เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Dartmouthนี่เป็นอะไรกับDarth Vaderป้ะคะYanisa Sunthornyotin
Day0: ยูนิคอร์นไปดูบรัยย
  • 28 สิงหาคม

    สวัสดีค่าาา​ เจอกันอีกแล้วกับ​ ข้าน้อย... มิ่ง​ ญาณิศา​ สุนทรโยธิน​ วิศวะ​จุฬา​ อินเตอร์ภาค​ICE​ ผู้ก้าวขึ้นสู่ปี4อย่างเป็นทางการ​ เย้!​ //รู้สึกแก่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    ตอนนี้มานั่งเล่นอยู่ที่ดูไบกับเจ้ายูนิคอร์นตัวเดิมค่ะ

    อ่ะงง​ งงง~​ อะไรยังไง

    หลังจากที่เรากลับมาจากฝึกงานที่CERN สวิตเซอร์แลนด์ได้เพียง1อาทิตย์​ วันนี้เราก็ต้องเดินทางไปยัง สหรัฐอเมริกา​ กันอีกแล้วค่ะ​ 

    ปล.ขอขายของนิดนุง ติดตามเรื่องราวชีวิตประจำวันที่CERNได้ที่บทความ​ `From CERN(เจิ้น)​ to CERN`ตามลิ้งค์
    https://minimore.com/b/AzOKi
    ได้นะคะ​ โครงการThai-CERNปี2563เปิดรับสมัครแล้ว​ ไปสมัครกันได้

    คราวนี้เป็นโครงการแลกเปลี่ยนของที่คณะซึ่งมีความร่วมมืออยู่กับทาง​Dartmouth College​​ ณ​ ​เมืองHanover​รัฐNew Hampshire หนึ่งใน​Ivy LeagueของUS เป็นการแลกเปลี่ยนในระยะเวลา1เทอมค่ะ​ ช่วงที่เราจะไปกันนั้นคือช่วงFall​ ฤดูใบไม้ร่วงที่เค้าว่ากันว่าสวยมว้ากกกกกก

    ความดีงามของโครงการแลกเปลี่ยนนี้ก็คือเราจ่ายค่าเทอมเท่ากับของที่ไทยแทนที่จะเป็นค่าเทอมของทางDartmouthค่ะ​ แน่นอนว่าถูกกว่ามาก​ ยิ่งถ้าได้ทุนเรียนดีของทางคณะอะไรพวกนี้อีกก็จะยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ค่ะ​ อย่างคนที่ได้ทุนISE100ก็จะจ่ายเทอมละ21000บาทเท่านั้น(เท่าของภาคไทย​ ไม่ต้องจ่ายส่วนที่เกินมาของInter) \\แอบกระซิบ ค่าเทอมจริงDartmouth 6แสนบาทนะตัวเธอ​
    ทั้งยังสามารถเบิกค่าเดินทางได้อีกเป็นจำนวน30Kบาท(ก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่เทียบกับราคาจริง​ แต่อย่างน้อยก็ยังได้อ่ะนะ)​

    ต้องเกริ่นก่อนว่าแรกเริ่มเดิมทีมิ่งไม่ได้มีแผนที่จะเข้าร่วมโครงการนี้เลยค่ะ​ ถึงแม้ว่าเพื่อนเกือบครึ่งภาคจะไปแลกเปลี่ยนกันหมดก็ตาม(มีอีกหลายประเทศให้เลือก เช่น​ จีน​ เกาหลี​ ญี่ปุ่น​ อิตาลี่)​ ตั้งใจอยากจะเตรียมตัวไปเรียนต่อและทำsenior ​projectที่ไทย​ แต่ใจนึงก็อยากใช้เจ้าตัวเงินทุน30kนั้น​ (งกอีก​ ขอแค่เป็นเงินคณะ​ อิฉันเก็บทุกเม็ด)​ ที่ตอนไปฝึกงานCERNขอไม่ได้เพราะมีอีกทุนช่วยออกให้อยู่แล้ว​ 
    ก็ได้รู้มาว่าที่Dartmouthปีนี้ไม่มีคนยื่นไปค่ะ​ นี่ก็แปลกใจ​ นึกว่าจะแย่งกันเสียอีก​ เพราะเห็นว่าปีก่อนๆหน้าก็การแข่งขันค่อนข้างสูง​ พี่ที่Officeเลยมาชวนให้ไป​ เราที่ไม่ได้มีPassionกับการไปเรียนที่อเมริกาเท่าไหร่ก็ลังเลอยู่นานพอควร(จริงๆก็ไม่เชิง​ เรียกว่าตอบตกลงไปทันทีแล้วก็มานั่งลังเลตอนหลังดีกว่า5555)​ อย่างที่หลายคนอาจจะรู้​ มิ่งชอบฝั่งยุโรปมากกว่าอเมริกาเพราะมันเที่ยวง่าย​และสงบกว่ามาก​ 

    แต่ด้วยความที่Dartmouthเป็นมหาวิทยาลัยในป่า(?!) แล้วยังขึ้นชื่อว่าสวยงามมากในฤดูใบไม้ร่วง​ มิ่งผู้ที่จิตใจเป็นส่วนหนึ่งกับผืนป่าและขุนเขาจึงเริ่มสนใจโครงการนี้ขึ้นมา​ //บวกกับที่อเมริกาปลายปีจะมีStar warsภาคสุดท้ายเข้าด้วย​ เลยอยากไปซื้อของเล่น555

    คนรู้จักมิ่งย้ายไปอยู่เมกากันเยอะมากค่ะ​ เพื่อนก็บ่นว่าอยากจะย้ายไปกันด้วยเหตุผลอะไรหลายๆอย่าง(ส่วนมากจะเรื่องการเมือง... แต่เมกาการเมืองก็ไม่ได้สงบอะไรนะ5555)​ ไม่เคยเข้าใจว่ามันมีดียังไงการมาอยู่เมกาเนี่ย​ ทำไมถึงต้องที่นี่? ทำไมไม่เป็นยุโรป? มหาลัยอันดับดีพอๆกันก็มีเยอะแยะ​ //อย่างCom sci​ Oxfordก็ยืน1มาในปี2019งี้​ 
    ก็มาดูกันว่าการไปครั้งนี้จะช่วยลดอคติต่อการไปเรียนอเมริกาของเราได้หรือไม่

    มิ่งว่าการออกไปผจญโลกกว้าง​ในต่างประเทศช่วยเปลี่ยนความคิดของเราไปได้เยอะอยู่นะคะ​ ไม่ว่าจะเรื่องเส้นทางอาชีพ​ หรือการใช้ชีวิต​ การไปครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะทำให้มุมมองเปลี่ยนไปมากแค่ไหน​ แต่ขออย่างเดียว... น้ำหนักอย่าขึ้น​ ถถถถ(สวิสล่อไป2โล​ บ้าจริง!)​

    เอ้า! มาต่อกันที่การเดินทางของเราในวันนี้ค่ะ​ เครื่องออกเวลา02.25น.​ สายการบินEmiratesนั่งไป6ชม.เพื่อต่อเครื่องที่ดูไบก่อนจะนั่งต่ออีก14ชม.(omg) ไปยังBostonค่ะ​ ไกลแท้~ นี่ตอนแรกว่าจะบินไปจากสวิสเลยแต่ควรกลับมาเปลี่ยนล็อตเสื้อผ้าจากหน้าร้อนเป็นหน้าหนาวที่ไทยก่อนดีกว่าค่ะ​ มากินชาบูด้วย​ คิดถึง

    คราวนี้ทริปขาไปของมิ่งไม่โดดเดี่ยวนะคะ​ มีคุณแม่มาด้วย​ >v<~ เที่ยวก่อนซักอาทิตย์นึงแล้วค่อยเข้าไปมหาลัยค่ะ​ 

    ที่Dartmouthเราจะมีอาจารย์Kennedyที่เป็นศาสตราจารย์ที่นู้น(แต่ภรรยาเป็นคนไทยสอนอยู่อักษรจุฬาค่ะ)​เป็นคนช่วยประสานงานให้​ ถ้าหากมีข้อสงสัยหรือข้อกังวลอะไรก็ถามท่านได้​ อย่างตอนDoc tripซึ่งเป็นค่ายรับน้องของDartmouthที่นักเรียนแลกเปลี่ยนสามารถเข้าร่วมได้มิ่งก็ได้อาจารย์ช่วยจัดการเรื่องให้​ 

    กรรมวิธีการเตรียมตัวมานี่ก็ยุ่งยากกว่าไปสวิสนิดหน่อยเพราะมีเรื่องวัคซีนกับภูมิคุ้มกันที่เราจะต้องไปเตรียมตัวฉีดให้ครบตามที่เค้ากำหนดแล้วก็ขอใบรับรองแพทย์อะไรพวกนี้ด้วย​ ต้องเผื่อเวลาทำหน่อยนะคะ​ มิ่งมาอัดตอน1อาทิตย์ที่กลับมาไทยก็เฉียดฉิวอยู่​ วีซ่าตอนแรกก็พยายามเร่งทำให้เสร็จก่อนไปสวิส​ เรียกได้ว่าก็กระหืดกระหอบเหมือนกันสำหรับคนที่ไปสองประเทศติดกันแบบนี้​ หูยย เขียนไปก็หวั่นใจ​ จะเข้าประเทศได้มั้ยนี่

    เมื่อเรามาถึงสนามบินบอสตันก็นั่งรถบัสSilver lineที่อยู่ข้างหน้าAirportไปเข้าเมือง​ ขึ้นฟรีค่ะไม่ต้องเสียตังค์

    โรงแรมวันแรกของเราพักกันที่Hi hostelใกล้China Town หลังจากลงSilver lineที่South stationก็ต้องต่อสาย4ที่อยู่ข้างนอกสถานีใหญ่ออกไปหน่อยไปอีก1สถานี​ ​ราคาตกคนละ2เหรียญ​ แม้วันนี้จะฝนตกทำให้ออกจะทุกลักทุเลไปเสียหน่อยแต่ก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพค่ะ
    Lobby โรงแรม


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in