December 4, 2017
หนังเรื่องนี้เราวางแผนเอาไว้ว่าจะไปดูในช่วงวันหยุด (วางแผนตั้งแต่ยังไม่รู้วันฉาย เพราะเราอยากดูเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก) แต่อะไรดลใจก็ไม่รู้ ไปดูเอาวันแรกที่มีรอบพิเศษก่อนซะเลย (เปล่าหรอก เพราะวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ไปดูหนังรอบพิเศษก็ยังมีเวลาได้พักผ่อนอีกวัน)
ส่วนตัวเรายังไม่เคยได้อ่านหนังสือ แต่รู้จักหนังสือเล่มนี้มานานพอควร ตั้งแต่ยังไม่มีแปลไทย พอเอามาแปลไทยแล้ว ก็ยังไม่มีโอกาสได้อ่าน
WONDER ชีวิตมหัศจรรย์ของออกัสต์
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง Wonder โดย R.J. Palacio
กำกับโดย Stephen Chbosky (เขาเคยกำกับ The Perks of Being a Wallflower มาก่อนด้วยล่ะ)
เขียนบทโดย Jack Thorne, Steve Conrad, และ Stephen Chbosky
ดนตรีและเพลงประกอบโดย Marcelo Zarvos
ความยาว 113 นาที
ฉายครั้งแรกในอเมริกาวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017
ฉายในไทยวันที่ 7 ธันวาคม 2017
ฉายรอบพิเศษในไทยวันที่ 4-6 ธันวาคม 2017 รอบ 20.00 น.
นำแสดงโดย
- Jacob Tremblay รับบทเป็น August "Auggie" Pullman
- Owen Wilson รับบทเป็น Nate Pullman (พ่อออกัสต์)
- Julia Roberts รับบทเป็น Isabel Pullman (แม่ออกัสต์)
- Izabela Vidovic รับบทเป็น Olivia "Via" Pullman (พี่สาวออกัสต์)
- Danielle Rose Russell รับบทเป็น Miranda
- Nadji Jeter รับบทเป็น Justin
- Noah Jupe รับบทเป็น Jack Will
- Bryce Gheisar รับบทเป็น Julian Albans
- Elle McKinnon รับบทเป็น Charlotte
- Millie Davis รับบทเป็น Summer
- Mandy Patinkin รับบทเป็น Mr. Tushman (ครูใหญ่โรงเรียน)
- Deveed Diggs รับบทเป็น Mr. Browne (ครูประจำชั้นของออกัสต์)
- Ali Liebert รับบทเป็น Ms. Petosa (ครูสอนวิทยาศาสตร์ของออกัสต์)
อย่างที่ใครหลายๆ คนรู้กันว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือ และหลายๆ คนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวของ Wonder มันเป็นยังไง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมาอย่างเรา หรือไม่ได้ดู Trailer ด้วยแล้วนั้น ก็ไม่ได้ทำให้งงเรื่องราวเลยสักนิด
แค่ตอนเปิดเรื่องมาก็ทำให้เรายิ้มกว้างเอามากๆ แล้วล่ะ ยิ่งสำหรับใครที่เป็นแฟน Star Wars แล้วล่ะก็ อาจจะยิ่งรักหนังเรื่องนี้มากกว่าเดิมด้วย (อย่างเราเป็นต้น)
August "Auggie" Pullman เด็กชายวัย 10 ขวบที่เป็นโรค Treacher Collins Syndrome* ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 27 ครั้ง เพื่อให้ตัวเขาเองได้มองเห็น ได้ยิน และหายใจได้เอง Auggie มีพี่สาวคนนึงชื่อว่า Via และหมาที่เขารักชื่อว่า Daisy ตัวเขาเรียน Home School กับแม่ของเขามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งแม่ของเขาพาเขาเข้าโรงเรียนจริงๆ ที่มีชื่อว่า Beecher Prep School โดยเข้าเรียนในเกรด 5 ที่เด็กหลายๆ คนจะเป็นเด็กใหม่พร้อมกัน...
หนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดเฉพาะแค่ตัว Auggie อย่างเดียวเท่านั้น แต่ก็พูดในมุมของคนอื่นๆ เช่นกัน และมันทำให้เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจได้ตลอดเวลา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการของตัวละครต่างๆ ในเรื่องนี้เสมอ การให้กำลังใจ ความรักของครอบครัว การเคียงข้างกันของเพื่อน การยอมรับและทำความเข้าใจ การสนับสนุน และความอบอุ่นระหว่างกัน ทั้งในส่วนของตัว Auggie ครอบครัวของเขา เพื่อนๆ ของเขา เพื่อนสนิทของพี่สาว
เราดูแล้วเราน้ำตาไหลตั้งแต่ฉากแรกๆ เลย มันรีเลทกับตัวเองด้วยมั้ง หนังเรื่องนี้ทำให้เรารักได้ไม่ยากเลยนะ เราบอกเลยว่าเรารักตัวละครทุกตัว มันมีที่มาที่ไป มีเหตุผลรองรับการกระทำในทุกๆ อย่าง แม้เราจะไม่รู้สาเหตุในตอนแรก แต่ในตอนท้ายของเรื่อง มันบอกเอาไว้ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น
มีคำพูดหลายๆ คำที่พูดแล้วเราโคตรชอบเลย อย่างเช่น
- “When given the choice between being right or being kind, choose kind”
- “We carry with us, as human beings, not just the capacity to be kind, but the very choice of kindness.”
- “sometimes you don’t have to mean to hurt someone to hurt someone.”
- “wrote Beecher, ‘lies not in being strong, but in the right using of strength.… He is the greatest whose strength carries up the most hearts …’ ”
- “Halloween is the best holiday in the world. It even beats Christmas.”
อยากให้ทุกคนได้ดูหนังเรื่อง Wonder กัน อยากให้ไปดูกันเยอะๆ นี่ถือเป็นหนังฟีลกู๊ดเรื่องหนึ่งในปีนี้ที่ดีเรื่องหนึ่งเลย
สำหรับคนที่อ่อนไหว หรือร้องไห้ง่าย หรืออ่านหนังสืือแล้วร้องไห้ แนะนำให้พกผ้าเช็ดหน้าไปด้วย
ปกของหนังสือเรื่อง Wonder ฉบับภาษาอังกฤษ และฉบับแปลไทย
เผื่อใครอยากสร้าง portrait ของตัวเองในแบบฉบับของ Wonder ก็สามารถทำได้เหมือนกัน
เข้าไปที่
https://create.wonder.movie แล้วเราก็จะได้ portrait ในรูปแบบที่เราออกแบบเอง และจะมีโควทจากหนังสือมาให้เราด้วยล่ะ (แต่จะถูกสุ่มมานะ) อย่างของเราก็จะเป็นอันนี้
*Treacher Collins Syndrome
เป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีหน้าตาไม่เหมือนคนทั่วไปคือ หางตาชี้ลง หนังตาล่างโป่ง ขากรรไกรบนล่างลงกันได้ไม่ดี รูปร่างของใบหูผิดปกติ และหูหนวก โรคนี้พบได้ไม่บ่อย เพียง 1 ต่อ 50,000 คนของเด็กที่เกิดมา โดยจะจัดอยู่ในกลุ่มโรคที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติของใบหน้าและขากรรไกรล่าง หรือที่เรียกว่า Mandibulofacial Dysostosis หรือ MFD
อ้างอิงเรื่อง Treacher Collins Syndrome
ฝากในเพจด้วยน้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in