500 days of summer, หนังที่ใครๆก็น่าจะเคยดู หนังที่เข้าถึงทุกๆคน

(Warning: เนื้อหาอาจจะสปอยด์ตัวหนังสำหรับคนที่ยังไม่ดู)

ถ้าสถานะของสสาร คือ ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ

สถานะด้านความรักของมนุษย์คงแบ่งออกได้ง่ายๆ คือ คนที่รัก และคนที่ถูกรัก

แต่หลายครั้งที่คนที่รัก กลับไม่ถูกรัก และคนที่ถูกรัก กลับไม่ได้รักตอบ เหมือนที่พี่สแตมป์ได้กล่าวไว้, ฉันชอบใครเขาก็ไม่ชอบฉัน พอเขามาชอบเรา เราก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน

.. แล้วทอมกับซัมเมอร์มันยังไงหรอ?

เราเคยเจอคำว่า “ทุกคนต่างมีซัมเมอร์เป็นของตัวเอง” ในที่นี้คงหมายถึง คนที่เราไปรักแล้วเขาไม่รักเราตอบ ให้ความหวังเรา หักอกเรา หรืออะไรก็แล้วแต่

พอพูดถึงตัวละครซัมเมอร์ ส่วนใหญ่คนก็จะมองในแง่ลบ เพราะในหนังมันเล่าในแง่มุมของทอมไง ทอมที่โดนซัมเมอร์หักอก คนดูเลยอินกับโมเม้นท์ของทอมง่ายๆ เพราะโมเม้นท์ที่ความรักไม่สมหวัง ใครๆก็มีนี่นา

แต่เราเองก็มีทอมเป็นของตัวเองเช่นกัน..

ถึงเราจะมีโมเม้นท์ไม่ชอบซัมเมอร์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราก็กลายเป็นซัมเมอร์เองในบางที

เราเป็นซัมเมอร์ในแง่ของการที่เราได้รับความรู้สึกดีๆจากใครบางคน แต่เราไม่สามารถรู้สึกกับเขาในแบบเดียวกันได้ 

แต่เราเข้าใจซัมเมอร์ว่าทำไมถึงให้ความหวัง ถ้าไม่จริงจังแล้วจะไปคุยต่อทำไม

มันมีเส้นบางๆ ระหว่างคนที่ใช่ กับคนที่ทำให้มีความสุข

คนที่ใช่นั้นเป็นคนที่ทำให้เรามีความสุขได้

แต่คนที่ทำให้เรามีความสุขนั้นบางทีก็ไม่ใช่

ความสัมพันธ์แบบทอมกับซัมเมอร์นับเป็นสถานะที่ทุกคนล้วนเคยประสบ บางคนอาจเคยเป็นทอม บางคนอาจเคยเป็มซัมเมอร์ แต่บางคนอาจเคยเป็นทั้งทอมและซัมเมอร์ เพราะการรักใคร กับการถูกใครรัก มันเป็นคนละเรื่องกัน

แต่ถ้าใครคนนั้นกลายเป็นคนเดียวกัน คุณคือคนที่โชคดีมาก :)

At the end I hope all of us could find our own Autumn..