ในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงประเด็นหัวข้อที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้กับการแพร่ระบาดของเชื้อครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ชาติเลยก็ว่าได้ จะมาสรุปคร่าวๆแบบเข้าใจง่ายให้ฟังกันค่ะ
ไวรัสตัวนี้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้ปอดเกิดการอักเสบติดเชื้อ(Pneumonia) และในบางรายก็ถึงขั้นทำลายปอดถาวร และนำไปสู่ภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว(respiratory failure) จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
จุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดมาจาก เมืองฮู่ฮั่นประเทศจีน เชื่อกันว่าระบาดมาจากตลาดแห่งหนึ่งซึ่งผู้คนนิยมทานอาหารเปิปพิศดาร คาดกันว่าอาหารที่เป็นต้นเหตุคือซุบค้างคาว แต่ยังมีประเด็นถกเถียงกันว่าเเท้จริงแล้วหรือว่าจะมาจากห้องแล็ปลับกันแน่!?
การติดต่อ ผ่านทางการสัมผัส และทางเดินหายใจเป็นหลักเช่นการที่มือปนเปื้อนเชื้อ แล้วเอามือไปจับบริเวณใบหน้าซึ่งใกล้กับจมูกปาก หรือโดนคนที่ติดเชื้อไอ จาม พ่นน้ำลายกระเด็นมาบริเวณใบหน้าก็ตาม
ระดับความรุนแรงของโรค แบ่งออกเป็นสามระดับ
คือ
1) Mild รุนแรงน้อยอาจจะไม่แสดงอาการหรือคล้ายๆไข้หวัดทั่วไป แต่มีเชื้ออยู่
2) Moderate คือรุนแรงปานกลางคือ อาการเข้าได้กับภาวะปอดติดเชื้อ คือมีไข้สูง ไอ หอบ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
3 Severe ก็คือมีอาการรุนแรง ภาวะหอบเหนื่อยรุนแรงไม่สามารถหายใจได้เองถึงขั้นอาจจะต้องทำการใส่ท่อช่วยหายใจตามมา เนื่องจากปอดถูกทำลายเป็นต้น
แต่ความน่ากลัวของเชื้อตัวนี้คือ เชื้อสามารถมีชีวิตอยู่นอกร่างกายมนุษย์ได้นานหลายวัน
Super spreader คือ ผู้ที่มีเชื้อโควิดอยู่ แล้วเดินทางไปยังสถานที่ใดที่หนึ่งจากนั้นได้แพร่กระจายเชื้อให้คนจำนวนมากในสถานที่ๆเดียวกันนั้นเอง อย่างของที่เกาหลีก็เป็นคุณป้ามหาภัย ส่วนของที่ไทย ก็เป็นสนามมวยลุมพินีที่กรุงเทพ
คนที่ติดเชื้อแล้ว อาจจะไม่มีอาการ แต่สามารถนำเชื้อไปติดคนอื่นได้อีกเรื่อยๆแล้วคนกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มอาการหนักทรุดลงเร็ว คือ กลุ่มคนสูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันปอด หัวใจ เป็นต้น
การใช้ Alcohol 70% ที่ถูกอย. ในการฆ่าเชื้อ และใช้ แมชเขียว หรือ Surgical mask ในการป้องกัน ล้างมือบ่อยๆ การกักตัวเองในบ้านสังเกตุอาการ 14 วัน หากพึ่งกลับจากพื้นที่เสี่ยงหรือมีโอกาศเสี่ยงที่จะติดเชื้อ เพื่อรอดูอาการ หรือที่เรียกว่า 'quarantine'
การเข้ารับการตรวจโควิคและแนวทางการรักษา
เราจะไม่มีทางรู้ได้แน่ชัดเลยว่า ปอดอักเสบที่เกิดขึ้นนั้นมาจากเชื้อไวรัสตัวใดนอกจากจะทำการซื้อชุดตรวจทดสอบโดยเฉพาะ โดยใช้สำลีแยงเข้าไปข้างในสุดของบริเวณโพรงจมูกด้านในเพื่อเอาสารคัดหลั่งบริเวณนั้นมาตรวจสอบ แต่ค่าตรวจก็มีราคาแพง อีกทั้งชุดทดสอบยังไม่เพียงพอต่อทุกๆคน.ดังนั้นจึงแนะนำในคนที่มีความเสี่ยง เช่น ไปสถานที่พื้นที่เสี่ยง หรือคนที่มีคนใกล้ชิด,ได้คลุกคลีสัมผัสกับผู้ป่วยโรค Covid-19
นอกจากนี้ก็มีการดูภาพถ่ายรังสีบริเวณปอด โดยการเอ็กซเรย์ร่วมด้วย x-ray
หรือว่าเราอาจจะติดโควิคอยู่ แค่ไม่แสดงอาการกันนะติดรึยังวะ ติดไม่ติด ??
แน่นอนว่าในช่วงนี้ผู้คนย่อมตื่นตัวตื่นตระหนกกับสถานการ์ณที่เกิดขึ้นแต่อยากให้สังเกตุอาการที่ควรจะไปพบแพทย์ทันที ได้แก่
ถ้ามีอาการของภาวะปอดอักเสบดังต่อไปนี้ คือ 1) ไข้ 37.5 c ขึ้นไป 2) ไอ 3) หอบเหนื่อย 4) อาจจะมีปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ส่วนอาการไม่มีไข้ ไอไม่รุนแรง มีแค่น้ำมูกกับปวดหัวเล็กน้อย เหนื่อยเพลีย ก็แนะนำให้กักตัวสังเกตุอาการตัวเองอยู่ที่บ้าน 14วัน เพื่อลดการไปสัมผัสเชื้อหรือเป็นผู้แพร่เชื้อเสียเอง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in