ถ้าพูดถึงความฉลาดของเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ อาจไม่ใช่เรื่องใหม่แล้ว คิดว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า Artificial Intellegence หรือปัญญาประดิษฐ์มาบ้างแล้ว ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ เลยก็เช่นระบบอัลกอริทึ่มของเฟซบุ๊ก ที่ประมวลพฤติกรรมการใช้เฟซบุ๊ก (และบางครั้งก็รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ด้วย) ของเรา แล้วก็แสดงสิ่งที่เราน่าจะชอบ หรือมีความ Relevant กับเราบนหน้านิวส์ฟีด และแน่นอนว่าถูกเอาไปใช้ในแง่ธุรกิจด้วย
เมื่อไม่นานมานี้เราได้อ่านทวีตหนึ่งที่ถูกรีทวีตมาจากเพื่อนอีกที ที่ออกมาแฉกลการอัพราคาแบบเนียนๆ ของผู้ให้บริการรายหนึ่ง คือระบบของบริษัทนั้นๆ มีการจดจำการค้นหาข้อมูลของเรา หากเราค้นหาบ่อยๆ ก็จะเป็นการเพิ่มดีมานด์นั้น (เฉพาะกับเรา) ดังนั้นเมื่อเรากดสั่งซื้อไปจริงๆ ราคาจึงเพิ่มขึ้นจากราคาแรกที่เราค้น ... ซึ่งนี่ก็คือหนึ่งในอัลกอริทึ่มที่เราพบเห็นได้ในปัจจุบัน นับเป็นความฉลาดแกมโกงอีกอย่างของเทคโนโลยีที่บางทีเราก็คาดไม่ถึง แต่หารู้ไม่ว่าระบบ AI ในปัจจุบันเนี่ย ถูกเทียบความฉลาดเท่ากับแค่สัตว์ในตระกูลแมลงเท่านั้นเอง
ส่วน Singularity นั้น ถือว่าเป็น Artificial Superintellegence เลย, ระดับความฉลาดนั้นอาจจะใกล้เคียงหรือเทียบเท่ามนุษย์ (or in the worse case, more than us) เมื่อเทคโนโลยีที่เราใช้อยู่สามารถบังคับ ตัดสินใจอะไรได้เหมือนมนุษย์ หรือในมุมกลับกัน เราสามารถ install จิตของเราลงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เราอาจมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป (หรือนานเท่าที่โปรแกรมไม่โดนทำลาย) หรือเทคโนโลยีอาจมาทำงานแทนที่คนได้จริงๆ -- ซึ่งพอพูดถึงอย่างหลังแล้วเนี่ย ก็รู้สึกได้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันก็มีการแทนที่คนด้วยเครื่องจักรต่างๆ มาได้หลายปีแล้ว แต่จะเป็นยังไงถ้าต่อไป AI มีระบบการประมวลผลเทียบเท่ากับระบบสมองมนุษย์?
ว่ากันว่าในยุค Singularity เนี่ย เป็นเรื่องยากที่เราจะแยกคนกับแอนดรอยด์ออกจากกัน แต่สิ่งที่นักเทคโนโลยีหลายคนคิดว่า AI จะไม่มีทางมีได้เหมือนมนุษย์นั่นก็คือระบบศีลธรรม (Ethics and Morality) ลองจินตนาการถึงสิ่งที่สามารถทำอะไรได้เหมือนมนุษย์ หรือทรงประสิทธิภาพกว่า แต่ดันขาดศีลธรรม โลกที่ทุกสิ่งพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ศีลธรรมกลับถดถอยจนแทบจะหาไม่ได้
เราอาจต้องกลับมาตั้งคำถามใหม่ว่า แล้วสติปัญญาหรือความฉลาดเนี่ย มันดีกับเราจริงหรือเปล่า?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in