คำนำผู้เขียน
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2541
ช่วงเดือนธันวาคมของปีนั้น ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ตอนนั้นผู้เขียนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เอเชียนเกมส์มีการแข่งขันกีฬาหลายประเภท วอลเลย์บอลบาสเกตบอล ตะกร้อ กรีฑา ฯลฯ
แต่กีฬาที่คนไทยนิยมมากที่สุด แน่นอนว่าเป็นฟุตบอล และการแข่งขันฟุตบอลในเอเชียนเกมส์ครั้งนั้น ปรากฏว่าทีมชาติไทยฟอร์มดีเสียด้วย ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เจอกับเต็งหนึ่งอย่าง
เกาหลีใต้
เกมนั้นทีมไทยสู้สุดใจ ขนาดผู้เล่นโดนใบแดง ต้องออกจากสนามไป 2 คน เหลือผู้เล่นน้อยกว่าคู่แข่ง แต่ก็ไม่ยอมแพ้ สุดท้ายพลิกล็อกเอาชนะเกาหลีใต้ได้อย่างเหลือเชื่อ
จบเกมนั้น แฟนบอลในสนามจำนวนมาก—ที่ไม่รู้จักกันเลยกอดกันร้องไห้
วันนั้นผู้เขียนอยู่ในสนามด้วย และรู้สึกบางอย่างขึ้นมาว่าการแข่งกีฬาแค่ 1 นัด ก็สามารถทำให้คนหลั่งน้ำตาได้
กีฬามันมีพลังมากถึงขนาดนี้เลย
จากวินาทีนั้น สายตาในการมองกีฬาของผมก็เปลี่ยนไป
จากเดิมที่คิดแต่ผลแพ้ชนะ ก็เริ่มมองเห็นว่า จริงๆ แล้วมันมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังมากกว่านั้นเยอะ
ในเกมกีฬา มีเรื่องราวของความรัก เรื่องราวของความสัมพันธ์ เรื่องราวของประวัติศาสตร์ เรื่องราวของการตัดสินใจ และในบางครั้ง ถ้าเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง เราจะตื่นเต้นกับมันยิ่งกว่าผลการแข่งขันเสียอีก
นักกีฬาคนหนึ่งยอมแลกทุกอย่างในชีวิต เพียงเพื่อขอโมเมนต์ที่เขาได้อยู่กลางแสงไฟเพียงแค่วินาทีเดียว
นักกีฬาอีกคนยอมอดทนโดนดูถูกมาตลอด เพียงเพราะเชื่อว่าสักวันจะมีคนที่เห็นคุณค่าในตัวของเขา
เรื่องราวอันมหัศจรรย์ของแต่ละคน มันไปไกลยิ่งกว่า ‘ใครแพ้’ หรือ ‘ใครชนะ’ถัดจากนี้ไป ยินดีต้อนรับสู่เรื่องราวเบื้องหลังของโลกกีฬา
ที่ไม่ใช่แค่อยู่ในสนาม
และที่สำคัญ แม้มันจะดูเหลือเชื่อแค่ไหน แต่อยากให้รู้ไว้
ทั้งหมดคือเรื่องจริง
วิศรุต
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in