ปอและเพื่อน ๆ เดินทางด้วยรถยนตร์ส่วนตัวของพ่อมิ้งพ่อของมิ้งทำธุรกิจส่วนตัวที่สามารถยืดหยุ่นเวลางานได้ เขาอาสาขับรถไปส่งสาว ๆที่ท่าเรือแหลมบารีฮายเพื่อขึ้นเรือไปเกาะล้านพ่อของมิ้งมีญาติอยู่ที่เกาะล้านจึงหายห่วงสาว ๆ เพราะฝากให้ญาติดูแลบวกกับมิ้งเป็นเด็กฉลาด เอาตัวรอดในสังคมเก่งและยังเป็นคนที่ดำน้ำและว่ายน้ำเก่งอีกด้วย
ปอไม่เคยดำน้ำมาก่อนทริปดำน้ำนี้ปอจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก มิ้งบอกว่าทริปนี้เป็นการดำน้ำแบบ สนอร์เกิลลิ่งเป็นการดำน้ำที่ผิวน้ำ โดยแค่จะลอยอยู่เหนือผิวน้ำชมปะการังน้ำตื้นเท่านั้นเรือที่พาออกไปดำน้ำก็เป็นของญาติมิ้งที่เปิดทัวร์ดำน้ำในเกาะล้านการเดินทางมาเที่ยวในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ปอตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
เมื่อถึงที่พักที่เป็นบ้านญาติมิ้งปอและเพื่อน ๆ ก็เข้าไปเก็บของและทักทายผู้ใหญ่ พักรับประทานอาหารกันก่อนที่สาว ๆ จะออกเดินทางไปดำน้ำกันที่หาดทองหลาง
ขณะกำลังไปที่หาดทองหลางมิ้งก็เล่าเรื่องความเชื่อของเกาะล้านแก้เบื่อให้เพื่อน ๆ ฟัง
“พวกแกรู้ปะว่าบนเกาะล้านอะ เคยมีแร่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใครครอบครองแล้วจะฟันแทงไม่เข้าด้วยนะเว้ย”
“ตลกละถ้ามีแร่แบบนั้นมันก็ส่งออกขายจนประเทศเราก็รวยไปละ" เตยตอบ
“ยิ่งกว่าเกราะไอร่อนแมนอีกเหรอ"แววพูดแซว
“ตำนานอะไรของแกอะมิ้ง"นุ่นถาม
“แกต้องเชื่อฉันแล้วนุ่นปอ มันเคยมีหมาตัวนึงมันไปกินแร่นี้เข้า แล้วมันก็โดนพวกคนใจร้ายทำร้ายมันแต่เชื่อมั้ยพวกแก"
“ทำไม"ปอกับนุ่นถาม
“มันรอดเว้ย ใครก็ฟันแทงไม่เข้าเลยมันเลยเป็นคำขวัญของเกาะล้านว่า หาดทรายขาว น้ำทะเลใส
“ฮะ ฮ่า ๆ อะไรวะ"ทุกคนหัวเราะกับตำนานที่คาดไม่ถึง "แล้วเขารู้ได้ไงว่าหมามันไปกินแร่อะไรมันอาจกินก้อนกรวดก็ได้" เตยถาม
“เตยแกนี่ไม่โรแมนติกเอาซะเลย"
สิ้นเสียงมิ้งก็ถึงจุดหมายปลายทายทุกคนขนอุปกรณ์ดำน้ำที่น้าพิมให้ยืมไปยังเรือยอร์ช
“มิ้งพวกเรารู้นะว่าแกรวย แต่นี่ถึงกับมีเรือยอร์ชเป็นของตัวเองเลยเหรอวะบ้าไปแล้ว" แววพูด
“ไม่ใช่ของฉันเว้ยของญาติแล้วนี่ก็เป็นโอกาสพิเศษเฉย ๆ” มิ้งกระซิบต่อ “แกจำเรื่องแร่ที่ฉันเล่าตอนนั่งรถมาได้ปะ”
“ได้ดิแร่หมาอะเหรอ” เตยตอบ
“เออนั่นแหละน้าพิมขายไอแร่นั่นได้ มีคนซื้อต่อตั้งแพง เห็นบอกว่าต้องเป็นแร่ของน้าพิมเท่านั้นเหมือนเขาเห็นพลังจากแร่ที่น้าพิมเจอ”
“หึ้ยนี่มัน!เส้นทางเศรษฐี” เตยกับแววตาลุกวาว
“ฮ่า ๆแกไปดูตามตลาด อีแร่นั่นเต็มเลย มันคือแมงกานีสเฉย ๆ แต่ก็ตามความเชื่อของคนอะแก”
พอพูดคุยกันได้สักพักสาว ๆ ก็ออกเรือไปยังบริเวณแหล่งปะการัง มีเรือน้อยใหญ่อีกสองลำที่มาดำน้ำในสถานที่เดียวกัน
ปอ มิ้ง นุ่น แววและเตยสวมอุปกรณ์ดำน้ำ และกระโดดลงน้ำตามคำแนะนำของไกด์ที่มาด้วยกันเขาเป็นเพื่อนน้าพิมที่อาสาพาสาว ๆ มาดำน้ำ
ขณะที่ปอกำลังดำน้ำดูปะการังกับเพื่อนๆ อยู่อย่างสนุกสนานนั้นเอง สักพักเสียงของน้าพิมก็ดังมาจากเรือ
“หนู!นี่โทรศัพท์ใครน่ะ แม่โทรมา” น้าพิมตะโกนถามลงมาจากเรือ
“อันนั้นมันโทรศัพท์ปอไม่ใช่หรอ”แววพูด
“ไอปอ! โทรศัพท์”เตยตะโกนบอกปอ
“เอ้า!ปอมันหายไปไหนวะ”
“ปอ! ! !”
เสียงเพื่อน ๆของปอตะโกนตามหาปอ ร่างของปอกำลังจมลงน้ำไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าการสนอร์เกิลลิ่งต้องสวมเสื้อชูชีพด้วยก็ตามราวกับว่าเกิดเรื่องเหนือธรรมชาติขึ้นกับปอ ปอขยับร่างกายไม่ได้แม้ว่าตัวเองจะว่ายน้ำแข็งทะเลดูดกลืนร่างของปอลงไป
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาทีที่ปอกำลังดำน้ำดูปะการังอยู่มนัเกิดขึ้นหลังจากปอเผลอไปหยิบก้อนหินสีดำแวววาวปริศนาที่ลอยอยู่ในทะเล
‘หรือนี่จะเป็นแร่ที่มิ้งพูดถึง’ปอคิดในใจ ‘แต่ว่ามันต้องช่วยให้ฟันแทงไม่เข้าสิ’ปอหลับตาปี๋และใช้แรงทั้งหมดขยับร่างกายให้ว่ายน้ำขึ้นไปด้านบนแม้ปอจะมองไม่เห็นแต่รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำขึ้นไปด้านบน
ในที่สุดปอก็ขึ้นมาบนผิวน้ำได้สำเร็จปอสำลักน้ำทะเลที่กลืนเข้าไปและพยามยามถอดหน้ากากสนอร์กเกิ้ลออกเพื่อให้หายใจสะดวก ปอลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งมากถึงแม้ว่าจะงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าตนเองลอยมาที่ชายหาดได้ยังไงแต่ปอก็ตั้งสติและว่ายน้ำเข้าฝั่งได้สำเร็จ
บนฝั่งชายหาดมีคนไม่เยอะเหมือนกับตอนที่ปอออกเรือไปดำน้ำแต่ก็ยังดีที่มีคนให้ปอขอความช่วยเหลือ ปอนั่งพักอยู่บนชายหาดสักพักให้หายตกใจก่อนเดินไปหาผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือ
“คุณน้าคะ หนูเพิ่งถูกน้ำพัดมาหนูหลงกับเพื่อน หนูขอยืมโทรศัพท์โทรหาเพื่อนได้มั้ยคะ”
“ได้เลยลูกเดี๋ยวน้าให้ยืมเหรียญไว้โทรหาเพื่อนนะ” เธอควักเหรียญบาทสามเหรียญให้ปอ และชี้ไปที่ข้างบนชายหาดมีตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ตั้งอยู่บนทางเท้า โดยที่มีคนต่อแถวใช้บริการจำนวนมาก
ปอเดินไปต่อแถวพร้อมกับความรู้สึกประหลาดเกิดคำถามขึ้นมากมายกับปอ บรรยากาศโดยรอบไม่เหมือนเดิมทำไมทรงผมกับการแต่งตัวของคนดูแปลกไป เหมือนเคยเห็นในบทความแฟชั่นยุค 90 แถมต้องมาใช้โทรศัพท์สาธารณะอีกซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว โทรศัพท์สาธารณะที่วางไว้บนทางเดินขวางทางและมีสภาพเละเทะใช้การไม่ได้ นั่นเป็นภาพคุ้นตาของปอ
ผ่านไปสักพักก็ถึงคิวของปอแล้วในการใช้โทรศัพท์สาธารณะสภาพของโทรศัพท์มีสีสันสด ดูใช้การได้ดีไม่เหมือนที่เคยเห็นปอหยิบเหรียญที่ผู้หญิงใจดีคนหนึ่งให้ปอมาหยอดลงช่องใส่เหรียญด้านบนและกดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเอง นี่เป็นครั้งแรกที่ปอใช้โทรศัพท์สาธารณะแต่ก็ใช้เป็นทันทีเพราะดูวิธีใช้จากคนข้างหน้ามา
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด...
ปอโทรเข้าเบอร์ตัวเองไม่ติดครั้งนี้จึงลองโทรเข้าเบอร์ของมิ้ง
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด...
เบอร์ของมิ้งก็โทรไม่ติดปอมองดูเหรียญในมือที่เหลือเพียงเหรียญเดียว
“น้องถ้าโทรไม่ติดก็ให้คนอื่นเค้าใช้ต่อ เสียเวลา” เสียงวัยรุ่นผู้ชายที่ต่อคิวรอใช้งานโทรศัพท์หลังปอดังขึ้นอย่างก้าวร้าว
“ขออีกแป๊บนึงค่ะ”ปอตอบอย่างรีบร้อนและหยอดเหรียญสุดท้ายเข้าไปก่อนกดเบอร์โทรศัพท์ของแม่อย่างคล่องแคล่ว
ปอภาวนาให้ปลายสายรับโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ เรียนสายใครคะ”ปลายสายตอบ
“ฮัลโหลแม่ ปอหลงกับเพื่อนตอนนี้อยู่ที่หาดทองหลางมั้ง แม่โทรหามิ้งให้มารับปอหน่อยได้มั้ยแม่”ปอรีบพูดด้วยความรีบร้อน
“เอ่อ...ไม่ทราบว่านี่ใครคะ”
“ปอไงแม่
“คือว่าน่าจะโทรผิดแล้วค่ะ”
“อันนี้ใครพูดเหรอคะ”
“สาค่ะ”
สิ้นเสียงปลายสายสายก็ตัดไปทันทีเพราะหมดเวลาใช้งาน ปอยืนอึ้งไปพักหนึ่ง
สา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in