Makers
Store
Log in
You don't have any notification yet.
See All
My Wallet
null
Library
Settings
Logout
เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ
นโยบายความเป็นส่วนตัว
เพื่อใช้บริการเว็บไซต์
ยอมรับ
ไม่ยอมรับ
อ่านออกเสียง
–
Nefertiti
เรื่องของ "ขี้"
(ต้องของอภัยมา ณ ที่นี้ หากผู้ใดกำลังบันเทิงเริงรมย์ในการรับประทานอาหาร
เพราะ ...
เรื่องราวต่อไปนี้ คือ เรื่องราวเกี่ยวกับ อุจจาระหรือภาษาเรียกติดปากว่า
ขี้
)
*แต่เนื้อหานี้
ไม่มี
ภาพประกอบที่สะเทือนอารมณ์อย่างแน่นอน*
จากการได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่น่าสนใจเล่มหนึ่ง คือ
ประวัติศาสตร์สังคม-ว่าด้วยส้วมและเครื่องสุขภัณฑ์ในประเทศไทย
จากสำนักพิมพ์มติชน โดย มนฤทัย ไชยวิเศษ หนังสือเล่มนี้เป็นวิทยานิพนธ์เด่นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นการชวนเปิดมุมมองสังคมไทยใหม่ๆผ่านส้วมและกิจวัตรตามธรรมชาติของมนุษย์คือ การขับถ่าย จึงอยากมาย่อยในเรื่องของ
"ขี้"
ที่ปรากฏภายในเล่มและเป็นไกด์แนะนำให้คนที่สนใจ เรื่อง
"ขี้"
ได้ไปตามอ่านกัน ถือเป็นการเก็บเกร็ดความรู้เชิงประวัติศาสตร์เล็กน้อยผ่านกลไกลธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกตีแตกจนมาเป็นมุมมองการสะท้อนสังคมไทยที่ถูกย้อนไปถึงอดีต
"ขี้"
ตามราชบัณฑิตยสถาน
ความหมายแรก
เป็นกริยา หมายถึง
การถ่ายกากอาหารออกทางทวารหนัก
ความหมายที่สอง
ใช้ประกอบหน้าคำที่แสดงความหมายในทางที่ไม่ดี เช่น ขี้เกียจ ขี้เหนียว
ขี้
ยังสะท้อนความคิดความเชื่อบางประการระหว่างชนชั้นในสมัยอยุธยา โดย จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มกษัตริย์และเหล่าราชวงค์ชนชั้นสูง กับ กลุ่มของชาวบ้าน ไพร่ ทาส ทั่วไป
ในฐานะความเชื่อของ
เหล่าเจ้านายชนชั้นสูง
ขี้
นั้นเป็นเรื่องอัปมงคลที่ทำให้เสื่อมเกียรติและเป็นเสนียดจัญไร คำว่า
ขี้
ที่ภาษาชาวบ้านเรียกติดปากกันจึงถูกเปลี่ยนเป็นบาลี-สันสกฤตคือคำว่า
อุจจาระ
คูถ
หรือ
มูตร
เพื่อความลดความอัปมงคลและยกฐานะขึ้นให้มากกว่าการใช้คำว่า
ขี้
ดาษๆ ทั่วไป คำว่า
ขี้
เลยกลายเป็นคำหยาบไม่ไพเราะในปัจจุบันแต่ไม่ถือว่าเป็นคำที่หยาบคาย ส่วน อุจจาระ กลายเป็นคำสุภาพของคำว่า
ขี้
ที่เอาไว้ใช้ในทางการ
การที่จะมีอภิสิทธิ์สร้างที่ขับถ่ายในที่พักอาศัยนั้นถูกสงวนไว้แค่กษัตริย์ ดังใน "สาส์นสมเด็จ" กรมพระยาดำรงราชานุภาพกล่าวไว้ว่า
"ที่ลงบังคนนั้นเป็นของที่มีได้แต่พระเจ้าแผ่นดิน"
ต่อมามีการอนุโลมให้แก่เหล่าขุนนางในภายหลัง จนกระทั่งส่งต่อมายังชาวบ้านหนึ่งชาวบ้านสองอย่างชาวเราในที่สุด ตามการพัฒนาของยุคสมัย คงจะให้
ขี้
กันกลางแจ้งตลอดไปคงมิได้
นอกจากนี้ชนชั้นกษัตริย์ยังมีความเชื่อ เรื่อง การปฏิบัติกับอุจจาระ ดังตามในตำรา
สวัสดิรักษา
ของสุนทรภู่ที่แต่งไว้สำหรับสอนการปฏิบัติตนของลูกเจ้านายในเรื่องต่างๆรวมถึงเรื่องของการขับถ่าย ไว้ว่า
"อนึ่งนั่งบังคน อย่ายลต่ำ อย่าบ้วนน้ำลายพาเสียราศี
ผินพักตร์สู่อุดรประจิมดี ไม่ต้องผีคุณไสยพ้นภัยพาล
แล้วสรงน้ำชำระพระนลาฎ จึงผุดผาดผิวพรรณในสัณฐาน"
ความเชื่อแบบเทวราชากษัตริย์เป็นดั่งสมมติเทพ ดังนั้น ตั้งแต่ตื่นนอนยันบรรทมย่อมมีพิธีการและการถือฤกษ์ถือยามรวมทั้งแม้กระทั่งยามขับถ่าย สุนทรภู่ได้สอนไว้ในสวัสดิรักษา ว่า เมื่อนั่งขับถ่ายนั้นอย่ามองลงมา
เวลาถ่ายให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเชื่อว่าป้องกันคุณไสย
จากนั้นก็อาบน้ำรวมถึงชำระหน้าผากเป็นอันว่าสะอาดเรียบร้อย
ส่วน
ขี้
ในมุมมองของ
ชาวบ้านหรือเหล่าไพร่ทาส
ตามสัญชาตญาณของมนุษย์ทั่วไปย่อมรังเกียจสิ่งที่เป็นของเสียส่งกลิ่นอยู่แล้ว แต่ชาวบ้านรากหญ้านั้นมีวิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับ
ขี้
มากกว่าชนชั้นสูง ด้วยวิถีชีวิตที่เป็นไปตามธรรมชาติหาเช้ากินค่ำไม่มีเวลามาพิธีรีตอง
ขี้
จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของชาวบ้านในด้านต่างๆ เช่น
คำสุภาษิตและคำพังเพย
ที่สามารถพบคำว่า
ขี้
เห็นช้าง
ขี้ ขี้
ตามช้าง เหยียบ
ขี้
ไก่ไม่ฝ่อ กำ
ขี้
ดีกว่ากำตด
ชื่อขนมหรืออาหาร
ขนม
ขี้
หนู แกง
ขี้
เหล็ก นอกจากนี้ยังมี
ความเชื่อเรื่องความฝัน
ว่า หากฝันว่าได้เหยียบ
ขี้
หรือถูก
ขี้
เปื้อนตามร่างกายจะทำนายว่าได้สิ่งของ
การขับถ่ายของชาวบ้านนั้นขี้นอยู่กับว่าสะดวกตรงจุดไหน เข้าป่า ไปทุ่ง ไปต้นท่า เมื่อมีการทักทายกันแล้วตอบด้วยคำดังกล่าวจะเป็นอันรู้กันว่าอีกฝ่ายไปทำธุระ แต่ชาวบ้านนั้นไม่ได้ขับถ่ายเปล่า เมื่อถึงเวลาที่จะขับถ่ายในที่แห่งใดก็ตามจะมีการขอขมาคล้ายกับการที่ใช้น้ำแล้วขมาแม่คงคา การไปทุ่งไปป่าก็จะขมาเจ้าป่าเจ้าเขา
การขับถ่ายลงน้ำที่เป็นหัวใจหลักในการใช้ชีวิตผู้คน การขับถ่ายนั้นก็จะขับถ่ายกันเป็นเวลาให้สัมพันกับน้ำขึ้นน้ำลงเพราะเมื่อจะต้องใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคจะได้ไม่มีสิ่งปนเปื้อนของ
ขี้
เข้าไปข้องเกี่ยวให้แหนงใจว่านี่
ขี้
ใครกันนะ
การแต่งกายไป
ขี้
ของชาวบ้าน มักจะมีผ้าน้อยชิ้นสีทึบ ถลกผ้าหรือเปิดขึ้นง่ายสะดวกแก่การชำระล้างทำความสะอาด
คำว่า
ขี้
ยังสามารถพบเจอได้จากการแบ่งชนชั้นของสังคมศักดินาไทย '
ขี้
ข้า
' คือข้ารับใช้ คนใช้ บ่าว ไพร่ '
ขี้
ครอก
' คือลูกของทาสในเรือนเบี้ยที่เป็นทาสโดยกำเนิด
ขี้
ถือเป็นกลไกลของร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ ไม่มีใครสามารถควบคุมระบบขับถ่ายที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ด้วยภูมิปัญญาของมนุษย์ทุกยุคทุกสมัยก็สามารถจัดการเรื่องของ
ขี้
ได้อย่างดิบดี วันนี้จึงขอมาชวนอ่านเรื่องของ
ขี้
พอหอมปากหอมคอเพียงเท่านี้ หากใครสนใจประวัติศาสตร์ส้วมที่สะท้อนสังคมไทยได้อย่างเจาะลึกก็อย่าลืมไปตามอ่านกันได้ใน
ประวัติศาสตร์สังคม-ว่าด้วยส้วมและเครื่องสุขภัณฑ์ในประเทศไทย
ปล.บทความนี้ไม่ได้รับสปอนเซอร์แต่อย่างใด เพียงแค่หยิบยกบางประเด็นที่น่าสนใจมาชวนอ่าน
#เกร็ดความรู้
#ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่คิด
#ขี้
#หนังสือน่าอ่าน
#หนังสือแนะนำ
#ชวนอ่าน
#อ่านเอาเรื่อง
#อ่านแล้วมาเล่าให้อยากอ่านกัน
#bookreview
#book
#หนังสือ
Nefertiti
Report
Views
อ่านออกเสียง
–
Nefertiti
View Story
subscribe
Comments
()
Facebook
(
0
)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in
ยืนยันการซื้อ ?
เหรียญที่มีตอนนี้: null
มีเหรียญไม่พอซื้อแล้ว เติมเหรียญกันหน่อย
เหรียญที่มีตอนนี้ : null
Please Wait ...
ซื้อเหรียญเรียบร้อย
เลือกแพ็คเกจเติมเหรียญ
เลือกวิธีการชำระเงิน
Credit Card
Cash @Counter
Line Pay
ระบบจะนำคุณไปสู่หน้าจ่ายเงินของผู้ให้บริการ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in