หานกวงจวินฝึกตนจนแข็งแกร่งเหนือใครในใต้หล้าช่วยเหลือผู้คนกำจัดคนชั่วเพื่อทดแทนคนที่ไม่มีโอกาสได้ทำมันอีก
แต่ถึงแม้จะผ่านไปอีกซักกี่ปีก็ไร้วี่แววของการตอบกลับจากวิญญาณที่เขาจามหา ฉินที่เล่นไถ่ถามไปทุกหนแห่งและบรรเลงเพลงที่มอบให้แก่คนรัก แม้ไม่ตอบกลับแต่หวังว่าบทเพลงนี้จะส่งไปถึง
เพียงแค่มีชีวิตอยู่ก็ทรมานกับความโหยหาคนที่ห่างไกลอยู่ทุกเวลา
“พรุสัญญาณ..ตระกูลโม่” หานกวนจวินละมือจากกู่ฉินตรงหน้า วาดมือรวบเก็บเครื่องดนตรีตรงหน้าเข้าถุงเฉียนคุณก่อนมุ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง
...ตระกูลโม่
ค่ำคืนเดือนมืดไร้แสงมีเสียงทุ้มที่ท่องภาษาบางอย่างที่จับไม่ได้ศัพท์ร่างนั้นกรีดเลือดออกจากแขนตัวเองทั้งสองข้างเพื่อวาดวงอักขระตามในตำราที่ได้รับมาจากใครบางคน
ก่อนที่เสียงนั้นจะหยุดลงพร้อมแสงสีแดงสว่างวาบเล็ดลอดออกมาจากหน้าต่างห้องนั้นและค่ำคืนนี้ก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
“... อืม”
ร่างบางในชุดสีดำสนิททั้งตัวขยับตัวไปมาอยู่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่แต่รู้สึกถึงบางอย่างชื้นแฉะอยู่บริเวณแก้ม แถมมันยังทำให้ใบหน้าครึ่งซีกชุ่มฉ่ำไปหมดจนอดรนทนไม่ไหวต้องลืมตาขึ้นมาจ้องเข้าสิ่งรบกวนการนอน
“เห้ย
นี่แก้มคนหาใช่ลูกอมให้เจ้าเลียได้ตามใจชอบนะเจ้าลา
“อย่าตามข้ามานะเจ้าลาบ้าหน้าข้ากินไม่ได้นะ บอกว่าอย่าตามมาไงเจ้าลาโง่” วิ่งมาจนถึงลำธารน้ำแห่งหนึ่งก็ระลึกได้ถึงการมีตัวตนของตัวเอง
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ยข้าตายไปแล้วไม่ใช่หรอ” เขามองภาพตัวเองที่สะท้อนกับผืนน้ำอย่างข้องใจแต่เสียงเจ้าลาก็ทำให้เขาต้องหันไปถลึงตามองเจ้าสิ่งที่ตามเขามาไม่เลิกไม่ลาแต่ปรากฏว่าเสียงร้องนั้นไม่ได้จะเล่นด้วย แต่มันกำลังเล่นกับน้ำอยู่
กรอกตามองบนเลยทีเดียวแต่พอก้มสำรวจตัวเองก็พบว่าร่างกายยังคงไว้ในสภาพเหมือนเมื่อ
มือกุมท้องน้อยๆที่กำลังส่งเสียงร้องโอดครวญซะเสียงดังเลยเดินไปหาของกินตามต้นไม้แถวนี้ประทังชีวิต แล้วก็เจอต้นแอปเปิ้ลกำลังสุกได้ที่
“โว้วโชคหล่นทับเลยนะนี่ รอดตายแล้ว” เด็ดมาสามลูกกำลังจะเอามาเข้าปาก แต่กลับมีเจ้าตัวบางอย่างที่มันมาแย่งไปกินเสียก่อน
“นี่มันมื้อเช้าข้านะเจ้าลาบ้ามาแย่งอาหารข้าทำไม” เว่ยอู๋เซียนเบะปากงอนใส่เจ้าลาที่ตอนนี้ยังไม่สำนึกที่เขาว่าไปแถมยังจะแย่งแอปเปิ้ลลูกที่เหลือจากอ้อมกอดเขาอีก
“เอาไปเลยข้าเด็ดใหม่ก็ได้” พอให้เจ้าลากินอีกสองลูกในอ้อมกอดเสร็จเลยเด็ดลูกอื่นมากินต่อก่อนจะนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้
“เสี่ยวผิงกั๋ววว”เจ้าลาเหมือนจะฟังออก หันมามองตาวาวอย่างไม่พอใจกับชื่อหน่อมแน้มที่เว่ยอู๋เซียนเป็นคนตั้งให้
“ก็เจ้าชอบกินแอปเปิ้ลชื่อแอปเปิ้ลน้อยก็เหมาะกับเจ้าดีนี่นาเสี่ยวผิงกั๋ว”เสียงคำรามเบาๆของมันบ่งบอกถึงความไม่พอใจแต่เรียกเสียงหัวเราะอย่างดีให้กับเว่ยอู๋เซียน
“เว่ยอิง..”เสียงทุ่มเอ่ยชื่อเรียกนั้นทำเอาคนที่หัวเราะร่าอยู่ชะงักกึกทั้งร่างแข็งทื่อจนกระทั่งมีมืออุ่มมาจับที่ไหล่ให้หันไปเขาสะบัดตัวหนีแต่สู้แรงมืออีกคนไม่ได้
“หลานจ้าน...”เสียงเบาหวิวเมื่อเห็นใบหน้าของอีกคนชัดเจนตอนนี้หลานวั่งจีโตขึ้นมากจากภาพจำก่อนหน้าที่ค่อนข้างเลือนลางยิ่งนักจนแอบหวั่นเกรงถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาว่ามันยาวนานแค่ไหนกัน
บัดนี้หานกวงจวินที่เคยสูงไล่เรื่ยกันก็สูงขึ้นเลยตัวเขาไปอีกเกือบหนึ่งฝ่ามือใบหน้าเขาจึงอยู่บริเวณจมูกคมสันนั้นกรอบหน้าได้รูปนั้นยังคงไว้ซึ่งความสง่างามและหน้าเกรงขามในชุดสีขามสะอาดทั้งตัวดั่งชุดไว้ทุกข์นั้น
สมกับเป็นหานกวงจวิน
“เว่ยอิงเจ้า..กลับมาแล้ว”ถึงแม้มองจากภายนอกแล้วหลานจ้านจะเป็นหานกวงจวินที่น่าเกรงขามขนาดไหน แต่ดวงตาของเขาแดงก่ำพอๆกับใบหู
เว่ยอู๋เซียนยกยิ้มหวานให้คนตรงหน้าอย่างแสนคิดถึงคนที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดแม้ว่าจะขัดกับกฎตระกูลแค่ไหนและคาดว่าจะเป็นคนสุดท้ายในชีวิตนี้ที่จะหันหลังให้ตัวเขา
ทั้งที่เคยคิดว่าเจียงเฉิงจะเข้าใจและเป็นคนที่อยู่ข้างกันเป็นคู่หูแห่งอวิ๋นเมิ่งแม้ว่าจะไม่ใช้วิชาเซียนก็ตาม
“หลานจ้านหนาหลานจ้าน”คนที่เพิ่งกลับมาขยับใกล้ร่างสูงอีกนิด ยกมือบางลูบแก้มสากอย่างอ่อนโยน
“ใช่ข้ากลับมาแล้ว”
หลานวั่งจียังคงเก็บทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยแต่ยามนี้เขาปล่อยทุกอย่างทิ้ง แม้กระทั่งของในมืออย่างกระบี่ปี้เฉินกระบี่คู่กายก็ตกไปอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อย
หานกวงจวินละความสนใจจากสิ่งรอบตัวจะสนใจก็แต่คนที่ตนคว้าเข้ามากอดแน่นด้วยความโหยหา ความเปียกชื้นนิดๆที่คอเป็นสิ่งยืนยันถึงความเปลี่ยนแปลงและความเจ็บปวดของคนตรงหน้าได้ดีแม้ไม่ได้เห็นด้วยตา
น้ำตาของหานกวงจวินหลั่งรินเพื่อเขาและมันจะไม่มีใครได้เห็นหยดน้ำตานั้นเป็นอันขาด ของสูงค่าอย่างนั้น
“ข้ารักเจ้า”คำบอกรักของคนตรงหน้าทำเอาคนถูกบอกรักกะทันหันถึงกับตัวแข็งทื่อหลายปีที่ผ่านมาแม้ว่าหลานจ้านจะยังเป็นเจ้าท่อนไม้เดินได้อยู่แต่กล้าแสดงออกมากขึ้นแล้วสินะ ช่างน่าภูมิใจเสียจริง
แต่คนอย่างหานกวงจวินมาบอกรักเขาแบบนี้ถ้าใครมาได้ยินเข้าจะเป็นผลเสียแก่เจ้าตัวเองนั้นแหละ “หลานจ้านไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ปี เจ้าเป็นต้วนซิ่ว(断袖)แล้วงั้นรึ” ดันอกคนตรงหน้าเบาๆแล้วหยิบผ้าในอกเสื้อเสื้อเช็ดหน้าเช็ดตาให้แต่หลานจ้านยังไม่ยอมปล่อยมือที่โอบเอวบางเอาไว้เหมือนกลัวว่าหากคลายมือแล้วร่างนี้จะหายไปอีกครั้ง
“สิบหกปี”เสียงนิ่งๆตอบกลับมาทำเอาคนได้รับคำตอบแทบช็อคสิ้นสติ
“หะ
“แล้วนี่เจ้ามาทำอะไรที่นี่กันแถมมาคนเดียวแบบนี้อีก เจ้าเป็นคนปลุกข้าขึ้นมาหรืออย่างไร” ร่างบางเหล่ตามองถึงจะรู้ดีว่าคนอย่างคุณชายรองหลานไม่มีทางทำเช่นนั้นเป็นแน่
“พลุสัญญาณที่ตระกูลโม่มีวิญญาณอาฆาตออกอาละวาด กำลังเดินทางกลับ”จับใจความได้ว่าท่านหานกวงจวินไปช่วยคนในตระกูลจัดการวิญญาณอาฆาตที่ตระกูลโม่เสร็จระหว่างทางกลับเลยมาเจอข้าเข้าก็เท่านั้น
“เจ้ารู้ได้ไงว่าเป็นข้า”ร่างน้อยเอียงคอสงสัย
“เสียงหัวเราะ”สงสัยว่าเว่ยอู๋เซียนจะทำหน้าตลกเกินไป หลานวั่งจีคนดีถึงได้กระตุกยิ้มขึ้นมาได้
แต่...หลานวั่งจีจำข้าจากเสียงหัวเราะเนี่ยนะ?!!
“งั้นเจ้าเจอคนน่าสงสัยบ้างมั้ยน่าจะซักสองสามคนในระแวกนี้ช่วงชั่วยามสองชั่วยาม” หลานจ้านส่ายหน้า ใบหน้าเข้มปรากฏคิ้วขมวดแน่นอย่างเริ่มจับเค้าอะไรได้
ใช่ น่าแปลกมากน่าแปลกเกินไป
แต่ตอนนี้“ปล่อยข้าก่อนเถิด เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี”หลานจ้านยังคงตอบคำถามเป็นการส่ายหน้าเช่นเดิม
“หลานจ้านอ่าอย่าทำเช่นนี้เลยชื่อเสียงเจ้าจะเสื่อมเสียหากใครมาเจอท่านหานกวงจวินกอดกับอี๋หลิงเหลาจู่แบบนี้นะหลานจ้าน ข้ารู้สึกแย่ที่ทำให้เจ้าถูกคนมองไม่ดี” ดียิ่ง
“ผู้ใดกล้าเอ่ยนามของปรมาจารย์อี๋หลิง
เสียงตวาดลั่นดังไปทั่วผืนป่าจนเจ้าของนามสะดุ้งหลบหลังหลานจ้านโดยที่เจ้าเสี่ยวผิงกั๋วก็มาแย่งพื้นที่หลบที่หลังหลานจ้านด้วยแถมยังเบียดจนแทบจะเรียกได้ว่าถีบออกจากด้านหลังของหานกวงจวินอีก เจ้าลานิสัยเสีย
“ที่แท้เป็นหานกวงจวินคุณชายรองตระกูลหลาน นั้นใคร!” ทักทายพอเป็นพิธี แต่เพราะเหลือบไปเห็นคนหน้าใหม่ที่ยืนหันหลังอยู่จึงตวาดคนที่ไร้มารยาทที่ไม่ทำความเคารพตนที่เป็นถึงประมุขตระกูล
เว่ยอู๋เซียนสะดุ้งไม่ยอมหันหน้ากลับไปตามคำสั่งเพราะรู้ดีว่าถ้าเจ้าของเสียงนั้นหากได้เห็นหน้าแล้วคงได้จัดการเขาที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาให้ตายสนิทค่าที่แห่งนี้เป็นแน่กลับมามีชีวิตได้ไม่ถึงชั่วยามข้าจะจากโลกนี้ไปอีกแล้วหรือนี่
“เพ่ย
“คนของข้า”เสียงทุ่มดังขึ้นด้านหลังทำให้ดวงใจน้อยๆเหมือนได้รับการเติมเต็ม ได้รับการปกป้องจากคนผู้นี้ไม่นับว่าเดียวดายอีกต่อไป
“ฮึ
“ท่านน้าข้าล่ากวางมาได้ตัวนึง”เสียงของเด็กชายในชุดสกุลจินดังขึ้นพร้อมการปรากฎตัวที่ทำให้เขาพลาดท่าเสียทีเผลอหันหน้ากลับไปมองผู้มาใหม่
“เว่ยอู๋เซียน
หลานจ้านยอมแล้วทรมานมานานให้เขาได้บอกหน่อย
หมายเหตุคือไม่รู้ว่ามนต์มันท่องว่าอะไรจะพยายามอ่านก็ได้นะ5555
ฝากติดตามด้วยนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in