านหนังสือใหม่ๆ นอกจากตอน ม.6 ที่ติด ดาวินชี โค้ด หรือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ คือช่วงปี 1 หนังสือ 2 เล่มแรกที่เราซื้อ (จากหมื่นทิพย์บุ๊ค) คือ สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ ของ อุมแบร์โต เอโค กับ จะเป็นผู้รับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น ของ เจ. ดี. ซาลินเจอร์
.
นั่นทำให้เงินค่าขนมสวนทางกับรายจ่ายบ้างบางครั้ง โชคดีที่หนังสือไม่ได้ออกใหม่กันทุกวันๆ แล้วที่ๆเราอยู่ ก็ไม่มีร้านอย่าง B2S หรือ คิโนะ อยู่ใกล้ๆ ไม่เช่นนั้น ผู้ "รักการดอง" อย่างเราคงหมดเนื้อหมดตัวมากกว่านี้
.
หน้าต่อไปจะเข้าเรื่องละนะ (หวังว่าจะยังอ่านกันอยู่ 55555)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in