เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิว ขุนนางพลิกแผ่นดิน เล่ม 1 (ยังไม่จบ)

  • ขุนนางพลิกแผ่นดิน เล่ม 1

    ผู้เขียน เมิ่งซีสือ

    ผู้แปล เป๋าเป่า

    สำนักพิมพ์ Sense-T Book

    เรื่องย่อ

            ชายหนุ่มวัยสามสิบ ทะลุมิติมาอยู่ในร่าง จ้าวซู่ บุตรอนุฯ ที่ถูกขับไล่ออกจากเรือนมาพร้อมมารดาหลังบิดาเสียชีวิต แม้จะตกใจกับสภาพแวดล้อมใหม่ แต่ยังไงชีวิตก็ต้องดำเนินต่อ จ้าวซู่จึงมองหาหนทางให้เขาและมารดาสามารถอิ่มท้องได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตระกูลจ้าวที่เอาแต่ทอดทิ้งและกลั่นแกล้ง ในยุคนี้ที่ให้ความสำคัญกับฝ่ายบุ๋น การสอบเป็นขุนนางได้ นับเป็นเป้าหมายสำคัญที่จ้าวซู่ต้องทำให้สำเร็จ แม้ว่าจะรู้ล่วงหน้าจากประวัติศาสตร์อยู่แล้วว่าอีกไม่กี่ปี ความวุ่นวายทั้งภายในภายนอกจะบังเกิด แต่เขาก็เลือกที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อความมั่นคงในชีวิตที่ดีกว่า โดยไม่รู้เลยว่าวันหนึ่ง ในงานเทศกาลก่อนสอบเขาจะได้พบกับ จูอี้จวิน วัยสี่ปีที่ในอนาคตจะเป็นฮ่องเต้พระองค์หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์


              คำเตือน: เรื่องนี้ช่วงอายุของตัวเอกทั้งสองห่างกันมาก ๆ เลยค่ะ และทั้งสองต้องแต่งงานกับคนอื่นตามหน้าที่ของครอบครัวก่อนที่จะสมหวังกัน ดังนั้น พิจารณาแนวก่อนนะคะ ว่าใช่ทางไหม



    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

             ขุนนางพลิกแผ่นดิน จริง ๆ ตอนแรกอยู่นอกลิสต์เราเลยค่ะ ส่วนตัวกำลังรออู๋ซวง ภาค ต่อของพันสารทค่ะ นอกจากไม่กล้าเปิดเรื่องใหม่ที่มีเล่มต่อยาว ๆ แล้ว รู้สึกว่าช่วงหลังกลัวอ่านงานของคุณเมิ่งไม่ได้ค่ะ แบบว่า ตอนมังกรอำพรางเราอ่านไปเล่มครึ่งแล้ว แต่ด้วยความสัมพันธ์ตัวละครหลาย ๆ จุดทำให้เรารู้สึกอินไม่ได้ โดยเฉพาะให้คิดไปในเชิงรักใคร่แบบเป็นคนรัก ส่วนตัวเราหยุดคิดความเป็นไปได้บางอย่างของเนื้อเรื่องแล้วทำให้ไปต่อไม่ติดค่ะ ช่วงหลังเลยแอบระแวงนิดนึงว่าผลงานถัดมาจะอ่านรอดไหม ซึ่งตัวแฟ้มคดี เก็บเล่มแรกมายังไม่ได้ลองค่ะ ส่วนคดีลับใต้หมู่ดาวอ่านเรื่องย่อแล้วถูกชะตาเก็บมาครบแล้วยังดองอยู่ค่ะ (แหะ ๆ)

             ส่วนเรื่องนี้…ตอนแรกที่ไม่เก็บแค่สองอย่างเลยค่ะ คือ กลัวไม่ใช่แนวและเล่มเยอะ กะรอรีวิว แต่เห็นทางสำนักพิมพ์ออกมาตอบคำถามหลาย ๆ อย่างเลยรู้สึกว่า ต้องอ่านเองจะดีกว่า ว่าใช่หรือไม่ใช่แนว ซึ่งตัวเนื้อเรื่องที่เราค่อนข้างให้ความสำคัญคือ จุดของความต่างอายุ ที่ไม่ใช่แค่ สิบกว่า กับเลขหลักเดียว แต่ดีดบวกเพิ่มสามสิบด้วยค่ะ ซึ่งความเห็นอื่นใดหลังอ่าน เราจะมาเล่าอีกครั้งหลังเล่าเนื้อเรื่องนะคะ



    เกิดใหม่มาแล้วก็ต้องสู้ชีวิตกันต่อไป!

              หลัง จ้าวซู่ เข้ามาอยู่ในร่างนี้ เขาก็พบว่าตนย้อนเวลากลับมาสู่ยุคสมัยที่คนในประวัติศาสตร์หลายคนยังมีชีวิตอยู่ แต่สิ่งแรกที่เขาต้องทำ คือ หาอาชีพที่ทำให้เขาสองแม่ลูกมีอาหารการกินที่อิ่มท้องในแต่ละวันก่อน หลังจากนั้นคือ การวางเป้าหมายมุ่งสู่การสอบขุนนาง ซึ่งจ้าวซู่อาศัยการแอบฟังผ่านทางหน้าต่างอาคารเรียนของตระกูล วันเวลาผ่านไปกระทั่งพวกเขาสองแม่ลูกพอจะตั้งหลักได้ เขากลับถูกอาจารย์ของตระกูลจับได้ว่าแอบฟังบทเรียน ทว่าโชคดีในคราวเคราะห์ ที่เพื่อนของผู้ดูแลเมืองนี้เดินผ่านทางมา ถูกชะตาและถูกใจไหวพริบของเขาจึงรับเป็นศิษย์คนที่สองของตน จ้าวซู่ศึกษาตำราอยู่กับอาจารย์และศิษย์พี่เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งถึงวันที่เขาต้องเข้าสอบ ในที่สุดลูกอนุฯ ที่ถูกขับไล่ ก็ได้อันดับหนึ่งในการสอบมีหน้ามีตากลับมาบ้านเกิด…ทว่า ภัยจากนอกดินแดนกลับประชิดกำแพงโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟสงครามจึงประทุขึ้น โดยที่ไม่อาจรู้ได้ว่า กำลังเสริมจะสามารถเข้ามาช่วยทันหรือไม่



    ผีเสื้อกระพือปีก

                การสอบเพื่อให้ได้ตำแหน่งขุนนางที่เมืองหลวงใกล้เข้ามาทุกที จ้าวซู่ และเพื่อนอีกสองคนเก็บข้าวของจากบ้านเกิดมุ่งสู่เมืองหลวงเพื่อเตรียมตัวเข้าสอบ ทว่าการเดินทางเข้าเมืองหลวงครั้งนี้ ทำให้เข้าพบกับ จูอี้จวิน วัยสี่ปี ลูกขององค์ชายในฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ที่กำลังหลงทางแท้ ๆ แต่กลับพยายามต่อราคาของกินอย่างขะมักเขม้น ด้วยความเอ็นดูและไม่อยากให้เด็กน้อยได้รับอันตราย เขาจึงอาสาพาจูอี้จวินกลับบ้าน ทว่าระหว่างทางเด็กน้อยชวนแวะชมการละเล่นมากมายจนดึกดื่น กว่าจะพามาส่งได้ เจ้าตัวน้อยก็หลับคาไหล่เขาไปเสียแล้ว การพบกันครั้งนี้เอง ทำให้จ้าวซู่ ได้รู้จักพ่อของเด็กน้อยที่ในอนาคตจะกลายเป็นฮ่องเต้ที่สนใจเพียงสุรานารี และเหล่าที่ปรึกษาข้างกายองค์ชายท่านนี้ ซึ่งต่างมีชื่อในหน้าประวัติศาสตร์ด้วยกันทั้งนั้น ความเปลี่ยนแปลงที่เขาเข้ามาเกี่ยวข้องนี้เอง จะทำให้ขั้วอำนาจทางการเมืองภายในราชสำนักและกำลังทหารเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร



    เจ้าติดถังหูลู่ข้าไว้ 19 ไม้!

              เรื่องราวความรักในเล่มแรก จากช่วงวัยที่ห่างกันมากของทั้งสองคน เราคงบอกได้อย่างชัดเจนว่า ยังไม่มีอะไรเริ่มเลยค่ะ 5555555 เจ้าเด็กน้อยวัยสี่ปีคนนี้ยังคงสนใจแต่ของกิน ของเล่น และขนมมากกว่าเรื่องอื่น เพียงแต่ที่เขาติดจ้าวซู่มาก ๆ ก็อาจจะเป็นเพราะชีวิตของเด็กน้อย แทบไม่มีเพื่อนเล่นเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนสำหรับจ้าวซู่มีแต่ความเอ็นดูจ้าวก้อนแป้งแก้มยุ้ยคนนี้เท่านั้น และอีกส่วนก็อยากจะให้แง่คิดบางอย่างที่เป็นประโยชน์สำหรับเด็กน้อยที่ในอนาคตจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ ดังนั้น โมเม้นต์ของทั้งคู่ที่มียังเป็นพี่ชายน้องชาย หรือเพื่อนต่างวัยที่มาดูแลและเล่นด้วยกันเท่านั้นค่ะ

         ซึ่งถ้าถามเรา…เดาว่าจะต้องมีเหตุให้ห่างกันหลายปีจากนี้แน่เลยค่ะ เพราะถ้าให้จ้าวซู่มาเป็นอาจารย์หรือเลี้ยงจูอี้จวิน ส่วนตัวคิดว่าอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไร …

         ต้องมาลุ้นกันในเล่มถัดไปแล้วค่ะ แต่ที่น่าติดตามจริง ๆ คงเป็นสถานการณ์ที่จ้าวซู่กำลังต้องเผชิญหน้ากับวังวนทางการเมืองที่ตนเองกำลังถูกใช้เป็นหมากล้มขุนค่ะ


            ขุนนางพลิกแผ่นดิน หลังจากอ่านเล่มแรกแล้วสำหรับเราจัดอยู่ในหมวดอ่านได้ค่ะ ไม่ถึงกับไม่ใช่แนว แต่เป็นเรื่องราวที่รอได้ค่ะ (แต่เล่มแรกคาใจจริง ๆ นะคะ อยากรู้ต่อ ส่งกำลังใจให้จ้าวซู่) ถ้าให้เทียบกับรัชศกฯ เรากลับอ่านได้ต่อเนื่องมากกว่า น่าจะเพราะมีแนว สืบสวน แทรกเข้ามาให้ติดตามด้วยค่ะ ทางด้านขุนนางพลิกแผ่นดิน เป็นแนวอิงประวัติศาสตร์ ออกจะเป็นการเล่าชีวิตและการเมืองของเส้นทางที่ตัวเอกจะต้องฝ่าฟัน ทำให้มีความเรียบเรื่อยในการเล่า แต่แฝงไปด้วยปมเล็ก ๆ ให้ติดตาม และด้วยบทเรียนจากพันสารท ทำให้เวลาอ่านหลายครั้ง ไม่กล้าไว้ใจคนใกล้ตัวจ้าวซู่เท่าไรค่ะ 55555555

            ถ้าใครชื่นชอบแนวฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิตที่แตกต่างจากโลกปัจจุบัน การดำเนินเรื่องกระชับ ตัวเอกมีไหวพริบ วางตัวเก่ง และเอาตัวรอดเป็น แต่ยังไม่มีอำนาจและคนหนุนหลัง ทำให้ต้องลุ้นไปกับการเอาตัวรอดท่ามกลางวังวนทางการเมืองที่เข้มข้น เรื่องนี้อาจจะใช่แนวค่ะ


    By Chadang


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in