ผมว่ากิจกรรมทำนองนี้ ช่างเป็นอะไรที่ “จรรโลงใจ” ยิ่งนัก สำหรับใครหลายคน ที่โหยหา สถานที่ และช่วงเวลาที่จะได้มองมัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาตะวันขึ้นสู่ขอบฟ้า หรือแม้แต่ยามที่มันกำลังจะลับตา
กับแสงแรกของวัน
ช่างเหมือนความหวัง ของสิ่งมีชีวิต นานาสายพันธุ์ ที่รอเวลาออกไปใช้ชีวิต เพื่อเติบโต ตามแต่จุดมุ่งหมาย ของใคร ของมัน ด้วยสัญชาตญาณ ความฝัน ,ความหวัง หรือแม้แต่เวลาพักผ่อนเอนกาย เพื่อรอเริ่มต้นใหม่ ในแต่ละวัน
ซึ่งแสงสุดท้ายของวัน
ก่อนที่ดวงจันทร์ จะแทรกตัวเข้ามาแทนตะวัน ไม่ว่าจะเต็มไปด้วยความเงียบงัน หรือว่าสีสันยามค่ำคืน สุดท้ายก็เช่นเดียวกัน เหมือนยามกลางวัน ต่างกันแค่ใครจะเลือก หรือจำเป็นจะต้องใช้เวลา ในช่วงไหนมากกว่ากัน
แต่ว่าจันทรานั้น
ก็ได้รับแสงสว่างมาจากสุริยันเช่นเดียวกันนี่สิ
ชีวิตคนเรา
ก็ เช่น กัน
ดอกไม้น่าหลงใหลนั่นสิ
เจ้าพืชอายุสั้น
ดั่งชีวิตเรา อันไม่มีความแน่นอน และไม่ยืนยาว ช่างเป็นอายุขัย ที่แสนสั้น เสียจริง
ปลูกง่าย โตเร็ว
เหมือนเราๆสมัยยัง “เยาว์วัย” ซึ่งถูกชักจูงและปลูกฝังอะไรได้อย่าง ง่ายดาย กว่าจะรู้ และเข้าใจ จนมีวุฒิภาวะมากพอ มันได้ถูกลดช่องว่างลง ยิ่งปัจจุบันที่ความรวดเร็วในการเรียนรู้ รวดเร็ว กับ นวัตกรรม และเทคโนโลยีก้าวหน้า ที่เราเห็นว่า โลกใบนี้มันกว้างใหญ่ สุดแสนจะบรรยาย การดูแลจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ให้การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ความจริงของท่อน intro จากผลงานเพลงอย่าง “หน้าหนาวที่แล้ว” ที่ศิลปินอย่าง The Toys ได้สร้างสรรค์ และลั่นวาจาเอาไว้ว่า “เด็กสมัยนี้โตไวเนอะ” นั่นเลยเป็นอะไรที่คงไม่เกินไป สำหรับโลกแห่งความเป็นจริง
.
ทานตะวัน ชอบอากาศที่อบอุ่น
ซึ่งมันไม่ได้ต่างอะไร กับพวกเรา ที่ต้องการ ความอบอุ่น ทางใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่สูงแค่ไหน พวกคุณก็ยังคงต้องการ ใครบางคน ,สิ่งของบางอย่าง หรือสัตว์เลี้ยงแสนรัก เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจอยู่ดี
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร คน สัตว์ สิ่งของ หรืออะไรก็ตามแต่ คุณเองก็ต้องการอะไรซักอย่าง ไม่อย่างใด ก็อย่างหนึ่งอยู่ดี เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตนี้ ให้ไม่หนาวเหน็บเกิดไป จนคุณก้าวเดินไม่ไหว
ไม่ชอบน้ำขัง และดินที่มีลักษณะเป็นกรด
ดั่งคำพูดร้ายๆ ที่คอยทิ่มแทงจิตใจ แถมอาจทำให้คุณฝังใจ จนลืมไม่ลง จากคน Toxic ไม่ว่าจะประเภทไหน มันก็ไม่มีใครชอบ ทั้งนั้นแหละ จริงไหม?
หากดินที่ปลูกนั้น มีความชื้นต่ำ ผลผลิตของเมล็ด ก็จะต่ำลง
ไม่ต่างอะไรกับสภาพแวดล้อมทางสังคม ที่หากสิ่งรอบกาย ไม่เอื้ออำนวย ต่อการเจริญเติบโต ของแนวคิด และชีวิต ก็อาจทำให้เรานั้นเติบโตช้า กว่าต้นอื่นๆ
แต่ ไม่ เป็น ไร
เพราะขอบอกว่า มันก็อาจจะอยู่ที่ความแข็งแกร่ง ทางจิตใจ ของคุณๆทั้งหลาย ด้วยเช่นกัน แม้ทุกชีวิต “ต้นทุน” มันจะไม่เท่ากัน ขอแค่คุณรู้เท่าทัน และเข้าใจมันเสีย เพื่อการแก้ไข เส้นทางที่คุณต้องการเดิน ให้มันเข้าที่ เข้าทาง
.
ลักษณะการหันของช่อดอก และใบนั้น จะหันไปตามทิศทาง ของดวงอาทิตย์
ดั่งชีวิต ที่หันเห เข้าหาเป้าหมายเสมอ
ประเด็นก็คือ
“ดวงอาทิตย์”
นั้นก็หมายถึงอะไร ได้หลายๆอย่าง แล้วถามว่า เป็นเป้าหมายไหม ? มันก็เป็นได้ แล้วถามว่า มันเป็นปัญหา ได้ด้วยไหม มันก็เป็นได้ เช่นเดียวกัน เราจะให้ คำจำกัดความ ของดวงอาทิตย์ กับบทความนี้ ไว้สองอย่างหลักๆ
นั่นคืออะไร นั่นเป็นเป้าหมาย ที่ทานตะวันมอง และมุ่งตรงไป เพื่อการเติบโต ในเส้นทางชีวิต แต่กลับกันก็มองว่ามัน เป็นปัญหา อันร้อนแรงแผดเผา และชวนแสบเบ้าตาด้วย เช่นเดียวกัน
.
แล้วถ้าฝั่งของเจ้าทานตะวันล่ะ เปรียบได้กับอะไร
เปรียบได้กับ ดอกทานตะวัน ที่ไม่เคยมองใคร นอกจากพระอาทิตย์เพียงผู้เดียว
มันหมายความว่าอะไร ?
มันหมายความว่า “ชีวิต” ต้องพร้อมมุ่งตรงไป สู่เส้นชัย ใช่ หรือ ไม่ แล้วเราก็ให้คำ จำกัดความ ว่าดวงอาทิตย์ มันก็เหมือน “ปัญหา” ที่เราพบเจอ แล้วเราต้องเผชิญหน้ากับมัน ในความร้อนรน ,ร้อนแรง และพร้อมที่จะรับ แรงกระแทก
ซึ่งทานตะวัน มันก็เช่นกัน มีความเข้มแข็ง และอดทน แถมยังสามารถแทน “ความรัก” ในบางสิ่ง บางอย่าง แถมมันก็พร้อมฝ่าฟัน ความร้อนแรง และอุปสรรคต่างๆ ด้วยเช่นเดียวกัน
แถมใช้แทน สัญลักษณ์ แห่งความก้าวหน้า และเริ่มต้นใหม่ กับชีวิต เหมือนดั่งเจ้าทานตะวัน ที่พร้อมรับแสงอาทิตย์ ในทุกๆวัน ถึงได้มีการหยิบยกมัน ขึ้นมา นั่นก็เป็นเพราะว่า ก็ไม่ได้ต่างกัน กับชีวิตคนเรา เอาเสียเลยจริงๆ “เพื่อนมนุษย์เอ๋ย”
.
ไม่พอแค่นั้น เรายังสามารถมอบมัน ให้ใครก็ได้
ในทุกๆโอกาส เฉกเช่น คำอวยพรด้วย “ความปรารถนาดี” ที่คนเราต่างต้องการ และพึงกระทำ โดยที่ต่างคน ต่างก็มอบมัน ให้แก่กันและกัน
โอเคมาว่ากัน ถึงส่วนดอกของมัน
ในส่วนของดอกย่อย ที่อยู่รอบนอกจากดอกนั้น เป็นดอกที่ไม่มีเพศ เปรียบได้ ดั่งโลกสมัยนี้ ที่ไม่สังคม เริ่มเข้าถึง และให้ความสนใจ ในประเด็นความเท่าเทียม ที่มันควรจะมีมาตั้งแต่สมัย โบราณกาล ว่าเพศ สีผิว รสนิยม หรือแม้แต่ชนชาติ มันจะแบ่งแยกกันไปทำไม แล้วเพื่ออะไร ในเมื่อ มนุษย์ ก็คือ มนุษย์ ความเป็นมนุษย์คนเรามันมีเท่ากัน ดั่งดอกทานตะวันที่มีมากมาย หลายหลายสายพันธุ์ แต่สุดท้ายนั้น ทานตะวัน ก็คือทานตะวัน เช่นเดียวกัน
รวมไปถึง ดอกย่อยที่อยู่ในจานดอก อันเป็นดอกที่สมบูรณ์เพศ
มีเกสรตัวผู้ที่พร้อมจะผสมพันธ์ุกับเกสรตัวเมีย แต่ใจความที่อยากพูดถึง ไม่ใช่ว่าผู้ เมีย หรืออะไร
เพราะถ้าเป็นเรื่องของ ชีวิตแล้วนั้น เราก็กำลังพูดถึง “คู่” ในสายพันธุ์ มนุษย์ที่มีความหลากหลายล่ะ ไม่ได้ต่างกัน เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงรักใคร่ มีความชอบในเพศสภาพแบบไหน สุดท้ายคนเรา มันก็ต้องการ “ความรัก” ไง (แต่โอเคก็อย่าจมปลัก จนมืดบอดกับมันมากไป )
อย่าได้ลืมว่า กว่าที่คุณจะรักใคร คุณได้รักตัวเอง เพียงพอแล้ว หรือยัง
แต่ไม่ว่า ความหลากหลายของคนเรา มันจะมี มายมาย ขนาดไหน แต่ประเด็นก็คือ ความรักไง นั่น แหละสิ่งสำคัญที่เราต้องการและพึง มี มัน
.
สุดท้ายก็เพราะแบบนี้ไง
ทานตะวัน กับดวงอาทิตย์ จึงเป็นของคู่กัน
ดวงตะวัน ที่แสนสดใจ กับดอกทานตะวัน อันเปล่งประกาย ที่เติบโตและเฝ้ามอง
ถูก หรือ ไม่
ซึ่งทั้งหมด ทั้งมวล ที่ว่ามา
ก็เหมือนกับ ชีวิตเรา อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
สุดท้ายสารตั้งต้นอย่างแสงตะวัน
ก็ช่วยให้ช่วงเวลาของเราในหนึ่งวัน ไม่หม่นหมอง และมืดหม่น
ถูก หรือ เปล่า
นั่นแหละฮะท่านผู้ชมฮะ
ชีวิตที่เหมือนดั่งเจ้าดอกทานตะวัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in