เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyน.นิรา
เรื่องวุ่น ๆ ของเจ้าเหมียวลายพราง
  • เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของแมวน้อยต้องทำตามคำสั่งเสียสุดท้ายที่แม่สอนไว้ นั่นคือการหา 'ทาส'

    หากอ่านแล้วสนใจสามารถเข้าไปโหลด E-BOOK ได้ที่ MEB นะคะ ขอบคุณค่า

  • บทที่ 1 คำสั่งเสียของแม่

    เอี๊ยดดดดดดดด โครม! เสียงรถเก๋งสีแดงเบรกมาแต่ไกลแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อชนกับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยทั้งห้าในซอยแคบ ๆ ก่อนถึงตลาดสดในยามเช้า จากนั้นล้อทั้งสี่ก็ค่อย ๆ เคลื่อนถอยหลังเพื่อหลบและเดินหน้าต่ออย่างไม่ใยดีในสิ่งที่ชนไปเพราะเห็นเป็นแค่เพียงชีวิตน้อย ๆ ที่ไร้ค่า

    เลือดสีแดงสดไหลอาบตัวแม่แมวขนสีเทาแซมขาวที่กระโจนตัวเข้ามาบังลูก ๆ ทั้งสี่ของมันเพื่อให้พ้นจากอันตราย

    “แม่จ๋าแม่ ตื่นขึ้นมาก่อนสิจ๊ะ” ลูกแมวสีขาวเดินมาเรียกแม่ของมันที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนพื้นถนน จากนั้นไม่นานลูกแมวที่เหลือทั้งสามตัวก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาร้องเรียกแม่ของมัน

    เมื่อเสียงร้องเหมียว ๆ จากลูกทั้งสี่ดังระงมแม่แมวจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะสั่งเสียในสิ่งที่เคยสอนไว้ “อย่าลืมในสิ่งที่แม่เคยสอนพวกเจ้าไว้นะ จงหาทาสที่ดีมาดูแลพวกเจ้าให้ได้…” สิ้นคำสั่งเสียสุดท้ายแม่แมวก็สิ้นใจลง

    “ฮือ แม่จ๋าแม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูจะทำอยากที่แม่เคยสอน”

    ไวท์ -- ลูกแมวสีขาวตัวที่หนึ่งเริ่มทำตามคำสอนของแม่เป็นตัวแรกเพื่อเป็นตัวอย่างให้น้อง ๆ ได้ทำตาม

    เมื่อมองเห็นว่าเป้าหมายกำลังเดินผ่านมา มันจึงเดินเข้าไปคลอเคลียถูตัวไปมาใต้ขาของเด็กหญิงตัวน้อยที่เดินมากับพ่อของเธอ

    “พ่อคะ ลูกแมวตัวนี้น่ารักจังเลยค่ะ” เด็กสาวตัวน้อยนั่งลงย่อง ๆ ก่อนจะลูบหัวลูกแมวเบา ๆ มันจึงเอาหัวของมันถูไปมาที่มือของเธออีกเพื่อแสดงให้เห็นถึงความขี้อ้อน

    “พ่อคะ หนูเลี้ยงมันได้ไหมคะ?” เธออุ้มลูกแมวสีขาวขึ้นมาไว้บนตักก่อนเงยหน้าถามผู้เป็นพ่อ

    “ได้สิลูก แต่ตัวนี้ต้องเป็นตัวสุดท้ายแล้วนะ”

    “ได้ค่ะ เจ้าขนปุยจะได้มีเพื่อนเพิ่ม” เธอพูดถึงแมวที่บ้านของเธอที่ชื่อขนปุย

    เด็กสาวได้อุ้มไวท์ขึ้นก่อนเดินจากไป

    “พี่ไปก่อนนะน้อง ๆ” ไวท์ร้องบอกน้องทั้งสามของมันก่อนจะถูกอุ้มไปจนลับตา

    “พี่ไวท์ทำสำเร็จไปแล้ว ต่อไปพี่จะขอลองเป็นตัวที่สองต่อจากพี่ไวท์นะ” ยูกิลูกแมวตัวสีขาวสีเดียวกับลูกแมวตัวแรกเอ่ยขึ้น มันหรี่ตามองหามนุษย์ที่หน้าตาดูเป็นมิตร ทันทีที่เจอก็เดินตรงเข้าไปและล้มตัวลงนอนตัดหน้าทันที ทำให้หนุ่มวัยประมาณยี่สิบต้องหยุดชะงัก ก่อนจะเดินหลบเลี่ยงไปทางอื่นแทน แต่เมื่อยูกิเห็นเช่นนั้นก็ไม่ละทิ้งความพยายาม เดินเข้าไปนอนตัดหน้าอีกครั้งและอีกครั้ง จนในที่สุดความพยายามก็ไม่ไร้ค่า

    “อยากไปอยู่ด้วยเหรอ? มานี้สิเจ้าเหมียว” ชายหนุ่มยื่นมือเรียก ยูกิเดินตรงเข้าไปอย่างไม่รีรอ

    “ต่อไปก็ถึงตาฉันล่ะ” ลูกแมวตัวที่สามขนสีขาวแซมเทาลายเดียวกับแม่ของมันหันไปพูดกับน้องสุดท้อง ก่อนเดินตามหลังครอบครัวหนึ่งไปช้า ๆ

    “พ่อคะ แม่คะ ลูกแมวตัวนี้มันเดินตามพวกเราค่ะ พี่ก็เห็นใช่ไหม?” เด็กสาวหันไปถามพี่ชายซึ่งอายุต่างกันเพียงสองถึงสามปี

    “ใช่ครับ ผมเห็นมันเดินตามพวกเรามาตั้งแต่หน้าปากซอยจนตอนนี้กลางซอยแล้ว”

    “ถ้าพวกเราอยากเลี้ยงมันได้ไหมคะ?”

    “ไม่ได้จ๊ะ รีบกลับบ้านกันเถอะ แม่จะได้ทำอาหารเย็นเตรียมไว้” เธอบอกกับลูก ๆ ทั้งสองของเธอและหันหลังเดินต่อ ส่วนลูกแมวตัวที่สามก็ยังคงเดินตามต่อไปเรื่อย ๆ

    “แม่ครับมันยังเดินตามอยู่เลย ผมว่ามันคงจะหิว พวกเราดูแลมันไม่ได้เหรอครับ นะครับพ่อ” เมื่อเด็กชายเห็นสีหน้าของแม่จึงหันไปขอร้องพ่อของเขาแทน

    “ว่าไงดีล่ะคุณ พ่อว่ามันก็ดูน่าสงสารนะ ผอมโซมอมแมมเชียว”

    “คุณล่ะก็ใจอ่อนกับลูกอยู่เรื่อยเลย” เธอพูดกับสามีก่อนหันไปทำข้อตกลงกับลูกชายลูกสาวของเธอ “ถ้าลูกอยากเลี้ยงมันลูกต้องสัญญาก่อนว่าจะช่วยกันให้ข้าวให้น้ำและคอยทำความสะอาดเวลามันทำสกปรก”

    “สัญญาครับ/ค่ะ” เด็กน้อยทั้งสองรับปากอย่างหนักแน่น

    ในที่สุดมันก็ทำสำเร็จ

    ตอนนี้เหลือเพียงลูกแมวลายสลิดเป็นตัวสุดท้าย ซึ่งหน้าตาของมันไม่ค่อยน่ารักเท่าพี่ ๆ ตัวอื่น ๆ ของมันเท่าไหร่นักแถมสีขนยังแตกต่างกว่าใครในบรรดาพี่น้องของมันอีกด้วย จึงทำให้โดนแกล้งอยู่บ่อย ๆ ว่ามันถูกเก็บมาเลี้ยง ซึ่งแม่ของมันก็คอยบอกเสมอว่าได้สีขนของพ่อมา

    ไทเกอร์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนมองหาทาสที่จะมารับเลี้ยงมันเหมือนที่พี่ทั้งสามทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนหน้านั้น มันยืนนึกถึงคำสอนของแม่คืออันดับแรกต้องดูว่าใครหน้าตาเป็นมิตร

    แล้วหน้าตาแบบไหนถึงเรียกว่าเป็นมิตรกันล่ะ?

    อันดับที่สองคำพูดต้องไพเราะเสนาะหู

    ในขณะที่ไทเกอร์กำลังนึกถึงคำสอนอยู่นั้นตัวของมันก็ลอยขึ้นจากพื้นดิน มันจึงดิ้นไปมาจนสายตาของมันมาหยุดจ้องกับชายร่างโตหนวดเครารุงรังซึ่งกำลังยกมันห้อยโตงเตงโดยการจับที่หนังคอ

    “แมวน้อยจ๋า อยู่นิ่ง ๆ มาให้จับซะดี ๆ”

    พูดเพราะตามหลักสูตรที่เคยได้ร่ำเรียนมา คนนี้แหละที่จะเป็นทาสของฉัน

    ชายร่างโตเดินช้า ๆ ไปที่รถก่อนจะเปิดท้ายรถและโยนลูกแมวที่เพิ่งจับมาเข้าไปในกรงสีสนิมและขับรถออกไปทันที

    ไทเกอร์นั่งตื่นเต้นอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นบ้านใหม่อยู่ภายในหลังรถที่มืดสนิท ไม่นานแสงแดดก็ลอดเข้ามาและมันก็ถูกย้ายเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก มีกลิ่นเหม็นอับ หลังบ้านมีลูกแมวไม่ต่ำกว่ายี่สิบตัวนอนเบียดกันอย่างแออัดอยู่ในกรงขนาดใหญ่และมันก็ถูกจับใส่เข้าไปในกรงนั้นด้วย

    “สวัสดี ฉันชื่อไทเกอร์นะ” ไทเกอร์ทักทายเพื่อนใหม่ด้วยน้ำเสียงสดใสแต่กลับไม่มีใครตอบกลับมาเลยสักตัว แถมเพื่อนใหม่ของมันยังอยู่ในสภาพอิดโรยอีกด้วย ไม่นานจูดี้แมวชราก็พูดขึ้นอย่างเห็นอกเห็นใจในความใสซื่อของลูกแมวตัวนี้

    “แมวน้อย เธอคงไม่รู้สินะว่าที่นี่มันโหดร้ายแค่ไหน”

    “โหดร้ายที่ว่าคือแบบไหน” มันเอียงคอถามด้วยความสงสัย

    จูดี้จึงเล่าให้ฟังอย่างคร่าว ๆ ว่าชายคนนั้นที่พาไทเกอร์มาที่นี่เป็นคนไม่ดี คอยจับลูกแมวมาขาย หากไม่มีคนสนใจซื้อตอนที่ยังเป็นลูกแมวอยู่ก็จะถูกปล่อยอย่างทิ้งขว้าง ถ้าวันไหนอารมณ์ไม่ดี ก็จะมาทำร้ายเพื่อระบายอารมณ์

    “อย่าพูดให้เด็กมันกลัวสิจูดี้” แมวตัวผอมแห้งพูดห้ามปราม

    “เธอเห็นตาของเจ้าแห้งนั้นไหม? ปีก่อนโน้นเจ้านี้ก็ถูกทำร้าย” ไทเกอร์หันไปมองพินิจพิจารณใบหน้าของแมวผอมตามคำเล่าบอกของจูดี้ก็พบว่ามีตาซ้ายเพียงข้างเดียวที่สามารถใช้งานได้

    “ในเมื่อเราไม่มีประโยชน์แล้วเขาไม่ปล่อยพวกเราไปเหรอ?”

    “ไม่นะสิ เจ้าชั่วนั่นขังพวกเราไว้เป็นที่ระบายแทน”

    ไทเกอร์เหม่อมองออกไปนอกกรง ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่ ๆ ของมันจะเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าคงไม่ต้องมาเจออะไรแบบที่ตนเป็นอยู่ตอนนี้

    “หยุดร้องได้แล้วโว้ย หนวกหู คนจะหลับจะนอน เดี๋ยวก็สาดน้ำร้อนเข้าให้!” ชายเจ้าของบ้านโวยวายพร้อมปาขวดน้ำใส่

    “เข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้พวกเราขอให้เธอโชคดีแล้วกันนะหนูน้อย” จูดี้และแมวผอมแห้งอวยพร ในใจก็ภาวนาขอให้ลูกแมวที่ใสซื่อตัวนี้รีบมีคนจิตใจดีรับไปเลี้ยงในเร็ววัน จะได้ไม่ต้องมาทุกข์ทรมารเหมือนพวกตนทั้งสอง

  • บทที่ 2 สก็อตติช

    เช้าวันใหม่ชายร่างโตตื่นขึ้นมาเตรียมกรงสีขาวสะอาดตา ชามใส่อาหารและน้ำสำหรับสัตว์หยิบขึ้นหลังรถก่อนจับลูกแมวตัวเก่าและตัวใหม่ที่เพิ่งได้มาเมื่อวานรวมทั้งไทเกอร์ใส่ลงกล่องลังด้วย

    “เขาจะพาฉันไปไหน” ไทเกอร์ร้องถามจูดี้

    “พาเธอไปหาทาสที่ดี” จูดี้ตะโกนบอกก่อนที่ไทเกอร์จะถูกพาออกจากบ้านไป

    ไทเกอร์นั่งเกร็งและเบียดกับลูกแมวตัวอื่น ๆ ในกล่องจนไปถึงที่หมายและย้ายจากอยู่ในลังมาเป็นกรงสีขาวแทน มันบอกรอบ ๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ มีผู้คนมากมายเดินสวนกันอย่างคับคั่งและต่างพากันหิ้วของพะรุงพะรัง มองไปทางด้านซ้ายก็เห็นตู้กระจกใสข้างในมีปลาทองแวกว่ายไปมา มองไปทางขวาก็เจอสัตว์ขนปุยสีขาวกระโดดดึ๋ง ๆ ในปากเคี้ยวแครอทสีส้ม

    “สนใจลูกแมวน่ารัก ๆ ไปเลี้ยงอีกสักตัวไหมครับ” คนขายพูดขึ้นเมื่อเด็กสาวกำลังยืนดูลูกแมวพวกนี้อยู่ แต่ในมืออุ้มลูกสุนัขขนสั้นสีดำขลับ

    “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” เสียงเล็กแหลมเห่าทันทีที่เห็นสิ่งที่เจ้านายของมันกำลังสนใจอยู่

    ไทเกอร์ตกใจกับเสียงของสัตว์สี่ขาตัวเล็กตาโปน มันจึงถอยชิดติดเพื่อนตัวอื่นด้วยอาการเกร็งและกลัว ไม่นานมันก็หยุดเห่าเมื่อเด็กสาวเดินไปทางอื่น

    “เจ้านั่นมันคือตัวอะไรเหรอ?” ไทเกอร์หันไปถามแมวตัวข้าง ๆ

    “หมา มันเรียกว่าหมา ส่วนตัวเมื่อกี้มันคือพันธุ์ชิวาวา”

    “เธอก็ดูอายุห่างจากฉันไม่ค่อยมาก ทำไมถึงรู้จักหมาอะไรนั่นล่ะ?”

    “ฉันมาที่นี่ได้สามสี่วันแล้ว บางวันกรงกระต่ายข้าง ๆ ก็เป็นกรงขายหมา เสียงหนวกหูอย่าบอกใครเชียว”

    “ฉันชื่อไทเกอร์นะ ฉันต้องเรียกเธอว่าอะไร?” ไทเกอร์ถามชื่อฝ่ายตรงข้ามหลังจากที่ได้พูดคุยทำความรู้จักกันพอสมควร

    “ฉันไม่มีชื่อหรอก”

    “งั้นฉันจะตั้งชื่อให้เธอเองแล้วกัน” ว่าจบไทเกอร์ก็เดินอ้อมตัวลูกแมวที่ไร้ชื่อ “ฮาร์ท ชื่อฮาร์ทแล้วกัน เพราะที่หลังของเธอมีขนสีดำเป็นรูปหัวใจ”

    “ฉันชอบชื่อนี้ ต่อไปเรียกฉันว่าฮาร์ท” ฮาร์ทบอกกับเพื่อน ๆ ทุกตัวในกรง

    ตะวันลับฟ้า วันนี้ไม่มีแมวตัวไหนถูกซื้อไปเลี้ยงเลยสักตัว ทั้งหมดถูกพากลับมายังที่เดิม ที่ที่ทุกตัวไม่อยากอยู่ แมวทั้งหมดถูกเทจากกล่องลังลงสู่กรงเดิมที่คับแคบ

    “เป็นอย่างไรบ้างวันนี้ ไทเกอร์” จูดี้ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าไทเกอร์กลับมา

    “ฉันเจอสัตว์หน้าตาแปลกประหลาดหลายตัวมาก มีปลาตัวสีทอง มันอยู่แต่ในน้ำเท่านั้น อ้อ ฉันเจอสัตว์ที่เรียกว่าหมาด้วย มันเห็นฉันแล้วมันก็ร้องขู่คำรามไปทั่ว ตัวมันขนาดเท่าฉันเองมั้ง ดีไม่ดีตัวเล็กกว่าด้วยซ้ำ” ไทเกอร์บรรยายสิ่งที่ไปเจอมา “และวันนี้ฉันตั้งชื่อให้ฮาร์ทว่าฮาร์ทด้วยแหละ” พูดอย่างภูมิใจ

    “ใช่ ต่อไปนี้เรียกฉันว่าฮาร์ทนะ” ฮาร์ทพูดเสริม

    “ฉันหิวแล้ว พอมีอะไรให้กินไหม?” เสียงท้องของไทเกอร์ร้องขึ้น

    “วันนี้ไม่น่าจะมีอะไรให้กิน แต่ฉันพอมีเก็บตุนไว้ ฉันจะให้เธอก่อนแล้วกัน” จูดี้ลุกขึ้นก่อนจะคาบเศษปลาที่นั่งทับขึ้นมาและนำมาวางไว้หน้าไทเกอร์ “รีบกินก่อนที่จะมีตัวอื่น ๆ เห็น” ไทเกอร์รีบกินตามคำบอกของจูดี้ทันที ถึงจะเป็นแค่เศษปลาเพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้อิ่มได้ชั่วคราว ดีกว่าไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย

    “อิ่มแล้วก็พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เธอคงต้องไปตลาดแต่เช้าเหมือนเช่นวันนี้ แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีกล่ะ ขอให้โชคดี” จูดี้อวยพรเป็นครั้งที่สองหลังจากที่อวยพรในตอนเช้าไปแล้วครั้งหนึ่ง

    เช้าวันนี้ไทเกอร์และฮาร์ทก็กลับมาที่ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยงที่เดิม ซึ่งเมื่อคืนไทเกอร์พักผ่อนน้อยไปหน่อยเพราะมัวแต่เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้พบเจอเป็นครั้งแรกด้วยความตื่นเต้น จึงทำให้ตอนนี้หมดแรงและยังคงหลับอยู่

    ชายหนุ่มวัยทำงานเดินตรงอย่างมีจุดมุ่งหมายเข้ามายังจุดที่ขายลูกแมว ก่อนนั่งลงและกวาดสายตามองอย่างสนใจ

    “สนใจพันธุ์ไหนสอบถามได้นะครับ” พ่อค้าร่างโตกล่าวด้วยคำสุภาพซึ่งผิดกับนิสัยที่แท้จริง

    “พอจะมีสก็อตติชไหมครับ?” เขาถามในขณะที่มองหาไปด้วย เนื่องจากมีแต่ลูกแมว ขนยังขึ้นไม่เต็มที่จึงทำให้สังเกตยาก

    “คุณโชคดีมากเลยครับ ผมเพิ่งได้มาตัว เป็นเพศผู้” พ่อค้าเปิดกรงและล้วงมือลงไปอุ้มลูกแมวตัวน้อยที่กำลังหลับอยู่ขึ้นมา จึงทำให้มันตื่นและจ้องชายตรงหน้าตาแป๋ว

    “พันธุ์แท้ใช่ไหมครับ” เขาถามย้ำอีกทีเพื่อความมั่นใจ

    “แท้ครับผมรับประกันได้ ไม่แท้ผมยินดีคืนเงิน มันยังเด็กอยู่ รอมันผลัดขนก่อนแล้วจะเป็นสก็อตติสที่สง่า”

    “โอเคครับ แล้วตัวนี้เท่าไหร่ครับ?” เขาถามราคนทันทีที่เห็นมัน

    “แปดพันห้าครับ ถูกสุด ๆ”

    เขารีบเปิดกระเป๋าตังเพื่อดูจำนวนเงินทันทีเมื่อเห็นว่าราคานี้ค่อนข้างถูก ส่วนมากที่เจอจะราคาประมาณหมื่นต้น ๆ

    “เออคือ พอจะลดให้อีกนิดได้ไหมครับพอดีผมพกเงินมาไม่พอ มีแค่หกพันบาท” เขาพูดเสียงแผ่วและลองเสี่ยงต่อราคา ทั้ง ๆ ที่ในใจก็รู้ว่าถูกเกินกว่าที่พ่อค้าจะยอมขายแต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อข้อเสนอถูกยอมรับ

    “ได้ครับ ผมลดให้คุณคนเดียวเลย เห็นว่าเป็นลูกค้ารายแรกของผม ถูกกว่านี้หาที่ไหนไม่ได้แล้วนะครับ” เขารีบตอบรับก่อนจับลูกแมวใส่กล่องกระดาษที่มีหูหิ้วขนาดเล็ก ด้านข้างของกล่องถูกเจาะเป็นรูเพื่อให้มีอากาศเข้าเล็กน้อย

    ไทเกอร์หายงัวเงียทันทีที่ถูกแยกออกจากกรง “ฮาร์ท เขาจะพาฉันไปที่ไหนอีก”

    “บ้านใหม่ เขาจะพาเธอไปบ้านใหม่ ยินดีด้วยนะ” ฮาร์ทร้องบอกทั้งน้ำตา สักวันมันต้องโชคดีเหมือนเช่นไทเกอร์ ฮาร์ทคิด




  • บทที่ 3 บ้านใหม่

    ไทเกอร์นั่งตัวโคลงเคลงตามฝีเท้าของชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นเจ้าของคนใหม่ มันมองผ่านช่องถ่ายเทอากาศเล็ก ๆ เพื่อดูทางว่ามันถูกพาไปที่ไหนบ้าง ทันทีที่ความเคลื่อนไหวหยุดลง กลิ่นหอมบางอย่างก็โชยมา มันทำจมูกฟุดฟิดก่อนมองหาที่มาของกลิ่นทันที

    ถุงกระสอบขนาดใหญ่เต็มไปด้วยเม็ดกลม ๆ สีแดง เขียวและน้ำตาลอยู่ผสมปนกัน ถัดไปก็เป็นเสื้อผ้าแขวนเรียงกันและมีบางอย่างที่น่าสนใจอยู่ข้าง ๆ แต่เนื่องจากรูมีขนาดไม่ใหญ่จึงทำให้มันมองสิ่งอยู่ถัดจากนั้นไม่ชัด

    ไม่นานชายหนุ่นก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อเขาซื้อของบางอย่างเสร็จก็เดินกลับไปที่รถของตนก่อนจะสตาร์ทรถขับกลับบ้าน

    ตอนนี้สิ่งที่ไทเกอร์มองเห็นคือยางวางเท้าสีดำพร้อมกับรู้สึกถึงอากาศที่เย็นต่างจากเมื่อครู่

    เมื่อชายหนุ่มขับรถเข้ามาจอดในบ้านแล้วก็ยกข้าวของต่าง ๆ ที่เพิ่งซื้อมาเข้าไปไว้ในบ้านพร้อมกับกล่องหูหิ้วที่มีลูกแมวน้อยอยู่ข้างใน

    ทันทีที่กล่องถูกเปิดออก แมวตัวน้อยค่อย ๆ โผล่หัวขึ้นมาดูทีละน้อยก่อนผลุบลงอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มที่เป็นคนพามันมาจากที่ตลาด

    “ออกมานี่สิ” เขานั่งลงกับพื้นกระเบื้องในบ้าน ยื่นมือไปหาลูกแมวในกล่องพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องกลัวนะ ต่อไปนี้ที่นี่คือบ้านของเธอนะแมวน้อย”

    เมื่อได้ยินดังนั้นไทเกอร์จึงค่อย ๆ โผล่หน้าขึ้นมาอีกครั้งด้วยความระมัดระวัง ก่อนโน้มตัวเข้าไปดมกลิ่นที่มือ จากนั้นก็ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากกล่องและมองไปรอบ ๆ ภายในบ้าน จนเหลียวไปเห็นถุงลักษณะที่เคยเห็น ณ ร้านที่มีกลิ่นหอม มันจึงเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าถุงทันที

    “หิวเหรอ” เขาเดินไปหยิบถุงอาหารสำหรับลูกแมวขึ้นมา ก่อนจะนำชามสีฟ้ามาวางและเทอาหารลงไป

    ไทเกอร์ก้มลงดมเล็กน้อยก่อนเอาลิ้นแตะเบา ๆ จากนั้นก็ก้มกินอย่างมูมมาม เพียงพริบตาเดียวชามก็ว่างเปล่าสะอาดตาไม่เหลือแม้แต่เศษใดใด แต่มันยังไม่รู้สึกอิ่มเท่าไหร่จึงร้องเหมียว ๆ พลางเอาเท้าเขี่ยชาม

    “พอแล้ว เดี๋ยวอ้วน” เขาหยิบชามอาหารอีกอันก่อนเดินไปเปิดน้ำจากเครื่องกรองและวางลงให้ลูกแมวดื่มดับกระหาย

    “เหมียว – ฉันยังไม่อิ่มเลย” ไทเกอร์จ้องหน้าชายหนุ่มสลับกับชามอาหารสีฟ้า

    ในที่สุดเขาก็ใจอ่อนทนต่อสายตาที่จ้องมาไม่ไหว “อีกนิดเดียวเท่านั้นนะ ฉันจะไม่ใจอ่อนแล้ว” เขาเทอาหารอีกเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของครั้งแรก

    ติ๊งต่อง เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ชายหนุ่มเก็บถุงอาหารก่อนเดินไปดูที่หน้าประตูบ้านว่าใครมา

    ‘ไลลา’ แฟนสาวของเขานั่นเอง

    “เข้ามาก่อนสิ แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ” เขาถามขึ้นเมื่อมองไปยังถุงที่อยู่ในมือของเธอ

    “ของกินกับของใช้บางอย่าง วันก่อนที่เรามา ไม่ว่าจะหยิบจะใช้อะไรก็ล้วนหมดเกือบทุกอย่าง แถมตู้เย็นยังโล่ง มีแค่น้ำเปล่าไม่กี่ขวดเอง” เธอยื่นถุงให้กับแฟนหนุ่ม

    “ผมมีอะไรจะให้ดูด้วย ในห้องรับแขกนะ”

    เธอเดินไปที่ห้องรับแขกทันทีและก็พบลูกแมวน้อยกำลังเดินสำรวจอยู่

    “จิณณ์ คุณเลี้ยงแมวตอนไหน?”

    “เมื่อเช้า ผมเพิ่งซื้อมาเมื่อเช้า” เขาบอกก่อนจะวางถุงที่รับมาจากไลลาไว้ที่โต๊ะในห้องครัว

    “น่ารักจัง เจ้านี่พันธุ์อะไร แล้วมันมีชื่อหรือยัง?” เธอถาม

    “สก็อตติช ส่วนชื่อผมยังไม่ได้ตั้งเลย” เขาตอบในขณะที่หยิบของกินบางส่วนใส่ตู้เย็น

    “มันดูไม่ค่อยเหมือนสก็อตติชเท่าไหร่เลยนะ” เธอพิจารณาดู

    “มันยังไม่ผลัดขนน่ะ คุณช่วยผมคิดชื่อมันหน่อยสิ”

    “ได้สิ” ไลลาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเสิร์ชหาชื่อน่ารัก ๆ สำหรับแมวทันที

    หน้าเว็บแสดงรายชื่อ มีทั้งเบล บิวตี้ เดซี่ มีมี่ ลอร่า และเธอชอบชื่อ ‘เดซี่’

    “เดซี่เป็นไง?” เธอเสนอ

    “ผมลืมบอกคุณไป มันเป็นตัวผู้”

    “อย่างงั้นเหรอ งั้นฉันจะหาชื่อใหม่แล้วกัน” เธอก้มหน้าหาชื่อต่อ

    “แจ็กกี้ จิมมี่ โจ โทนี่ ไทเกอร์ คุณว่าชื่อไหนดี?” เธอหันไปถามจิณณ์

    “เหมียว -- เรียกฉันทำไม ถึงเวลากินอีกครั้งแล้วเหรอ” ไทเกอร์เดินเข้าไปหาไลลาเมื่อได้ยินเธอพูดชื่อของมันและมองหาอาหาร “ไม่เห็นจะมีอะไรให้ฉันเลย แล้วจะเรียกทำไมกัน” มันกลับไปเดินสำรวจห้องต่อ

    “คุณดูสิ มันเดินมาหาฉันตอนฉันถามชื่อมันกับคุณด้วย”

    “มันคงชอบสักชื่อที่เธอเรียกเป็นแน่” เขาออกจากห้องครัวก่อนมานั่งข้าง ๆ แฟนสาว

    “ฉันจะลองเรียกทีละชื่อ ว่ามันชอบชื่อไหนกันแน่” ไลลาเริ่มเรีนกตั้งแต่ชื่อแจ็กกี้จนไปถึงโทนี่ เจ้าแมวน้อยก็ไม่มีวี่แววว่าจะสนใจ ตอนนี้เหลือเพียงชื่อสุดท้าย “ไทเกอร์”

    “เหมียว -- เรียกทำไมอีกละ?” ไทเกอร์หันไปสบตาไลลาที่เป็นคนเรียก

    “ฉันว่ามันชอบชื่อนี่แหละ”

    “ไทเกอร์งั้นเหรอ ผมก็ว่ามันเข้ากับลายของมันดีนะ ว่าไงไทเกอร์ ต่อไปนี้เธอชื่อไทเกอร์นะ” จิณณ์หันไปบอกกับไทเกอร์

    “เหมียว -- นั่นชื่อฉันอยู่แล้ว”

    “ดูสิ มันดีใจใหญ่เลย”

    “เหมียว -- มันน่าดีใจตรงไหน นี่มันชื่อของฉัน มนุษย์คนนี้พูดไม่รู้เรื่อง”

    “ไลลา พรุ่งนี้ผมว่าจะพาไทเกอร์ไปตรวจไปฉีดวัคซีนสักหน่อย คุณจะไปด้วยกันไหม?”

    “พรุ่งนี้ฉันไม่ว่างน่ะ พอดีเสาร์นี้นัดลูกค้าไว้”

    ไทเกอร์เดินสำรวจบ้านใหม่ได้สักพักมันก็เริ่มปวดฉี่ มันถึงหาที่เหมาะสำหรับเข้าห้องน้ำและมันก็เจอ ไทเกอร์กระโดดขึ้นไปในตะกร้าและนั่งลงทันที

    “เห้ย อย่าฉี่ใส่กองผ้า” จิณณ์ร้องห้ามก่อนรีบวิ่งไปยกตัวไทเกอร์ขึ้นแต่ก็สายไปเสียแล้ว ตอนนี้กองผ้าบางส่วนเปียกไปด้วยฝีมือของลูกแมวน้อย

    “พรุ่งนี้คุณก็อย่าลืมไปซื้อกระบะทรายแมวแล้วกัน” ไลลาหัวเราะเบา ๆ ก่อนหยิบผ้าเปียกไปใส่ในเครื่องซักผ้าให้ไทเกอร์นั่งตัวโคลงเคลงตามฝีเท้าของชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นเจ้าของคนใหม่ มันมองผ่านช่องถ่ายเทอากาศเล็ก ๆ เพื่อดูทางว่ามันถูกพาไปที่ไหนบ้าง ทันทีที่ความเคลื่อนไหวหยุดลง กลิ่นหอมบางอย่างก็โชยมา มันทำจมูกฟุดฟิดก่อนมองหาที่มาของกลิ่นทันที

    ถุงกระสอบขนาดใหญ่เต็มไปด้วยเม็ดกลม ๆ สีแดง เขียวและน้ำตาลอยู่ผสมปนกัน ถัดไปก็เป็นเสื้อผ้าแขวนเรียงกันและมีบางอย่างที่น่าสนใจอยู่ข้าง ๆ แต่เนื่องจากรูมีขนาดไม่ใหญ่จึงทำให้มันมองสิ่งอยู่ถัดจากนั้นไม่ชัด

    ไม่นานชายหนุ่นก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อเขาซื้อของบางอย่างเสร็จก็เดินกลับไปที่รถของตนก่อนจะสตาร์ทรถขับกลับบ้าน

    ตอนนี้สิ่งที่ไทเกอร์มองเห็นคือยางวางเท้าสีดำพร้อมกับรู้สึกถึงอากาศที่เย็นต่างจากเมื่อครู่

    เมื่อชายหนุ่มขับรถเข้ามาจอดในบ้านแล้วก็ยกข้าวของต่าง ๆ ที่เพิ่งซื้อมาเข้าไปไว้ในบ้านพร้อมกับกล่องหูหิ้วที่มีลูกแมวน้อยอยู่ข้างใน

    ทันทีที่กล่องถูกเปิดออก แมวตัวน้อยค่อย ๆ โผล่หัวขึ้นมาดูทีละน้อยก่อนผลุบลงอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มที่เป็นคนพามันมาจากที่ตลาด

    “ออกมานี่สิ” เขานั่งลงกับพื้นกระเบื้องในบ้าน ยื่นมือไปหาลูกแมวในกล่องพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องกลัวนะ ต่อไปนี้ที่นี่คือบ้านของเธอนะแมวน้อย”

    เมื่อได้ยินดังนั้นไทเกอร์จึงค่อย ๆ โผล่หน้าขึ้นมาอีกครั้งด้วยความระมัดระวัง ก่อนโน้มตัวเข้าไปดมกลิ่นที่มือ จากนั้นก็ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากกล่องและมองไปรอบ ๆ ภายในบ้าน จนเหลียวไปเห็นถุงลักษณะที่เคยเห็น ณ ร้านที่มีกลิ่นหอม มันจึงเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าถุงทันที

    “หิวเหรอ” เขาเดินไปหยิบถุงอาหารสำหรับลูกแมวขึ้นมา ก่อนจะนำชามสีฟ้ามาวางและเทอาหารลงไป

    ไทเกอร์ก้มลงดมเล็กน้อยก่อนเอาลิ้นแตะเบา ๆ จากนั้นก็ก้มกินอย่างมูมมาม เพียงพริบตาเดียวชามก็ว่างเปล่าสะอาดตาไม่เหลือแม้แต่เศษใดใด แต่มันยังไม่รู้สึกอิ่มเท่าไหร่จึงร้องเหมียว ๆ พลางเอาเท้าเขี่ยชาม

    “พอแล้ว เดี๋ยวอ้วน” เขาหยิบชามอาหารอีกอันก่อนเดินไปเปิดน้ำจากเครื่องกรองและวางลงให้ลูกแมวดื่มดับกระหาย

    “เหมียว – ฉันยังไม่อิ่มเลย” ไทเกอร์จ้องหน้าชายหนุ่มสลับกับชามอาหารสีฟ้า

    ในที่สุดเขาก็ใจอ่อนทนต่อสายตาที่จ้องมาไม่ไหว “อีกนิดเดียวเท่านั้นนะ ฉันจะไม่ใจอ่อนแล้ว” เขาเทอาหารอีกเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของครั้งแรก

    ติ๊งต่อง เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ชายหนุ่มเก็บถุงอาหารก่อนเดินไปดูที่หน้าประตูบ้านว่าใครมา

    ‘ไลลา’ แฟนสาวของเขานั่นเอง

    “เข้ามาก่อนสิ แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ” เขาถามขึ้นเมื่อมองไปยังถุงที่อยู่ในมือของเธอ

    “ของกินกับของใช้บางอย่าง วันก่อนที่เรามา ไม่ว่าจะหยิบจะใช้อะไรก็ล้วนหมดเกือบทุกอย่าง แถมตู้เย็นยังโล่ง มีแค่น้ำเปล่าไม่กี่ขวดเอง” เธอยื่นถุงให้กับแฟนหนุ่ม

    “ผมมีอะไรจะให้ดูด้วย ในห้องรับแขกนะ”

    เธอเดินไปที่ห้องรับแขกทันทีและก็พบลูกแมวน้อยกำลังเดินสำรวจอยู่

    “จิณณ์ คุณเลี้ยงแมวตอนไหน?”

    “เมื่อเช้า ผมเพิ่งซื้อมาเมื่อเช้า” เขาบอกก่อนจะวางถุงที่รับมาจากไลลาไว้ที่โต๊ะในห้องครัว

    “น่ารักจัง เจ้านี่พันธุ์อะไร แล้วมันมีชื่อหรือยัง?” เธอถาม

    “สก็อตติช ส่วนชื่อผมยังไม่ได้ตั้งเลย” เขาตอบในขณะที่หยิบของกินบางส่วนใส่ตู้เย็น

    “มันดูไม่ค่อยเหมือนสก็อตติชเท่าไหร่เลยนะ” เธอพิจารณาดู

    “มันยังไม่ผลัดขนน่ะ คุณช่วยผมคิดชื่อมันหน่อยสิ”

    “ได้สิ” ไลลาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเสิร์ชหาชื่อน่ารัก ๆ สำหรับแมวทันที

    หน้าเว็บแสดงรายชื่อ มีทั้งเบล บิวตี้ เดซี่ มีมี่ ลอร่า และเธอชอบชื่อ ‘เดซี่’

    “เดซี่เป็นไง?” เธอเสนอ

    “ผมลืมบอกคุณไป มันเป็นตัวผู้”

    “อย่างงั้นเหรอ งั้นฉันจะหาชื่อใหม่แล้วกัน” เธอก้มหน้าหาชื่อต่อ

    “แจ็กกี้ จิมมี่ โจ โทนี่ ไทเกอร์ คุณว่าชื่อไหนดี?” เธอหันไปถามจิณณ์

    “เหมียว -- เรียกฉันทำไม ถึงเวลากินอีกครั้งแล้วเหรอ” ไทเกอร์เดินเข้าไปหาไลลาเมื่อได้ยินเธอพูดชื่อของมันและมองหาอาหาร “ไม่เห็นจะมีอะไรให้ฉันเลย แล้วจะเรียกทำไมกัน” มันกลับไปเดินสำรวจห้องต่อ

    “คุณดูสิ มันเดินมาหาฉันตอนฉันถามชื่อมันกับคุณด้วย”

    “มันคงชอบสักชื่อที่เธอเรียกเป็นแน่” เขาออกจากห้องครัวก่อนมานั่งข้าง ๆ แฟนสาว

    “ฉันจะลองเรียกทีละชื่อ ว่ามันชอบชื่อไหนกันแน่” ไลลาเริ่มเรีนกตั้งแต่ชื่อแจ็กกี้จนไปถึงโทนี่ เจ้าแมวน้อยก็ไม่มีวี่แววว่าจะสนใจ ตอนนี้เหลือเพียงชื่อสุดท้าย “ไทเกอร์”

    “เหมียว -- เรียกทำไมอีกละ?” ไทเกอร์หันไปสบตาไลลาที่เป็นคนเรียก

    “ฉันว่ามันชอบชื่อนี่แหละ”

    “ไทเกอร์งั้นเหรอ ผมก็ว่ามันเข้ากับลายของมันดีนะ ว่าไงไทเกอร์ ต่อไปนี้เธอชื่อไทเกอร์นะ” จิณณ์หันไปบอกกับไทเกอร์

    “เหมียว -- นั่นชื่อฉันอยู่แล้ว”

    “ดูสิ มันดีใจใหญ่เลย”

    “เหมียว -- มันน่าดีใจตรงไหน นี่มันชื่อของฉัน มนุษย์คนนี้พูดไม่รู้เรื่อง”

    “ไลลา พรุ่งนี้ผมว่าจะพาไทเกอร์ไปตรวจไปฉีดวัคซีนสักหน่อย คุณจะไปด้วยกันไหม?”

    “พรุ่งนี้ฉันไม่ว่างน่ะ พอดีเสาร์นี้นัดลูกค้าไว้”

    ไทเกอร์เดินสำรวจบ้านใหม่ได้สักพักมันก็เริ่มปวดฉี่ มันถึงหาที่เหมาะสำหรับเข้าห้องน้ำและมันก็เจอ ไทเกอร์กระโดดขึ้นไปในตะกร้าและนั่งลงทันที

    “เห้ย อย่าฉี่ใส่กองผ้า” จิณณ์ร้องห้ามก่อนรีบวิ่งไปยกตัวไทเกอร์ขึ้นแต่ก็สายไปเสียแล้ว ตอนนี้กองผ้าบางส่วนเปียกไปด้วยฝีมือของลูกแมวน้อย

    “พรุ่งนี้คุณก็อย่าลืมไปซื้อกระบะทรายแมวแล้วกัน” ไลลาหัวเราะเบา ๆ ก่อนหยิบผ้าเปียกไปใส่ในเครื่องซักผ้าให้

    __________________________________________________________

    อ่านต่อที่นี่

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in