ปีนี้เนื่องจากป่วยตั้งแต่ต้นปี เลยทำให้จนถึงตอนนี้ได้ดูหนังโรงน้อยมาก ซึ่งเรื่องที่สามของปีคือ
ชื่อเรื่อง : ぼくは明日、昨日のきみとデートする (Boku wa Ashita , Kinou no Kimi to Deto Suru)
Tomorrow I Will Date With Yesterday's You พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน
หลังจากนี้จะขอเรียกว่า ぼく明日 (Boku Asu)
กำกับโดย : Takahiro Miki (เคยกำกับ Have a Song On Your Lips เรื่องนี้ร้องไห้หนักมาก)
แสดงนำโดย : Fukushi Sota , Komatsu Nana
ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำมาจากนิยายขายดีของ Takofumi Nanatsuki เป็นเรื่องราวของ มินามิยามะ ทาคาโทชิ ชายหนุ่มวัย 20 นักเรียนศิลปะที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน เช้าวันหนึ่งเขาได้พบกับ ฟุคุจิ เอมิ สาววัย 20 เหมือนกันพอดีเป๊ะบนรถไฟ เรื่องราวความรัก(ของเขา)จึงเริ่มต้นขึ้นและ(ของเธอ)กำลังจะจบลงพร้อมๆกัน
ทำไมน่ะหรอ เพราะเวลาของเขาและเธอสวนทางกันน่ะสิ เขาและเธออยู่คนละโลกกัน ซึ่งเป็นคู่ขนานต่อกัน เวลาของสองโลกเดินสวนทางกัน ทุกๆ 5 ปี จะได้เจอกันครั้งนึง เป็นเวลา 30 วันเหมือนระยะเวลาข้างขึ้นไปยังข้างแรมของดวงจันทร์
จากพล็อตเรื่องก็เดาได้เลยว่าร้องไห้หนักมากแน่นอน เรื่องนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการสปอยล์แต่อย่างใด แถมยังควรต้องอ่านสปอยล์ก่อนไปดูด้วยซ้ำ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเวลาของพระนางเรื่องนี้ ไม่งั้นน่าจะงงอยู่พอสมควร หรือทางที่ดีก็อ่านหนังสือก่อนไปดูน่าจะช่วยได้
ส่วนตัวข้อเสียของเรื่องนี้คงเป็นกาลเวลาที่สวนทางกันของพระนาง ที่ผมใช้เวลาทำความเข้าใจในเรื่องนานพอสมควร ว่า"อ้าว พระเอกแก่ขึ้นแล้วนางเอกเด็กลงอะไรยังไง เรื่องมันวนลูปหรอ" กว่าจะเข้าใจได้ก็องก์สามของเรื่อง เลยไม่ได้อิมแพ็คเต็มๆถึงขั้นร้องไห้ อันนี้เป็นข้อเสียส่วนตัวสำหรับคนคิดมากล้วนๆเลย ฮ่าๆๆ
ส่วนข้อดีของเรื่องนี้มาเต็มครับ การปูเนื้อเรื่องในช่วงแรกที่ยังไม่มีเรื่องเวลาเข้ามาทำได้น่ารักดีต่อใจ ทำให้เราผูกพันธ์กับตัวละครได้ดีมากๆจริง ไม่มี Emotional ตะโกนหนักๆเหมือนหนังญี่ปุ่นเรื่องอื่น พอเข้าเรื่องเวลากลางเรื่องก็จุกหนักมาก ทำเอาซึมไปถึงจะจบเรื่องเลย
นักแสดงอย่างโซตะที่ผ่านการแสดงที่โชว์หล่อโง่ๆอย่างเดียว หรือบ้าๆบอๆไปเลยในคาเมนไรเดอร์โฟร์เซ่ ก็พัฒนาฝีมือมากขึ้น ส่วนนานะก็น่ารักขึ้นมากว่าทุกเรื่อง มาซาฮิโระที่เคยร่วมงานกับผู้กำกับมิกิซังมาแล้วในเรื่อง Ao Haru Ride ก็เปลี่ยนลุคเป็นเพื่อนพระเอก Extrovert ที่ไม่ได้น่ารำคาญจนบดบังพระเอกเลย
แสงก็ดี๊ดี ภาพสวยสุดๆ แถมได้เทพเพลงเศร้า back number มาร้องเพลงประกอบชื่อเพลงว่า happy end ซึ่งเศร้าสัสๆ ทำตอนจบให้ซึ้งไปอีก
ถึงจะไม่อิมแพ็คกับเราเต็มๆแต่ก็ได้รับดาเมจหนักพอสมควร เพราะหนังทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของทั้งคู่ที่สวนทางกัน วันแรกของพระเอกคือวันสุดท้ายของนางเอก ความรู้สึกที่มากขึ้นจนไม่อยากจะปล่อยไปกับความรู้สึกที่กำลังจะเริ่ม มันสวนทางกันอย่างน่าเศร้า ในความรู้สึกของบุคคลที่สามที่มองดูอย่างเราเป้นความรักที่ทำให้มีความสุขกลับกันก็ทำให้เจ็บปวดใจแทนจริงๆ ไปดูเถอะ (9/10)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in