เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ดูแล้วอยากบอกต่อthefirstofmine
Mary Poppins: เมื่อสายลมเปลี่ยนทิศ ชีวิตที่เต็มไปด้วยแรงผลักดันของ P. L. Travers
  •  Mary Poppins หนังแฟนตาซีมิวสิคัลที่จะพาทุกๆ คนเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการและย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง

    แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ (Mary Poppins) ผลงานการเขียนของ P. L. Travers (หรือชื่อจริงๆ ของเธอก็คือ Helen Lyndon Goff) มีทั้งหมด 8 เล่มด้วยกัน คือ
    1. Mary Poppins ตีพิมพ์เมื่อปี 1934
    2. Mary Poppins Comes Back ตีพิมพ์เมื่อปี 1935
    3. Mary Poppins Opens the Door ตีพิมพ์เมื่อปี 1943
    4. Mary Poppins in the Park ตีพิมพ์เมื่อปี 1952 
    5. Mary Poppins From A to Z ตีพิมพ์เมื่อปี 1962
    6. Mary Poppins in the Kitchen ตีพิมพ์เมื่อปี 1975
    7. Mary Poppins in Cherry Tree Lane ตีพิมพ์เมื่อปี 1982
    8. Mary Poppins and the House Next Door ตีพิมพ์เมื่อปี 1988
    และมีแปลไทยอยู่ 2 เล่มด้วยกัน คือ แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ และแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ กลับมาแล้ว จัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อ 

    ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาแนะนำหนังให้ทุกๆ คนอ่านกันถึง 2 เรื่องด้วยกัน คือ Mary Poppins (1964), Saving Mr. Banks (2013) ส่วน Mary Poppins Returns (2018) ที่เพิ่งเข้าโรงสดๆ ร้อนๆ ก็ขอยกไปไว้อีกบล็อกก็แล้วกันนะ เพราะมันเยอะมาก กดอ่านที่นี่
  • Mary Poppins (1964)

    © 1964 Walt Disney Productions

    แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ ฉบับ 1964 ที่ได้คุณจูลี่ แอนดรูว์ส มารับบทเป็นแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ และดิก แวน ไดก์ มารับบทเป็นเบิร์ต

    กำกับโดย Robert Stevenson
    ดัดแปลงจากหนังสือ Mary Poppins ของ P.L. Travers
    เขียนบทภาพยนตร์โดย Bill Walsh และ Don DaGradi 
    ทำเพลงประกอบโดย Richard M. Sherman & Robert B. Sherman
    กำกับภาพโดย Edward Colman

    นำแสดงโดย
    • Julie Andrews รับบทเป็น Mary Poppins
    • Dick Van Dyke รับบทเป็น Bert 
    • David Tomlinson รับบทเป็น Mr. George W. Banks และพากย์เสียงนกแก้วที่เป็นหัวร่มของแมรี่ ป๊อปปิ้นส์
    • Glynis Johns รับบทเป็น Mrs. Winnifred Banks
    • Hermione Baddeley รับบทเป็น Ellen - Maid
    • Reta Shaw รับบทเป็น Mrs. Brill - Cook
    • Karen Dotrice รับบทเป็น Jane Banks
    • Matthew Garber รับบทเป็น Michael Banks
    • Elsa Lanchester รับบทเป็น Katie Nanna
    • Arthur Treacher รับบทเป็น The Constable
    • Reginald Owen รับบทเป็น Admiral Boom
    • Ed Wynn รับบทเป็น Uncle Albert
    • Jane Darwell รับบทเป็น The Bird Woman
    • Arthur Malet รับบทเป็น Mr. Dawes Junior

    © 1964 Walt Disney Productions

    หนังแฟนตาซีที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปยังวัยเด็ก เพลิดเพลินไปกับเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม แมรี่ ป๊อปปินส์ พี่เลี้ยงที่มาดูแลเด็กๆ บ้านแบงค์ส เจนและไมเคิล 
    แบงค์สเด็กแสบที่พี่เลี้ยงคนไหนก็ดูแลไม่ไหว เธอมาช่วยสอนให้เด็กๆ เรียนรู้สิ่งต่างๆ หนังเรื่องนี้สอนเด็กๆ และผู้ใหญ่ได้ดีมากๆ เรื่องหนึ่งเลยล่ะ

    © 1964 Walt Disney Productions

    แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ เซตฉากในประเทศอังกฤษ ปี 1910 เปิดเรื่องด้วยนายเบิร์ต เล่นดนตรีทั้งวงและร้องเพลงด้วยตัวคนเดียว สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้คนที่ฟัง หลังจากนี้ก็จะเป็นการแนะนำตัวละครที่อยู่ระแวกบ้านแบงคส์ ไม่ว่าจะเป็นนายพลบูมและพลจุดปืนบอกเวลาอย่างมิสเตอร์บินนิเคิล คุณแม่วินนิเฟรด แบงค์ส แม่บ้านป้าเอลเลน พี่เลี้ยงคนเก่าอย่างเคธี่ ที่มาขอลาออกเพราะเด็กจอมแสบทั้งสองคน มิสเตอร์แบงค์ส พ่อที่ทำแต่งาน ไม่มีเวลาดูแลลูก เขาเป็นพนักงานในธนาคาร Fidelity Fiduciary ทำให้พวกเขาต้องหาพี่เลี้ยงมาใหม่ เด็กๆ ก็รู้สึกผิด จึงช่วยเขียนคำโฆษณาประกาศหาพี่เลี้ยงคนใหม่ มิสเตอร์แบงค์สประกาศหาพี่เลี้ยงลงหนังสือพิมพ์ วันรุ่งขึ้นมีพี่เลี้ยงมาเต็มหน้าบ้านเลย และเมื่อแมรี่ ป๊อปปินส์ ได้ข่าวเรื่องนี้ จึงเดินทางมายังบ้านแบงค์ส เพื่อดูแลเด็กๆ (และเธอบอกว่าเธอจะกลับเมื่อลมเปลี่ยนทิศ) เรื่องราวสนุกๆ จึงบังเกิดขึ้น เด็กๆ ต่างคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง แม้มันจะเหมือนจินตนาการและอยู่ในฝันมากเพียงใดก็ตาม แต่แมรี่ ป๊อปปินส์ ไม่เคยที่จะยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริง นอกจากเธอจะสอนเด็กๆ ทางอ้อมให้พวกเขาคิดเองแล้วนั้น เธอยังทำให้พ่อของเด็กๆ นั้นได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

    © 1964 Walt Disney Productions

    ตัวหนังมีความแฟนตาซีและ
    มิวสิคัลตลอดทั้งเรื่อง เราชอบการที่หนังเป็นการผสมผสานระหว่างความจริงและจินตนาการ (Live Movie + 2D Animations) มันคือความลงตัวที่ดี เพลงเพราะมากๆ โดยเฉพาะฉากกล่อมนอน กล่อมจริงๆ กล่อมจนเราหลับเลย ฉากเต้นรำ ฉากที่ไปยังสถานที่ต่างๆ ในจินตนาการ เป็นฉากที่ดีมากๆ ทุกอย่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจไปหมด 

    โดยเฉพาะฉากแอนิเมชั่นที่มีความเป็นดิสนีย์มากๆ (แหงสิ) ทั้งลายเส้น สีสันต่างๆ เพลงประกอบทุกเพลงมันตรึงใจเอามากๆ เราชอบเพลง Stay Awake, Supercalifragilisticexpialidocious, Let's Go Fly a Kite มากๆ และเชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องติดใจกับเพลง A Spoonful of Sugar เหมือนเราแน่นอนเลยล่ะ

    แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ จึงเป็นการผสมผสานระหว่างเรื่องราวที่เปี่ยมด้วยจินตนาการ บทเพลงที่ไม่อาจลืม การเต้นที่น่าทึ่ง และการแสดงที่สุดยอด รวมเอาไว้ในเรื่องนี้เรื่องเดียว

    "Mary Poppins (1964)." (L-R) Richard M. Sherman, Julie Andrews, Dick Van Dyke, Robert B. Sherman. Disney 1963
    Mary Poppins ได้รับรางวัลหลายสาขาจากเวทีออสการ์ในปี 1965 ไม่ว่าจะเป็น
    • สาขานักแสดงนำหญิง (Julie Andrews)
    • สาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
    • สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม
    • สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Chim Chim Cher-ee)
    • สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม

    สามารถฟังเพลงประกอบได้ที่ SpotifyApple Music มีทั้งหมด 17 เพลง และบทสัมภาษณ์ของ Richard M. Sherman & Robert B. Sherman ผู้ทำเพลงประกอบให้กับหนังเรื่องนี้

    Julie Andrews, Dick Van Dyke, and Marc Breaux in Mary Poppins (1964)
    เราชอบสายตาที่เบิร์ตมองแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โคตรชอบเลย อ่อนหวาน ละมุน และทะเล้น เวลาโดนแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ดุทีก็เงียบที โอ๊ย น่ารักไปหมด
    แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ น่ารัก ใจดี ชอบเวลาคุณจูลี่เต้นและร้องมากๆ ประทับใจ เอาจริง แค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่าคือคุณจูลี่ เอกลักษณ์มากๆ 
    เจนและไมเคิล สองพี่น้องที่น่ารักมากๆ ฉลาดและรู้จักพูด แต่ก็ยังคงเป็นเด็กที่แอบกวนอยู่ด้วย

    Mary Poppins เป็นหนังที่พ่อแม่น่าจะเปิดให้เด็กๆ ดูพร้อมๆ กัน มันเป็นหนังที่ดีและเหมาะกับครอบครัวมากๆ ถ้าจะให้ฟังคนอื่นเล่าหรืออ่านรีวิวอ่าน อาจจะเก็บเรื่องราวและความสนุกของหนังเรื่องนี้ได้ไม่หมดแน่นอน






  • Saving Mr. Banks (2013)

    © 2013 Walt Disney Productions

    Saving Mr. Banks หนังชีวประวัติของ P.L. Travers ที่เล่าเรื่องราว P.L. Travers นักเขียนผู้เขียนหนังสือเซต Mary Poppins โดยเริ่มต้นจากสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเดินทางไปคุมการผลิตหนัง เซ็นสัญญา เขียนบทเรื่อง Mary Poppins ตัดสลับกับการเล่าเรื่องราววัยเด็กของเธอ ไปจนถึงวันที่หนังเรื่องนี้ออกฉาย

    กำกับโดย John Lee Hancock
    เขียนบทภาพยนตร์โดย Kelly Marcel และ Sue Smith

    นำแสดงโดย
    • Emma Thompson รับบทโดย P.L. Travers
    • Tom Hanks  รับบทโดย Walt Disney
    • Annie Rose Buckley รับบทโดย Ginty
    • Colin Farrell รับบทโดย Travers Goff
    • Ruth Wilson รับบทโดย Margaret Goff
    • Paul Giamatti รับบทโดย Ralph
    • Bradley Whitford รับบทโดย Don DaGradi
    • B.J. Novak รับบทโดย Robert Sherman
    • Jason Schwartzman รับบทโดย Richard Sherman
    • Lily Bigham รับบทโดย Biddy
    • Kathy Baker รับบทโดย Tommie
    • Melanie Paxson รับบทโดย Dolly
    • Andy McPhee รับบทโดย Mr. Belhatchett
    • Rachel Griffiths รับบทโดย Aunt Ellie

    © 2013 Walt Disney Productions

    ตัวหนังเน้นทั้งสองช่วงเวลาไปพร้อมๆ กัน และชวนให้เราติดตาม Emma Thompson ในบทของ Mrs. Travers ทำให้เรารู้สึกเหมือนนั่งฟังป้าแก่ๆ ขี้บ่น จุกจิก จู้จี้ และ Tom Hanks ในบทของ Walt Disney ชายผู้สัญญากับลูกสาวว่าจะทำให้หนังสือ Mary Poppins ที่ลูกสาวรักได้มาโลดเล่นบนแผ่นฟิล์มซึ่งใช้เวลาถึง 20 ปี นอกจากนี้ยังมีทีมสร้างหนัง ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนบท และนักประพันธ์เพลง 

    © 2013 Walt Disney Productions

    ยอมรับว่าดูแล้วแอบรำคาญป้าแกอยู่เหมือนกัน แต่ก็เข้าใจนะ เพราะพวกเขาจะมาเอาหนังสือของป้าไปทำ ถ้าทำออกมาไม่ได้อย่างที่ป้าต้องการ หรือผิดเพี้ยนไปจากหนังสือ ป้าแกก็คงไม่ยอม 

    เราชอบการลำดับเรื่อง การตัดสลับที่ดูไม่น่ารำคาญ ไม่เยิ่นเย้อ เรื่องราววัยเด็กเริ่มตั้งแต่ย้ายบ้านจากในเมืองเข้าถิ่นกันดาร พ่อเป็นนายธนาคาร ขี้เหล้า แม่เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกสามคน นอกจากพ่อจะขี้เหล้าแล้วยังเพ้อฝัน (อาจจะเรียกว่าเพ้อเจ้อก็ได้) แต่ก็เป็นคนที่เฮเลนรักมากๆ อีกด้วย และเมื่อพ่อของเธออาการแย่ลง เอเลน ผู้เป็นป้าและพี่สาวของพ่อเธอก็มาเยือนและบอกกับเด็กๆ ว่า เธอมาเพื่อแก้ไขทุกอย่าง (ถ้าบอกว่าป้าเอเลนคือแมรี่ ป๊อปปินส์ ก็คงจะใช่) และช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของพ่อของเธอ (พ่อของ P. L. Travers เสียชีวิตเพราะการดื่มเหล้าหนักนี่แหละ) ซึ่งในตอนนั้นเธออายุเพียง 7 ขวบ


    พาร์ทผู้ใหญ่คือเริ่มจากที่ป้าต้องเดินทางมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อมาดู มากคุม และเซ็นสัญญา แต่ปัญหาก็เยอะ เพราะป้าแกหวงมาก ไม่อยากให้เป็นหนังแอนิเมชั่น ไม่อยากให้เป็นหนัง
    มิวสิคัล และไม่อยากได้ Dick Van Dynk มาร่วมแสดง แต่ไปๆ มาๆ ป้าแกก็เริ่มยอม แต่ที่พีคสุดคือตอนที่ทีมงานเล่นเพลง Fidelity Fiduciary Bank ให้ป้าฟัง ป้าแกร้องไห้แล้วบอกว่าทำไมต้องทำให้ Mr. Banks โหดร้ายขนาดนั้น แล้วก็มีเรื่องเพนกวินที่จะเป็นแอนิเมชั่นอีก ป้าแกไม่พอใจ บินกลับลอนดอนเลยจ้า สุดท้ายวอลต์ก็บินมาเพื่อขอร้องป้า แล้วก็สัญญาว่า ยังไงทุกๆ คนก็จะรัก Mr. Banks อย่างแน่นอน

    และเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ก็มาจบลงในตอนที่จัดงานพรีเมียร์หนัง Mary Poppins แล้วไม่มีคนเชิญป้าแก ป้าแกเลยบินมาเองเลยจ้า


    ถามว่าชอบมั้ย ก็โอเคนะ เหมือนเราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของนักเขียนที่เป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตควบคู่ไปกับหนัง (เข้าใจได้ เพราะนักเขียนหลายๆ คนมักเอาเรื่องราวชีวิตตัวเองไปทำหนัง) ดูแล้วยิ่งรักหนังมากกว่าเดิม ตัวละครที่ชอบที่สุดคือ Ralph ที่รับบทโดย Bradley Whitford แม้จะแอร์ไทม์น้อย แต่มีเสน่ห์เอามากๆ รักมากกกกกกกกกก

    ถ้าใครจะดูเพื่ออรรถรสก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันเป็นหนังชีวประวัติที่เล่าออกมาในรูปแบบของหนัง ไม่ต้องรู้จัก Mary Poppins ก่อนก็ดูได้ อาจจะมีบางช่วงที่น่าเบื่อ แต่สำหรับเรา ครึ่งหลังมันน่าติดตามเอามากๆ เลยล่ะ



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in