เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
NAGOYA หน้าหนาวeiijay_
Intro ก่อนไป
  • ตอนอายุ 19 ปี เราไปญี่ปุ่นครั้งแรกโดยบอกกับที่บ้านว่าไปกับทัวร์ แต่สุดท้ายก็ไปแบบเดี่ยวๆ หาตั๋วหาโรงแรมไปคนเดียว แล้วก็รอดกลับมาแบบงงๆ โดนไป 5 หมื่นกว่า(แต่ได้ไปสามเมืองนะ) ครั้งที่สองเราไปตอนอายุ 20 ครั้งนั้นคือไปแบบไม่บอกใครแม่งเลย ขี้เกียจมาอธิบายและตัดงบที่ไม่จำเป็นออก (ขนาดเพื่อนซี้ๆกันก็พึ่งมารู้ตอนหลัง) จนถึงวันนี้ที่บ้านก็ยังไม่มีใครรู้สักคน เสียเงินไปราวๆ 4 หมื่นได้ (ทั้งสองเรื่องหาอ่านได้ในหน้า Profile เรา เขียนไว้สมัยละอ่อน-v-)

    แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นในวันที่เราเรียนจบและได้ทำงานที่คนที่บ้านไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ ประโยชน์สุดท้ายที่จะใช้งานหลานคนนี้ได้ก็คือการมาเป็นไกด์พาวัยเกษียณไปเที่ยวหน่อย ทำให้เราต้องไปญี่ปุ่นพร้อมกระเตงลุง ป้า และลูกพี่ลูกน้อง รวมเราด้วยก็เป็น 4 คน ....ในฐานะที่พาคนอื่นไปเที่ยวด้วยครั้งแรก นี่คือนรกดีๆนี่เอง -_- มีเหตุผลร้อยแปดที่หลานอกตัญญูคนนี้บ่นในใจเป็นพันรอบ

    1.) ต้องมาลุ้นว่าทริปจะเป็นไปได้ดีหรือเปล่า ถ้ามาคนเดียวพอพลาดแล้วก็เซ็งเงียบๆได้ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็ง่ายกว่า กินข้าวร้านไหนก็ได้ไม่ต้องแคร์คนอื่น แต่นี่คือมีอีกสามคนที่พร้อมจะบ่นเป็นหมีได้ตลอด แถมเวลาวางแผนเที่ยวก็ต้องแคร์คนอื่น
    2.) ถ้าเกิดอุบัติเหตุแค่ใครคนใดคนหนึ่งคือจบ ทริปเสียไปเลย เพราะเราสื่อสารภาษาได้ไม่ดีถึงขนาดพาคนเข้าโรงพยาบาลได้ (ภาษาอังกฤษยังคงเดิมเหมือนสองทริปที่แล้ว และรู้ภาษาญี่ปุ่นอีกนี้ดดดดนึง) แถมมีถึงสองคนที่เป็นวัยเกษียณแล้วด้วย โอ้พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก
    3.) เราคือเดอะแบกที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่มีใครที่ช่วยหาข้อมูล ให้คำแนะนำ หรือรับรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อทริปอะไรเลย คนอื่นๆเดินตามได้อย่างเดียว
    4.) ทุกวันที่อยู่ญี่ปุ่นจะต้องอยู่กับคนอื่น คอยพูดคุยรับอารมณ์คนอื่นตลอดเวลา ซึ่งในฐานะที่เป็น Introvert นี่คือสิ่งที่โคตรเลวร้าย

    ส่วนเหตุผลที่เราอาสามาเป็นไกด์ก็คือ

    1.) ฟรี
    ฟรี ฟรี ฟรี! มาเที่ยวญี่ปุ่นฟรี! เพราะมีคนออกให้ ออกให้ตั้งแต่ค่าเครื่องยันค่าช็อปปิ้ง ทำไมเราจะไม่มาสักหน่อยล่ะ

    ...อย่าพึ่งบอกว่าเราหน้าเงิน-v-; (จริงๆก็ใช่555555) นี่ก็คงเป็นอย่างเดียวที่หลานพอจะทำให้ครอบครัวได้บ้าง(กับความสามารถที่มีอยู่ตอนนี้) และอีกอย่าง เราคิดว่าคงเป็นประสบการณ์ที่แปลกดีถ้าลองมากับคนอื่น เพราะอยากรู้ว่าจะเซฟเงินรายคนได้เยอะขนาดไหนถ้ามามากกว่า 1 คน  เพราะใน 2 ทริปที่ผ่านมา เราหมดไป 4-5 หมื่น แต่ทริปนาโกย่านี้ เราไปเที่ยว 2 เมืองใหญ่ (นาโกย่า-คันไซ) ในราคาแค่ 25,000-30,000 ต่อคนเท่านั้น! (รวมช็อปปิ้งจุกๆแล้วด้วยนะ) ...คุ้มมากบอกเลย

    พอตกลงได้แล้วว่าจะไปญี่ปุ่น สเต็ปแรกของการเที่ยวก็หนีไม่พ้น "ซื้อตั๋วเครื่องบิน" ประจวบกับไลออนแอร์เป็นใจ ออกโปร DMK-NGO ในราคาไปกลับประมาณ7000กว่าบาท มันก็ไม่ถูกขนาดนั้นหรอก... แต่ก็ไม่ต้องไปกดวอร์แย่งกับใครให้มากความ พอมีตั๋วเครื่องบินแล้วก็ถึงขั้นตอนที่เราไม่เคยทำมาก่อน นั่นก็คือ ลางานกับหัวหน้า!

    สองครั้งที่ผ่านมาเราไปญี่ปุ่นตอนที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่ครั้งนี้เราทำงานแล้ว เป็นงานฟูลไทม์ในสะด้วย! นี่คือความลุ้นติดอันดับในชีวิตที่มีมาเลย
    ...ถ้าเขาไม่ให้จะทำยังไงน้าาา ตั๋วเครื่องบินก็ซื้อแล้ว
    ...แต่ก็ลาตั้ง 4 วันเลยนะ... (ลาคร่อมวันหยุด)
    ...จะอนุญาตไหมน้าาาาาา...

    พอขออนุญาตลาแล้วหัวหน้าไฟเขียวปุ๊บ เหมือนยกภูเขาออกจากอก สบายใจยิ่งกว่าสอบวิชาฟิสิกส์ 2 เสร็จ (แต่ต้องไปลุ้นคะแนนเอาทีหลังนะ...)

    สเต็ปต่อไป.. ก็ต้องวางแผนการเที่ยวทั้งหมด 7 วัน (บิน 2 วัน เที่ยว 5 วัน) เราเจอ JR Pass ดีๆมาหนึ่งอัน นั่นก็คือ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass 5 Days (ราคาที่เราได้มาตอนนั้นคือประมาณ 3,500 บาท ช่วงที่เงินบาทแข็งพอดี) มันเป็นพาสที่จะพาเราไปสองเมือง ซึ่งก็ดูคุ้มค่าในการที่จะพาคนที่ไปญี่ปุ่นแบบไม่ใช่ทัวร์ได้ลองสัมผัสถึงความโหดหินของการวิ่งขึ้นรถไฟให้ทัน แต่ก็ได้พาสที่ครอบคลุมถึงโซนคันไซที่ค่อนข้างเจริญและศิวิไลซ์กว่านาโกย่า
    เราวางแผนคร่าวๆไว้ดังนี้
    DAY 1 นั่งเครื่องบินไปNGO ไปที่ย่านเมืองเก่า Nagoya
    DAY 2 ไป Takayama นอนที่ Kanazawa
    DAY 3 เที่ยว Shiragawa-ko
    DAY 4 เที่ยว Kanazawa ไปนอนที่ Kyoto
    DAY 5 ป่าไผ่และวัดน้ำใส
    DAY 6 เที่ยวในโอซาก้า
    DAY 7 ขึ้นชินคันเซ็น(ซื้อเพิ่ม) กลับมานั่งเครื่องที่สนามบิน NGO
    **เตือนก่อนเลย... ห้ามทำตามแผนนี้เด็ดขาด! จะเป็นยังไงต้องติดตามชมตอนต่อไป**

    เราวางแผนมา 3-4 เดือน(ด้วยตัวเอง เพราะคนอื่นในทริปไม่สนเฮียอะไรกับเราเลย) รีเช็คความถูกต้อง(กับตัวเอง) เข้าออกพันทิปเป็นว่าเล่น อ่านTripAdvisorวันเว้นวัน จากเดิมที่ในไลน์จะส่งสวัสดีวันจันทร์ ดันส่งสถานที่เที่ยวมาให้อ่านเพราะเห็นว่ารูปสวยดี(แต่ก็ไม่เปิดอ่านเองนะ...) จนเริ่มรู้จักโรงแรม เริ่มเข้าใจพื้นฐานของภูมิภาคนี้เล็กน้อย จังหวัดไอจิจะมีเมืองหลักชื่อว่านาโกย่า และจังหวัดข้างเคียงที่น่าสนใจเยอะอยู่เหมือนกัน เดินทางกึ่งง่ายกึ่งยาก หลายที่ก็ต้องใช้รถบัสเพื่อเข้าไป คล้ายๆกับตอนที่ไปเที่ยวคิวชู(ถ้าเป็นธรรมชาติจ๋าๆต้องใช้บัสอย่างเดียว) แต่คงเพราะชินกับคิวชูมาแล้วเลยรู้สึกว่าง่าย ทำให้รู้สึกประมาทไปหน่อย หาข้อมูลน้อยกว่าไปคนเดียว(เพราะเห็นว่าไปหลายคนก็ถือว่ามีเพื่อน หลงก็ช่างมัน นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทริปนี้กระท่อนกระแท่นเหลือเกิน)

    กำหนดเดินทางคือวันที่ 6-12 ธันวาคม 62 แล้วช่วงที่เราไปคือได้ลุ้นทั้งหิมะและใบไม้เปลี่ยนสี ไอ้เราก็คาดหวังจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนคนอื่นที่ไปคาดหวังให้หิมะตก -_____-;; ต่างคนต่างไม่เคยเห็นทั้งคู่ ต่างก็แช่งฝั่งตรงข้ามกันอย่างเมามันส์...

    แต่ด้วยความที่เราทำงานไปด้วย การโฟกัสที่การเที่ยวมันคงไม่มากเหมือนแต่ก่อน แล้วแอบคิดว่าคงจะไปเหนื่อยแทนการพักผ่อนด้วยแหละ สารภาพเลยว่ารู้จักสถานที่ๆจะไปค่อนข้างน้อยกว่าการเที่ยวครั้งก่อนๆเยอะ แต่แล้วเวลาก็ผ่านไปเร็วมากเช่นกัน ...ในที่สุดการเดินทางของมนุษย์ Introvert ตัวร้ายกับครอบครัววุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้น...

    ...แต่ก็ไม่คิดว่าจะพังตั้งแต่วันแรกป่าววะ!
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in