<โรงพยาบาลรัฐบาล>
ข้อดี
- สามารถขอทุนเรียนต่อเฉพาะได้ โอกาศได้เรียนต่อมีมากกว่า
-ได้สิทธิการรักษาในโรงพยาบาลรัฐครอบคลุมถึงพ่อแม่ด้วย
-มีสต๊าฟหลากหลายสาขาไว้คอยConsult สอบถามเคสผู้ป่วยที่ซับซ้อน เจอเคสคนไข้และโรคที่หลากหลายกว่า
มีระบบการเรียนแบบโรงเรียนแพทย์ มีการสอนทำหัตถการที่สำคัญ ได้ฝึกฝนทักษะต่างๆมากกว่า
ใกล้บ้านมากกว่าได้รู้จักเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้อง อาจาร์ยมากมาย ได้เพื่อนได้มิตรภาพใหม่ๆ
ข้อเสีย
ลาหยุดลาป่วยยาก ทำงานหนัก เข้าเวรเป็นกะ ทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงมากกว่า บางทีต้องเข้าร่วมประชุมโดนอาจาร์ยซอย ต้องทำเคสรีพอต ต้องมานั่งDiscussion เคสต่างๆ
มีการราวน์เช้าราวน์เย็นวนไป ทำงานแทบทุกวัน บางทีต้องมาเครียดกับคนที่นิสัยเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำงานด้วยยาก
ทำเล็บทำผมสีสันสดใสไม่ได้จ้า ต้องดำไม่ก็น้ำตาลเท่านั้นเพื่อความลักษณ์ของอาชีพ
<โรงพยาบาลเอกชน>
ข้อดี
-มีความเป็นฟรีแลนซ์ อิสระมากกว่า ป่วยสามารถหยุดพัก หรือมีเวลาขอหยุดไปพักร้อนกลับบ้านได้
เรทเงินเดือนก็น่าจะให้ไม่ต่างกับรัฐบาลมากแต่การทำงานสบายกว่า สามารถเลือกได้ว่าจะfixทำงานวันไหน ทำตรวจทั่วไปหรือเข้าเวรฉุกเฉินวันไหนบ้าง
-ไม่ต้องมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรืออาจาร์ย ทำงานเสร็จตามหน้าที่ก็แยกย้ายกลับ ไม่ต้องมีเรื่องให้กลับมานั่งคิดปวดหัว
ไม่ต้องนั่งปั่นเคสรายงาน หรือเข้าประชุมอะไรมากมายให้วุ่นวาย
ไม่ต้องอดหลับอดนอน ทำงานหนักทั้งวันทั้งคืน
ทำผมสีก็รวบให้ดูสุภาพไปทำงานได้
ข้อเสีย
ยาค่อนข้างจำกัดการใช้พอสมควร เนื่องจากในแง่ของระบบโรงพยาบาลจะคำนึงถึงกำไรรายรับของโรงพยาบาลมากกว่า
การส่งตรวจแล็ปก็ส่งได้แต่เล็ปพื้นฐานทั่วไปมากๆซึ่งบางทีก็ทำให้แยกโรคยาก สิทธิไม่ครอบคลุมเท่าบัตรทอง
ถ้าจะทำฟรีแลนซ์ก็ต้องมาทำที่กทมเป็นส่วนใหญ่ แต่จริงๆต่างจังหวัดก็มีโรงพยาบาลเอกชนเหมือนกัน
โอกาศเรื่องเรียนต่อเฉพาะทางน้อยกว่า
ทักษะความรู้ต่างๆคือต้องหาอ่านเอาเองหมด ไม่มีรุ่นพี่หรืออาจาร์ยมาคอยนั่งสอนหรือพาทำ เรียนรู้เองจากระยะเวลาและประสบการ์ณ
ทักษะบางอย่างก็ไม่ได้พัฒนาขึ้น เช่นการทำหัตถการเย็บแผล การผ่าตัดทำคลอด การตรวจอัลตราซาวน์และอื่นๆ
บางทีคนไข้ก็จะเรื่องมาก เยอะมากกว่าหน่อย จะขอตรวจเพิ่มละเอียด ขอเจอเฉพาะทาง ขอนอนโรงพยาบาลทั้งๆที่อาการก็ไม่ได้เป็นมากขนาดนั้น(แต่อยากนอน)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in