หลังจากเมื่อวาน 6 ก.ย. เราไปลั้ลลาที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ และนิทรรศการ Miss Candy Heart แถวศาลาแดงมาแล้ว วันนี้ 7 ก.ย. ก็เป็นคิวของ 10ml. ที่เราตั้งใจจะไปเยือนให้ได้
รถประจำทางสาย 137 (ปอ.) ผ่านปากซอยบ้านเราพอดี จึงถูกเลือกให้เป็นสารถีสำหรับวันนี้ เราออกจากบ้านตอน 10 โมงเช้า กะเวลาเดินทางไว้ประมาณ 1.30 ชั่วโมง ความตั้งใจคือไปถึงร้านไม่เกินเที่ยง และกลับบ้านประมาณ 4 โมงเย็น
แต่เป็นอย่างนี้ทุกทีเลยให้ตาย! วันไหนต้องการใช้บริการ คุณพี่ 137 ก็จะไม่โผล่มาหรอก รอจนหงุดหงิด สุดท้ายเลยกระโดดขึ้นคุณพี่ 92 มาแทน ลงป้ายรถไฟฟ้า แล้วนั่งต่อไปอีกหนึ่งสถานีถึงรัชดาภิเษก
จนในที่สุด เราก็อยู่หน้าร้าน 10ml. Cafe Gallery แล้ว มาแบบปาดเหงื่อ มาแบบไม่ชินทาง มาแบบ เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!
"ตั้งใจมาดูงานไหนเป็นพิเศษไหมคะ" พี่ผู้หญิงคนหนึ่ง
"ตั้งใจมาดูทั้งหมดเลยค่ะ อันนี้เป็นเจ้าของงานเหรอคะ" เรา
"เปล่าค่ะ ทำงานที่นี่ ถ้าอยากเดินดูสามารถพาไปได้นะคะ" พี่ผู้หญิงคนนั้น
หมายถึงว่า ตัวเขาน่ะ สามารถพาเดินดูได้ ภายใต้การยังทำตัวไม่ถูก เราได้รับการต้อนรับที่ดีมาก ไซรัปความสุขหวาน ๆ ถูกเติมลงชามะนาวที่เราสั่งไป
//
ขอคั่นรายการหนึ่งนาที
ที่ 10ml. Cafe Gallery ขณะนั้น มีนิทรรศการมาจัดที่ร้าน 3 นิทรรศการ
1. Bittersweet Life : Exhibition by PIYANUN
2. Afternoon Zine : Group Exhibition Project
3. Like A Girl : Solo Exhibition by PIMU
ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดมากกว่านี้ เราแค่เขียนบันทึก ไม่ได้มารีวิวจริงจัง แต่จะแนบแฟนเพจร้านให้ท้ายคอนเทนต์นะ เผื่อใครอยากตามไปดู
//
ห้องสี่เหลี่ยมโทนขาว ๆ ประดับผนังห้องด้วยซีนที่เจาะรูร้อยเชือกห้อยอยู่ กลางห้องมีโต๊ะหนึ่งตัว เล่มซีน - แบบเดียวกับที่แขวนอยู่นั่นล่ะ, วางอยู่เต็มโต๊ะ มีเก้าอี้สำหรับนั่งอ่านได้ พี่ผู้หญิงคนเดิมเป็นคนพาเราขึ้นมา แนะนำนิดหน่อยและกลับลงไป เหลือเราอยู่คนเดียวในห้อง
เราหยิบมาเปิดดูทุกเล่ม ทุกเล่ม จริง ๆ ถ้าเล่มที่สะดุดตาเป็นพิเศษก็จะดูเนื้อหานานหน่อย จู่ ๆ ในเวลานั้นเราก็นึกถึงสีเหลือง แปลกพิลึก คิดถึงแต่สีเหลืองจริง ๆ นะ ดังนั้น เล่มซีนที่เราบันทึกภาพด้วยไอโฟนหกพลัสเพื่อนยากก็เลยเป็นเล่มที่มีส่วนประกอบของสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่
โต๊ะเล็ก ๆ ชิดผนังตัวนั้น เป็นมุมสำหรับทำซีนจิ๋วของตัวเอง เรามัวแต่ดื่มด่ำกับงานซีนเลยไม่ได้ไปลองทำ และเวลานั้นก็ไม่รู้จะเขียนอะไรลงไปด้วย (ฮ่า)
ณ จุดนี้ต้องขออภัยเจ้าของซีนที่เราลงรูปด้วยนะ เราจำชื่อคนทำไม่ได้ T___T และก็เล่มอื่น ๆ อย่าน้อยใจ จริง ๆ ก็ชอบทุกเล่มเลยเพราะเปิดโลกมาก ๆ เปิดกล่องความคิดสร้างสรรค์สุด ๆ ทุกเล่มมีเอกลักษณ์ มีความเก๋ไก๋สุดยอด
เราชอบงานนี้มากเลย ชอบแนวคิด ชอบตัวงานภาพวาดด้วย อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก แต่โดนใจมาก แรกเริ่มเดิมทีเลยคือเราอยากมาดูงานของคุณ PIMU นี่แหละ ถึงได้ศึกษาข้อมูลของคาเฟ่นี้มา ขอพูดตรง ๆ ว่า โคตรอินกับงานชุดนี้ เราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิงแบบในตำราเสียเท่าไหร่ (ฮือ) แต่แล้วยังไงล่ะ จะแหกแข้งแหกขา พูดจาห้าวหาญ ทำงานเยี่ยงโคถึก แต่งตัวผ่าหน้าเว้าลึก ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่า ฉันเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เออ แสบดีอะ
ในตอนนี้ เราสั่งโกโก้ร้อน - เครื่องดื่มแก้วที่สอง, สั่งแบบลดหวานจากปกติ เพราะรู้ว่าความสุขจะทำหน้าที่เป็นไซรัปเติมหวานให้เอง (ล้อเล่นจ้า ปกติไม่กินรสหวานอยู่แล้ว) น่าแปลก แค่กลับลงมาจากดูงานซีนที่ชั้นสอง เดินดู Like a girl ตรงโซนคาเฟ่ชั้นล่างต่อ ทำให้เราอิ่มอกอิ่มใจขนาดนี้เชียว
ศิลปินเจ้าของผลงานมาที่คาเฟ่ด้วย! แต่เราไม่ได้รู้จักมาก่อน มารู้จักในวันนี้เลย เดินดูงานไปสองรอบ รอบแรกดูแบบเรียงลำดับตามเรื่อง ตามคำแนะนำของศิลปิน อีกรอบดูเฉพาะรูปที่ยังคาใจในความหมาย และกดถ่ายภาพที่ถูกใจเอาไว้ แต่เป็นสองรอบที่ใช้เวลานานอยู่นะ พอสมควรเลยล่ะ นานพอที่คุณ PIYANUN จะชวนคุยด้วยคำถามว่า "ยังเรียนอยู่หรือเปล่าคะ"
อ่า ออกตัวก่อนว่าไม่อะไรกับคนที่ถามคำถามค่อนข้าง Personal นะ ถ้าเจตนามันดูออกอยู่แล้วว่ามาดี
และคำถามนั้นแหละ ก็นำมาสู่การได้คุยกันอย่างออกรส ถึงแม้ว่าหลังคุยเสร็จเราจะนึกได้ว่าตัวเองพูดมากไปหน่อยก็ตาม เราขอให้คุณเจ้าของงานเขียนโปสการ์ดให้เราด้วย ดีใจมากที่มีโอกาสได้คุยกัน
ครั้งแรกของการมา 10ml. Cafe Gallery เราแบกกระเป๋าหนักกลับบ้าน หนักเพราะความสุข หนักเพราะพลังงานที่เราโหยหา เราเคยเป็นเด็กหญิงที่ใช้ชีวิตตามวัย พูดเจื้อยแจ้ว สนุกกับการออกไปที่ต่าง ๆ พบเจอผู้คนใหม่ ๆ แต่ถูกริบเสียงหัวเราะเหล่านั้นโดยก้อนเมฆสีดำใจร้าย ในปัจจุบันกำลังพยายามเป่าปากพ่นล่ม เป่าให้เมฆก้อนนั้นลอยออกไปไกล ๆ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องออกค้นหาพลังงาน
เราดีใจมาก ที่โลกบ้า ๆ ใบนี้ มันยังรอเราให้ออกไปบ้าด้วยกัน
ขอยกประเด็น Bittersweet จากแนวคิดของหนึ่งในนิทรรศการขึ้นมาสรุปบันทึกของวันนี้ หากชีวิตแยกประเภทสิ่งที่ต้องพบเจอออกเป็น 2 รสชาติ - หวาน แทนความสุข และ ขม แทนความทุกข์, เด็กหญิงอย่างเราเคยสุ่มหยิบมาชิมแล้วทั้งสองแบบ เราคงชอบรสหวาน แต่ไม่รังเกียจหากจะสุ่มหยิบเจอรสขมบ้าง จบลงด้วยการคายทิ้งแล้วหยิบกินใหม่ นึกสนุกแบบเด็ก ๆ จนกระทั่งรสชาติลูกกวาดเปลี่ยนไปทั้งหมด เหลือแค่รสขมที่เรารับไม่ได้ แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยการกินมันเข้าไปอย่างไร้ทางเลือก เราไม่มีความสุขเลย
แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว อย่างน้อยก็ตั้งแต่เราคิดชื่อให้ทริปนี้ว่า Add happiness syrup 10ml.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in