เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์ เล่ม 4 (จบแล้วค่ะ)
  • ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์ เล่ม 4 (จบแล้วค่ะ)

    ผู้เขียน ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ

    ผู้แปล isamare

    ผู้วาด Kuro Hyou

    สำนักพิมพ์ Lilac

    เรื่องย่อ

         การเสียชีวิตของคุณลุงในเวลานั้นกะทันหันเกินไป ไม่ใช่เซี่ยหลิงหยาเพียงคนเดียวที่แปลกใจ แม้กระทั่งหมอไห่เองก็เคยตกใจมาก่อน และแล้วเซี่ยหลิงหยาก็ได้คำตอบ เมื่อคุณลุงบอกเล่าสาเหตุที่แท้จริงของการสูญเสียอายุขัยไปในครั้งนั้น ศัตรูคนนี้ไม่สามารถกำจัดและปลดปล่อยได้ เขาเป็นพลังงานอินที่ได้เพียงแต่คุมขังในโลกหลังความตายเท่านั้น ทว่าบัตินี้ สิ่งมีชีวิตตนนี้ได้หลุดออกมาในภพมนุษย์แล้ว และดูเหมือนว่าจะเจาะจงเล่นงานเซี่ยหลิงหยาโดยเฉพาะ เมื่อเผชิญหน้าศัตรูที่ร้ายกาจ เซี่ยหลิงหยาไม่ต้องการให้เหตุการณ์บุกอารามเป้าหยางซ้ำรอยอีกต่อไป เขาพึ่งได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กับซือฉางเสวียน มีน้องสาว มีคนในอารามให้ต้องปกป้อง ไหนยังมีเรื่องเปิดตัวกับพ่อแม่รอให้จัดการอยู่อีก เรื่องอะไรเขาจะแพ้กัน!


    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

           เดินทางมาถึง ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์ เล่มจบ ความลุ้นยังไม่แผ่วเลยค่ะ จริง ๆ แอบเดาศัตรูปริศนาได้ช่วงที่ฟางเจ๋อประดิษฐ์เครื่องมือค้นหาร้องครั้งแรกค่ะ แบบ ลองคิดตัด ๆ กับวิธีการโจมตีต่าง ๆ แล้วรู้สึก เอ๊ะ ขึ้นมา แต่ต้องบอกว่าจุดหนึ่งที่ชอบในตัวเล่มทั้ง 4 นี้คือ ภาพปกค่ะ ภาพปกบอกเล่าเหตุการณ์ในเรื่อง โดยเฉพาะเล่ม 3-4 ภาพปกแรกคือบ่งบอกว่าเซี่ยหลิงหยาเป็นเครื่องผลิตยันต์ ปกสองคือซือฉางเสวียนที่ถนัดดาบไม้ท้อกับเทพซางลู่ลูกชายเขา ปกเล่มสามท่าโพสต์ คือฉากในเล่มสองตอนสู้สุดตัวกับโจรขโมยตราประทับจิต (เท่มากกกก) แต่ชุดคือในเล่มสามตอนไปทำพิธีอธิษฐานสันติภาพโลก และในปกเล่มสี่ ไม่พ้นฉากในเล่ม 4 ค่ะ เป็นฉากแบบไหนนน ต้องลองติดตามค่ะ แต่เป็นฉากที่สวยงามมากฉากหนึ่งเลยค่ะ !


    ดอกท้อทลายมาร

         เพื่อตามหาสิ่งมีชีวิตพลังอินมาสร้างสิ่งประดิษฐ์หาสิ่งมีชีวิตที่ทำร้ายลุง ซึ่งตอนนี้หนีขึ้นมาพบมนุษย์ นอกจากฟางเจ๋อและหมอไห่ตามออกมาผจญภัยเสี่ยงอันตรายด้วยแล้ว เทพซางลู่ยังเสียสละแขนหนึ่งข้างจากการถูกศัตรูโจมตีที่นั่นอีกด้วย ทว่าในร้ายมีดี แขนใหม่ที่ฟางเจ๋อทำให้เจ้าตัวเล็ก ทำให้เทพซางลู่ขยับได้ ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสหน้าของเซี่ยหลิงหยาเองงงง (เทพซางลู่กรีดร้อง) เรื่องการตามหาศัตรูอย่างไร เซี่ยหลิงหยาได้แต่ฝากความหวังนี้ไว้บนบ่าฟางเจ๋อ ส่วนตัวเขายังคงรับงานพาร์ตไทม์ เรียนและดูแลกิจการอารามให้เดินหน้าต่อไป ทว่าศัตรูไม่ได้รอให้เขาตามหาเจอฝ่ายเดียว อีกฝ่ายยังคอยส่งวิชาประหลาดมาตามโจมตีเซี่ยหลิงหยาเสมอ แม้กระทั่งวิชามายาเข้าฝันที่ทำให้คนจิตตก ที่เซี่ยหลิงหยาเองยังมีเรื่องว้าวุ่นใจจนโดนเล่นงาน แบบนี้เขาจะรับมืออีกฝ่ายยังไงต่อไปป


    ทุกสิ่งล้วนคือ ธรรมชาติ …คือหนึ่ง

        เมื่อตัวตนของศัตรูปรากฏ ก็เป็นจังหวะที่เซี่ยหลิงหยากับนักอ่านน่าจะเดาได้ในจังหวะเดียวกัน เครื่องมือต่าง ๆ บอกใบ้มาเรื่อย ๆ แม้แต่คาถาที่อีกฝ่ายใช้โจมตีก็เช่นกัน ที่น่าหนักใจสุด คือวิธีเอาชนะ ถึงเซี่ยหลิงหยาจะเตรียมตัวมาดี แต่อีกฝ่ายไม่มีวันตายและชำระล้างไม่ได้ บอกได้คำเดียวเลยค่ะว่า “ตึง” ตึงมากก และประทับใจมากก เป็นฉากสู้ที่ดีและถูกไล่ต้อนให้จนแต้มจนลุ้นแล้วลุ้นอีก อีกฉากหนึ่งเลยค่ะ สุดท้ายแล้วพวกเขาเอาชนะได้อย่างไร อยากให้ทุกคนได้ลองไปตามลุ้นกันในตัวเล่มค่ะ


    นึกว่าศิษย์พี่ส่งสัญญาณให้เปิดตัว (55555)

         เรื่องราวความรักในโค้งสุดท้าย ต้องบอกว่าคู่นี้เปิดตัว เพราะความโป๊ะของทั้งสองคนเองค่ะ 555555 ขำสุดคือตอนพิเศษที่เปิดตัวกับเพื่อน ๆ มหาวิทยาลัย ซือฉางเสวียนโอบเซี่ยหลิงหยาหลบเปลือกผลไม้เพราะกลัวลื้นล้ม น้องเซี่ยนึกว่าพี่ซือบอกใบ้ว่าให้เปิดตัวเลย น้องจูบพี่เป็นการเปิดตัวกับเพื่อนซะเลย 555555 คล้าย ๆ ตอนฝึกกระบี่เลยค่ะ ที่พี่ซือตั้งใจสอนจริง ๆ แต่น้องอะคิดไปไกลแล้วววว ส่วนเทพซางลู่คือชงเข้ม ชงไม่พักกก เด็กดี ๆ ๆ คู่รักคู่นี้น่ารักค่ะ และเราประทับใจฉากสุดท้ายมาก ส่วนตัวตื้อ ๆ ในอก แต่ยังไม่ถึงกับมีน้ำตา แต่เป็นหนึ่งในฉากประทับใจจริง ๆ ค่ะ คู่นี้เขาผลัดกันปกป้องกันและกันมาตลอด ร่วมเป็นร่วมตาย เพียงสบตาก็รู้ใจ ต่อให้สละชีพลงนรก ก็ขอ ไปพร้อมกัน



        ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์ เป็นนิยายแนวปราบผีที่สำหรับเราอ่านไม่ยาก แต่บางคนอาจจะรู้สึกว่าเขาบรรยายและให้รายละเอียดในเรื่องประวัติ ศาสนา เทพและอาวุธ อาคมต่างๆ มากไปก็ได้ค่ะ ส่วนตัวเราไม่ติดและเรื่องนี้เรารู้สึกว่าทำได้สมดุลดีทั้งเรื่องราวศาสนา เคสคดี ความหลอนและความรักของตัวเอก รวมไปถึงมิตรภาพและความผูกพันของครอบครัว สิ่งที่จะสื่อผ่านศาสนาเต๋านี้ ก็คงเป็น “หนึ่ง” ไม่มีแบ่งแยก ไม่มีแตกต่าง ทุกคนเป็นหนึ่งเดียว เป็นธรรมชาติ เรื่องราวส่วนตัวเลยไม่ได้อึดอัดเป็นพิเศษว่าทำไมเคสคนผิดถึงเป็นหญิงหรือชายมากกว่ากัน และนักเขียนยังให้มุมมองแง่บวกของคนนับถือเต๋าว่ายอมรับในความรักของชายชายและหญิงหญิง เสมือนอินหยาง หากจะบอกว่าหญิงคืออิน ชายคือหยาง ชายชายหรือหญิงหญิงก็เสมือนอิน ชายหญิงก็เสมือนหยาง สุดท้ายคือสมดุล คือโลก คือธรรมชาติ ไม่แตกต่างอะไรเลย ...คือดีอะค่ะ เราว่าเป็นมุมมองที่ดี โดยเฉพาะในการนำเสนอด้วยศาสนา

       สุดท้ายในส่วนของการปูเรื่องต่าง ๆ มาถึงปมปิดท้ายคือโอเคมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าจะติดคือจังหวะเดียว...ตอนศัตรูสลายรวดเร็วเหลือเกินเหมือนกะพริบตาแล้วหายไป ต้องวกกลับไปอ่านใหม่ด้วยความมึนงงค่ะ 5555 เรื่องนี้อยากมี Talk แต่เดี๋ยวไปพูดคุยกันใน [ฉบับเต็ม] ทีเดียวเลยดีกว่าค่ะ แนวใครทางใครทดลองอ่านก่อนได้เลยนะคะ


    By Chadang

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in