พี่นั่งอยู่ทางด้านขวาของผม เราจับจอยคนละตัว ดวงตาติดแน่นอยู่กับภาพเคลื่อนไหวบนจอ LED 50 นิ้ว
"สามเหลี่ยม กดสามเหลี่ยม" พี่ย้ำ ละล่ำละลั่กไม่เป็นประโยค ส่วนผมหัวหมุน
"เอ้า สี่เหลี่ยม กด กดสิ"
บทสนทนาในบ่ายวันเสาร์อันแสนเกียจคร้านวนเวียนอยู่เช่นนั้น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม กากบาท พี่จิ๊ปากไปร้อยรอบได้ถ้าหากตั้งใจนับ สุดท้ายภารกิจสอนผมเล่นเกมก็ล้มเลิกตอนหกโมงตรง
"นู้บ" คำต่อว่าต่อขานนั้นมาพร้อมสีหน้าดูแคลนอย่างยิ่งยวด ผมเพียงหัวเราะเป็นการยอมรับ แล้วพอผมบอกว่าจะทำซุปมันฝรั่งที่พี่ชอบเป็นของไถ่โทษ พี่ก็ยิ้มแฉ่ง
เรานั่งมองหน้ากันอยู่ชั่วอึดใจ ผมจ้องตาพี่ รู้ตัวมีรอยยิ้มจางๆ บนริมฝีปาก
"อย่ามองพี่แบบนั้นสิ"
"หืม?"
พี่โคลงหัว "เรามองพี่เหมือนมองว่าวที่กำลังจะหลุดลอยไปเลย"
ผมหัวเราะจางๆ
มันใกล้สุดสายป่านแล้ว...
ไม่มีใครรู้ว่าเชือกที่ดึงรั้งเราไว้จะขาดลงเมื่อไหร่
ผมหวังว่ายังไม่ใช่เร็วๆ นี้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in