ในวิหารแห่งหนึ่งมีชายชราที่นั่งบนบัลลังก์
เขาถือปลายเชือกข้างหนึ่งไว้ไม่วางทั้งวันทั้งคืน
แถมมีทหารยามสองคนยืนเฝ้าอารักขาเขาตลอดเวลา
วันหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งมาบูชารูปปั้นเทพเจ้าในวิหาร
ก็เห็นท่าทางของชายชราบนบัลลังก์ดูเหนื่อยและไม่สบายหนัก
แต่ผู้เฒ่ายังนั่งถือเชือกเส้นหนึ่งไว้ไม่ยอมปล่อยหรือลุกจากบัลลังก์ไปไหน
เชือกเส้นนั้นมีปลายข้างหนึ่งยาวออกไปไกลสุดสายตา
ชายหนุ่มถามชายชราบนบัลลังก์ว่า
ทำไมจึงต้องถือเชือกไว้ตลอดเวลา
ชายชราตอบว่า นี่เป็นเชือกที่เอาไว้ค้ำท้องฟ้ากันแผ่นดินถล่มลงไปในนรก
เขาถือปลายเชือกข้างนี้มาเป็นเวลานานกว่าห้าสิบปีแล้ว
ชายหนุ่มหัวเราะ แล้วหาว่าสิ่งที่ชายชราพูดนั่นไร้สาระ
ชายชราจึงบอกว่า ถ้าไม่เชื่อให้ลองมาถือเชือกเองดูบ้าง
นายทหารสองคนได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองมาที่ชายหนุ่ม
ชายหนุ่มหัวเราะร่วนแล้วเดินเข้ามาจับปลายเชือก
ชายชราเห็นเช่นนั้นก็ปล่อยมือจากเชือกทันที
ชายหนุ่มเห็นชายชราปล่อยมือก็ขยับมือจะปล่อยมือบ้าง
แต่แล้วผืนดินก็สั่นสะเทือน และเกิดรอยแยกขึ้นบนพื้นวิหาร
"จงกุมปลายเชือกไว้ให้แน่น ไม่เช่นนั้นเจ้าจะโดนแทง"
ทหารสองคนชี้ปลายหอกมาร่างที่ชายหนุ่ม
ชายหนุ่มกุมปลายเชือกแน่นเข้า แผ่นดินก็หยุดสั่น
ชายหนุ่มถามชายชราว่า
ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วเขาจะต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ฟ้าถล่มลงมา
"จงนั่งรอบนบัลลังก์จนกว่าเธอจะพบคนเช่นเธอในวันนี้
"ชายชราตอบก่อนจะหันหลังเดินจากไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in