เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Music speaks for me.puroii
Gorillaz : วงดนตรีที่มีเรื่องราว (Phase 1-2)
  •            Gorillaz เป็นวงดนตรีประเภทเวอร์ชวลแบนด์ (virtual band) ที่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1998 โดยเดมอน อัลบาร์น (นักร้องนำวง Blur) และเจมี่ ฮิวเล็ตต์ (นักวาดภาพประกอบ)

               Gorillaz เป็นวงดนตรีจริง ใช้เสียงคนร้องจริง แต่ใช้ตัวละครอนิเมชั่นมาแทนสมาชิกในวง แนวเพลงของวงนี้ค่อนข้างหลากหลายเพราะพวกเขาร่วมงานกับศิลปินมากหน้าหลายตาในการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นอัลเทอร์เนทีฟร็อก บริทป็อป ฮิปฮอป เร็กเก้ อิเล็กโทรนิก ฯลฯ ทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังได้หลายกลุ่ม

               นอกจากเพลงที่ติดหูแล้ว หลายคนอาจไม่รู้ว่าที่จริงแล้ว Gorillaz ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่เบื้องหลังมิวสิกวิดีโอที่ปล่อยออกมาด้วย เรื่องราวแต่ละช่วงเวลาจะเรียกเป็น "phase" นับถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 4 phase ด้วยกันและแต่ละ phase สัมพันธ์กับอัลบั้มใหม่ที่ทางวงปล่อยออกมา

    เกร็ดน่าสนใจ : Gorillaz ยังเป็นต้นแบบให้กับศิลปินอย่าง DDZ ตัวประหลาดจากต่างดาว เจ้าของเพลง "โทรมาทำไม" ของค่าย RS เมื่อนานมาแล้วอีกด้วย มีใครจำกันได้บ้างไหม?



               สมาชิกในวง (เรียงจากซ้ายไปขวา)

    • Russel Hobbs (รัสเซล ฮ็อบส์) - มือกลอง
    • 2D (ทูดี) - ร้องนำ/คีย์บอร์ด
    • Noodle (นูเดิ้ล) - มือกีตาร์/คีย์บอร์ด
    • Murdoc Niccals (เมอร์ด็อก นิกเกิลส์) - มือเบส


    PHASE 1 : Celebrity Take Down (1998-2002)

               เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ 15 สิงหาคม 1997 ในตอนนั้น 2D เป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อ Stuart Pot หรือ Stu-Pot เขาเป็นมือคีย์บอร์ดและเป็นพนักงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านขายเครื่องดนตรีชื่อ Uncle Norm's Organ Emporium 

               ในขณะที่เมอร์ด็อกใฝ่ฝันอยากตั้งวงดนตรี อยู่มาวันหนึ่งเขาตัดสินใจปล้นร้านดนตรีที่ Stu-Pot ทำงานอยู่เพื่อหาเครื่องดนตรีมาตั้งวง เขาขับรถ Vauxhall Astra ทะลุกำแพงร้านและพุ่งตรงเข้าไปชนหัวของ Stu-Pot อย่างจัง ส่งผลให้ตาซ้ายของ Stu-Pot เสียและทำให้เขาตกอยู่ในภาวะโคม่า 

               เมอร์ด็อกถูกตัดสินให้ "ทำงานบริการสังคม 30,000 ชั่วโมงและดูแล Stu-Pot ที่อยู่ในสภาพโคม่า 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์" แต่ไม่นานนักเมอร์ด็อกก็ทำร้าย Stu-Pot อีกครั้งหลังอุบัติเหตุที่ลานจอดรถของห้าง Tesco ในเมืองน็อตติงแฮม สาเหตุเกิดจากการที่เมอร์ด็อกพยายามขับรถหมุนควง 360 องศาโชว์สาวแต่แค่เลี้ยวแรกก็ทำ Stu-Pot กระเด็นออกจากรถหน้าทิ่มพื้นและสูญเสียตาขวาไปอีกข้าง ทว่าผลพวงของเหตุการณ์นี้ทำให้ Stu-Pot ตื่นจากอาการโคม่า เมอร์ด็อกเลยจ้างเขาเป็นมือคีย์บอร์ดและนักร้องให้กับวงตัวเองเพราะดวงตาที่เป็นสีดำทั้งสองข้างของเขาเจ๋งดี (Stu-Pot ยังมองเห็นได้ลางๆ) จากนั้นเมอร์ด็อกเลยเปลี่ยนชื่อ Stu-Pot ให้ใหม่เป็น 2D (มาจาก two dents) ซึ่งล้อไปกับหัวที่บุบไป 2 ตำแหน่งของเขา


    ตาสองข้างของ 2D เกิดจาก 8-ball fracture หรือ hyphema (เลือดออกในช่องหน้าตา) ทำให้เลือดคั่งจนกลบตาขาว

               ต่อมา เดือนกันยายน 1998 เมอร์ด็อกได้ครอบครอง "คองสตูดิโอ" สถานที่รกร้างที่มีประวัติศาสตร์ไม่ค่อยดี ตั้งอยู่บนหุบเขาท่ามกลางสุสานในดิสทริกไชร์ มณฑลเอสเซ็กซ์ 


    รัสเซล ฮ็อบส์

               เมอร์ด็อกได้พบกับมือกลองในร้านขายแผ่นเสียงที่โซโห เขาคนนั้นคือ รัสเซล ฮ็อบส์ ชาวนิวยอร์กลูกครึ่งแอฟริกัน-อเมริกัน รัสเซลเป็นเด็กเกเร เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนประจำหลังจากถูกปีศาจเข้าสิงซึ่งทำให้เขาตกอยู่ในภาวะโคม่าเป็นเวลานาน 4 ปี หลังจากนั้นนักไล่ปีศาจก็ขับไล่ปีศาจเหล่านั้นออกไปจากตัวเขาได้สำเร็จ ต่อมารัสเซลเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมบรู๊กลิน เขาเป็นเพื่อนกับแร็พเปอร์ ดีเจ พิธีกรและนักดนตรีสมัครเล่นอีกมากมาย รัสเซลได้พูดไว้ว่า "ฮิปฮอปช่วยชีวิตฉันไว้"

               หลังเหตุการณ์กราดยิงในค่ำคืนหนึ่ง เพื่อน ๆ ของรัสเซลถูกยิงตายและเขาเป็นคนเดียวที่เหลือรอดมาได้ เขาดึงดูดวิญญาณของเพื่อนที่ตายเข้ามาในตัวเองโดยเฉพาะ "เดล" เพื่อนสนิทของเขา ส่งผลให้รัสเซลมีความสามารถพิเศษทางดนตรี ไม่ว่าจะเป็นกลอง แร็พ หรือฮิปฮอป แต่ทว่าก็มีผลข้างเคียง นั่นคือ ตาทั้งสองข้างของเขากลายเป็นสีขาว


    เดลได้เข้าควบคุมรัสเซลเป็นบางครั้งทำให้เขาสามารถแร็พได้ เราจึงเห็นเดลโผล่มาใน MV หลายเพลง

               จากนั้นครอบครัวของรัสเซลจึงส่งเขาไปอังกฤษเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัสเซลไปทำงานที่โซโห เขาได้พบกับเมอร์ด็อก ผู้เอาถุงครอบหัวลักพาตัวไปคองสตูดิโอ แต่เมื่อรัสเซลได้ฟังเพลงที่เมอร์ด็อกแต่งแล้ว เขารู้สึกชอบใจเลยเลือกที่จะอยู่ต่อด้วย

              ขณะนั้นเมอร์ด็อกและพวกกำลังขาดมือกีตาร์สำหรับวงพอดี ที่จริงแล้วพวกเขาเคยมีมือกีตาร์คนหนึ่ง มือกีตาร์คนแรกคือแฟนของ 2D ชื่อ "พอลล่า แคร็กเกอร์" แต่เธอถูกไล่ออกจากวงเมื่อรัสเซลจับได้ว่าพอลล่ากับเมอร์ด็อกกำลังพลอดรักกันในห้องน้ำที่สตูดิโอ รัสเซลแขยงการกระทำดังกล่าวเลยซัดเมอร์ด็อกเข้าที่จมูกไป 5 ครั้ง


    2D และพอลล่า

              เช่นเดียวกันกับวงดนตรีอื่น ทั้งสามแปะประกาศโฆษณาลงนิตยสาร NME และเมื่อวันที่โฆษณาลงนิตยสาร พวกเขาได้รับ FedEx ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น เมื่อเปิดกล่องออกมา พวกเขาเจอเด็กสาวอายุ 8 ปีพร้อมกีตาร์ Gibson Les Paul เด็กสาวคนนั้นแนะนำตัวด้วยภาษาญี่ปุ่นและเล่น "ริฟฟ์กีตาร์ที่จะยุติริฟฟ์กีตาร์ทั้งมวล" ก่อนจบลงด้วยท่าเตะคาราเต้ เธอตบท้ายด้วยคำพูดภาษาอังกฤษที่ออกจากปากมาว่า "Noodle" จึงเป็นที่มาของชื่อ "นูเดิ้ล" เพราะเธอพูดภาษาอังกฤษคำอื่นไม่ได้อีกแล้ว


    นูเดิ้ล

              หลังจากที่สมาชิกครบแล้ว พวกเขาจึงตั้งชื่อวงว่า "Gorillaz" เพลงแรกของพวกเขาคือ "Ghost Train" ที่อัดเสียงที่คองสตูดิโอ ต่อมาเมอร์ด็อกส่งเพลงและรูปถ่ายสมาชิกไปให้วิฟตี้ สมิธตี้ที่ EMI

              5 พฤศจิกายน 1998 Gorillaz มีการแสดงสดครั้งแรกที่ Camden Brownhouse น่าเสียดายที่การแสดงต้องจบก่อนเวลาอันควรเนื่องจากมีการใช้กำลังวุ่นวายระหว่างเพลง "Punk" วิฟตี้ สมิธตี้ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ใช้ปืนกลยิงคนดูเพื่อแหวกทางขึ้นไปยังเวทีแล้วเซ็นสัญญากับพวกเขา 

              Gorillaz ปล่อย EP แรก "Tomorrow Comes Today" เดือนพฤศจิกายน 2000 หลังจากนั้นเมื่อ 26 มีนาคม 2001 ก็ปล่อยเดบิวต์อัลบั้มแรก "Gorillaz" ประกอบด้วยเพลงดังอย่าง


              ช่วง 2001 Gorillaz มีทัวร์ตามประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น

              20 กุมภาพันธ์ 2002 Gorillaz ร่วมแสดงที่ Brit Awards และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 6 รางวัลแต่พวกเขาไม่ชนะรางวัลใดเลย ต่อมา Gorillaz ร่วมงานกับแร็พเปอร์ D12 และ Terry Hall ปล่อยเพลง "911" ออกมาให้ดาวน์โหลด

              ตั้งแต่ 23 กุมภาพันธ์ ถึง 11 มีนาคม 2002 Gorillaz มีทัวร์ 11 เดือนที่อเมริกาเหนือ หลังจากนั้นพวกเขาหยุดพักวง 6 เดือนและอาศัยอยู่ที่ลอสแองเจลิส พวกเขามีความตั้งใจที่จะทำภาพยนตร์ของตัวเอง

              ในขณะเดียวกัน ช่วงฮาโลวีน คองสตูดิโอถูกปิดลงตามกฎหมายท้องถิ่นเนื่องจากไม่มีเจ้าของและมีคนเห็นเงาประหลาดแก้ผ้าวิ่งอยู่ใกล้บริเวณนั้น ตำรวจปิดพื้นที่นั้นไว้เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์เหนือธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น 

              Gorillaz ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเช่าบริเวณ Hollywood Hills เพื่อทำภาพยนตร์แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะพวกเขาปาร์ตี้กันหนัก ประกอบกับมีความขัดแย้งภายใน รวมไปถึงความขัดแย้งกับผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ ความบาดหมายภายในร้ายแรงจนกระทั่งเมอร์ด็อกเกือบรัดคอ 2D ตายถ้าไม่ได้รัสเซลมาช่วยไว้ หลังจากนั้นพวกเขาแยกย้ายกันและ Gorillaz พักวงไปกว่า 1 ปีครึ่ง


    Post-Phase 1 to Pre-Phase 2 (2003-2004)


              ระหว่างพักวง นูเดิ้ลกลับไปประเทศญี่ปุ่นและไปร้านซูชิในโอซาก้า เธอบังเอิญได้ยินพนักงานเสิร์ฟพูดกับเชฟว่าต้องการ "Ocean Bacon" หลังได้ยินคำนั้น ความทรงจำต่าง ๆ ก็พรั่งพรูกลับมา นูเดิ้ลค้นพบความจริงว่า เธอและเด็กคนอื่น ๆ อีก 22 คนเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่ฝึกเด็กให้กลายเป็นอาวุธสงครามโดยฝีมือชายคนหนึ่งที่ชื่อ "คิวโซ" หลังจากรัฐบาลเห็นว่าพวกเธอเป็นภัยจึงสั่งเก็บ คิวโซฆ่าเด็กทั้ง 22 คนแต่ลังเลที่จะกำจัดนูเดิ้ล เขาลบความทรงจำเธอด้วยคำสั่งว่า "Ocean Bacon" แล้วส่งเธอไปอังกฤษด้วย FedEx ซึ่งทำให้เธอไปเจอกับคนในวง Gorillaz ในเวลาต่อมา

              เมื่อความทรงจำกลับมาแล้ว นูเดิ้ลจำภาษาอังกฤษทั้งหมดได้ (รวมถึงภาษาอื่นที่รู้) และสามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว เธอกลับไปยังคองสตูดิโอและพบว่ามีซอมบี้เข้ามารุกล้ำพื้นที่ระหว่างที่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น นูเดิ้ลใช้ห้องลับเพื่อทำงาน ค่อย ๆ เก็บกวาดซอมบี้และเริ่มต้นเขียนเพลงอัลบั้มที่ 2 


    เมอร์ด็อกในคุก

             ส่วนเมอร์ด็อกหนีไปเที่ยวซ่องในเม็กซิโกแต่ถูกจับเพราะจ่ายเช็คเด้ง เขาไปอยู่ในคุกเม็กซิกัน มีเพื่อนคืออีกาตัวหนึ่งกับแก๊งชาวเม็กซิกันอีก 2 คนที่ช่วยเขาหลบหนีในภายหลัง

             2D กลับไปยัง Eastbourne และสานต่อกิจการของพ่อ เขาสนิทกับเพื่อนใหม่ชื่อ Shane Lynch อดีตสมาชิกวง Boyzone เขาไม่ได้สนใจ Gorillaz เลยจนกระทั่งนูเดิ้ลโทรไปหา จึงคิดได้ว่าตนมีส่วนในความสำเร็จของวง 2D เลยตัดสินใจเดินทางไปยังคองสตูดิโออีกครั้ง



             รัสเซลยังอยู่ที่ LA แต่ถูกตามหลอกหลอนโดนยมทูต ผู้มาขับไล่เดลออกจากตัวเขาไปได้ในที่สุด รัสเซลได้รู้จักกับ Ike Turner ที่ให้สถานที่หลบภัยใต้ดินกับเขา รัสเซลพยายามจะเขียนเพลงให้อัลบั้มของตัวเองแต่เขาเห็นภาพหลอนว่ามีปีศาจลอยออกมาจากลำโพงตลอดจึงทำให้อัลบั้มไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นนูเดิ้ลก็โทรไปหาเขาเพราะต้องการมือกลองเล่นเพลงใหม่ที่เธอแต่ง เขาจึงกลับไปยังคองสตูดิโอ       


    Phase 2 : Slowboat to Hades (2004-2007)


             หลังจากทุกคนมารวมตัวกัน ก็เริ่มต้นอัดอัลบั้ม Demon Days โดยอาศัยความช่วยเหลือของโปรดิวเซอร์ Dangermouse ต่อมาวันที่ 23 มีนาคม 2005 พวกเขาก็ปล่อย Demon Days ออกมา ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มคือ "Feel Good Inc." ที่ร่วมงานกับ De La Soul พุ่งทะยานขึ้นชาร์ทเพลงอันดับ 2 ของ UK ซิงเกิ้ลที่ 2 ชื่อ "Dare" ร่วมร้องกับ Shaun Ryder ขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ในชาร์ท ส่วนเพลงที่ 3 "Dirty Harry" ร่วมร้องกับ Bootie Brown เพลงอื่น เช่น "Kids With Guns" ร่วมกับ Neneh Cherry และ "El Mañana"




             เมื่อ 7 มีนาคม 2006 Gorillaz เริ่มถ่ายทำ "El Mañana" เป็นวิดีโอที่ถ่ายนูเดิ้ลบน Windmill Island แต่ครึ่งทางระหว่างที่ถ่ายอยู่ เกาะก็โดนโจมตีจนพังทลายลงไปพร้อมกับนูเดิ้ล แต่เธอเจอร่มชูชีพแล้วหนีรอดไปได้ รัสเซลกับ 2D พยายามตามหาตัวเธอแต่ก็ไม่พบที่ไหนเลย

    จิมมี่ แมนสัน

             ปรากฏว่าเหตุการณ์ El Mañana นั้นเป็นแผนการกำจัด "จิมมี่ แมนสัน" อริวง Gorillaz เนื่องจากจิมมี่เคยมาออดิชั่นเป็นมือกีตาร์ของวงเมื่อหลายปีก่อน แต่ถูกปฏิเสธหลังนูเดิ้ลเข้ามา จิมมี่เลยแค้น Gorillaz มาตั้งแต่นั้น เมอร์ด็อกเล็งเห็นแผนการของจิมมี่และตั้งใจจะกำจัดเขาก่อนทุกอย่างจะบานปลาย เมอร์ด็อกจึงบอกจิมมี่ว่าเขาจะช่วยฆ่าสมาชิกในวงคนหนึ่ง จิมมี่จะได้มาตั้งวงใหม่ร่วมกับตน ประจวบกับที่นูเดิ้ลได้ถ่ายวิดีโอ El Mañana พอดี เป้าหมายจึงเป็นนูเดิ้ล แผนการคือให้จิมมี่แอบอยู่บนเกาะ พอเกาะถูกโจมตีให้จิมมี่ใช้อาวุธยิงนูเดิ้ลแล้วใช้ร่มชูชีพหลบหนีไป แต่เมอร์ด็อกหักหลังจิมมี่โดยการไม่ทิ้งอาวุธไว้บนเกาะ แถมยังขังจิมมี่ไว้กับกังหัน จิมมี่เลยตายไปพร้อมกับเกาะที่ถล่ม ส่วนนูเดิ้ลหลบหนีมาได้ด้วยร่มชูชีพ นูเดิ้ลตั้งใจจะพักจากวงหลังจากเสร็จสิ้น Demon Days อยู่แล้ว เมอร์ด็อกเลยตกลงกับนูเดิ้ลเพื่อทำตามแผนการ






    written by @puroii




    อ้างอิง

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
nisa_2606 (@nisa_2606)
เคยอ่านบทความภาษาอังกฤษนานเเล้ว เเต่มีงงบางช่วง ขอบคุณมากนะคะที่เเปลมาให้อ่าน อยากอ่านต่อมั่กๆๆ
Naam Nami (@fb8952833306414)
อ่านต่อได้ที่ไหน เมื่อไหร่จะมีอ่ะคะ
t_thanabun (@t_thanabun)
ค้างงงงงง อยากอ่านต่อ