สวัสดีครับเพื่อน ๆ ผมอยากรู้ว่าเพื่อน ๆ มีประเทศในดวงใจที่อยากไปเที่ยวกันไหมครับ จะเป็นประเทศที่เราจะต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต หรือประเทศที่เราไปแล้วไปอีกก็ยังไม่เบื่อ สำหรับผมนั้น ขอยกให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศในดวงใจของผมเลยล่ะครับ เพื่อนๆทราบไหมครับว่า มีประเทศถึง 67 ประเทศต้นทางด้วยกันที่ได้รับยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย การยกเว้นวีซ่านั้นอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและทำให้จำนวนผู้ที่ชื่นชอบการแบกเป้เที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางลดลง หลายคนอาจคิดว่า การแบกเป้เที่ยวเองในญี่ปุ่นเป็นเรื่องยาก เพราะข้อจำกัดด้านภาษาที่แตกต่างกัน การเดินทางที่ยากลำบาก เป็นต้น แต่เพื่อนๆทราบไหมครับว่า เรากลับได้ประโยชน์และได้เรียนรู้มากมายจากการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองอย่างที่เพื่อนๆคาดไม่ถึงเลยทีเดียว นอกจากนี้ การเดินทางในญี่ปุ่นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะว่าการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตสามารถทำให้เรามีแผนที่ติดตัวและนำทางเราได้อย่างง่ายดาย นี่เรียกได้ว่าเป็นเพียงน้ำย่อยเท่านั้นนะครับ วันนี้ผมมีเหตุผลถึง 8 ข้อมาบอกให้เพื่อนๆฟังว่า ทำไมเราควรแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นเอง ไปดูกันเลย
หากเลือกเดินทางไปกับทัวร์ บางครั้งเราอยากไปเที่ยวอีกที่หนึ่งมากกว่า แต่เลือกไม่ได้ ก็ต้องไปตามสถานที่ที่บริษัททัวร์จัดไว้ให้ หรืออย่างเช่น หากเพื่อนๆอยากไปเที่ยวคาเฟ่แมวในญี่ปุ่นซึ่งดังมากและควรไปเยือน แต่เป็นไปได้ยากมากที่บริษัททัวร์จะจัดคาเฟ่แมวอยู่ในแผนการเดินทางด้วย เพราะทางบริษัททัวร์จะต้องคำนึงถึงความสนใจของลูกค้าเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงว่าถ้าทัวร์ลงคาเฟ่แมว ก็คงดูไม่งาม หรือเป็นไปได้ยากมากที่จะไปออนเซ็นแช่น้ำร้อนกลางหุบเขาท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ เนื่องจากรถบัสไม่สามารถขับขึ้นลงเขาได้อย่างสะดวกนัก
ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆมักติดปัญหาเรื่องแผนการเดินทางของบริษัททัวร์ที่ไม่โดนใจ การแบกเป้เที่ยวจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเหมาะสมที่สุด การเดินทางแบบนี้จะทำให้เราได้ไปทุกที่ที่เราอยากไป หรืออยู่ในความสนใจของเรา เช่น ทริปตามรอยซีรีส์ญี่ปุ่น ทริปพิพิธภัณฑ์การ์ตูนญี่ปุ่นและร้านกาแฟ ทริปชมดอกซากุระ ทริปเยือนเกาะแมวและคาเฟ่น้องเหมียว เป็นต้น
ถ้าเพื่อนๆเดินทางไปญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์ การสัมผัสวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นเป็นโอกาสที่หาได้ยาหาก หากได้แบกเป้เที่ยว เพื่อนๆจะมีเวลามากขึ้นในการเรียนรู้และสังเกตวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น ในทางกลับกันการเดินทางของกรุ๊ปทัวร์ส่วนใหญ่นั้นมักจะโดยสารรถบัส แต่นักแบกเป้เที่ยวจะโดยสารเมล์หรือรถไฟที่คนญี่ปุ่นใช้เดินทางกันในชีวิตประจำวัน ซึ่งจุดนี้ทำให้นักแบกเป้ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นโดยตรง สิ่งเหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้เพื่อนๆได้เรียนรู้และเข้าใจคนญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น
อาหารญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในเรื่องของความอร่อยและมีประโยชน์ เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าการที่ร้านอาหารจะต้องทำอาหารเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวครั้งละ 30 คนนั้น จะทำให้คุณภาพและความอร่อยของอาหารลดลง แต่ถ้าเราแบกเป้เที่ยว ก็สามารถเลือกร้านอาหารอร่อยและราคาที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเอง ในญี่ปุ่นมีแอพพลิเคชั่นชื่อ Tabelog ที่ใช้ค้นหาร้านอาหาร แอพลิเคชั่นนี้ช่วยให้เพื่อนๆตัดสินใจเลือกร้านอาหารได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เพื่อนๆสามารถค้นหาว่าอยากกินอาหารประเภทอะไร และค้นหาร้านอาหารที่อยู่ใกล้ได้ แถมยังมีการโหวตให้คะแนนว่าร้านอาหารร้านใดมีดาวสามดวงขึ้นไป ก็สามารถรับประกันได้ว่าอร่อยและคุ้มราคาแน่นอนครับ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่รู้จักกันดีเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบายของระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถไฟความเร็วสูง รถเมล์ แท็กซี่ ทุกการเดินทางเชื่อมต่อกันหมด ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ ระบบขนส่งสาธารณะเหล่านี้ตรงต่อเวลามาก รถไฟและรถเมล์เกือบทุกคันเข้า-ออกสถานีตรงเวลา ซึ่งทำให้แผนการเดินทางที่เหล่านักแบกเป้วางไว้ไม่ได้รับผลกระทบนั่นเอง
มาพูดถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางบ้างดีกว่าครับ ค่าเดินทางอาจะดูเหมือนว่าแพงเนื่องจากค่าครองชีพที่สูง แต่ก็มีแพคเกจตั๋วเดินทางให้เลือกหลากหลาย เช่น Japan Rail Pass หรือที่เรารู้จักกันว่า JR Pass บัตรนี้เราช่วยประหยัดค่าเดินทางได้เยอะมากๆเลยล่ะครับ
เมื่อพูดถึงการแบกเป้เที่ยว เพื่อนๆอาจนึกถึงการที่เราต้องแบกเป้ใบใหญ่และหนักบนหลัง แต่นั่นไม่ใช่ภาพนักแบกเป้ในญี่ปุ่นแน่นอนครับ เพื่อนๆไม่จำเป็นต้องแบกเป้ใบใหญ่แบบนั้นไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะว่าญี่ปุ่นมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแก่นักท่องเที่ยว จึงทำให้เหล่าแบคแพคเกอร์ไม่ต้องกังวลใจในเรื่องนี้เลย
อันดับแรก ทางเท้าในประเทศญี่ปุ่นสร้างดีมาก เพื่อนๆสามารถใช้กระเป๋าลากได้ พื้นผิวบนทางเท้าเรียบ สะอาดและกว้างขวาง ซึ่งเหมาะกับการลากกระเป๋าสุดๆ
อันดับที่สอง ที่ญี่ปุ่นมีบริการส่งกระเป๋าเดินทางจากสนามบินไปยังโรงแรม ถ้าเพื่อนๆมีกระเป๋าใบใหญ่ เพื่อนๆสามารถใช้บริการนี้ได้ และด้วยความน่าเชื่อถือของบริษัทเดลิเวอรี่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อนๆมั่นใจได้เลยว่ากระเป๋าจะไม่เสียหายหรือหายไปอย่างแน่นอน
อันดับสุดท้าย ที่ญี่ปุ่นมีล็อกเกอร์เก็บกระเป๋าตามสถานีรถไฟ ห้างสรรพสินค้า และตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นรายวันในราคาไม่แพง ดังนั้น นักแบกเป้ที่อยากจะท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกังวลว่าจะดูแลกระเป๋ายังไง และไม่ต้องเหนื่อยในการแบกหรือลากกระเป๋าตลอดเวลา ก็สามารถฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์ทั้งวันได้เลยครับ
ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตไร้สาย WIFI ในทุกวันนี้ ทำให้การไปเที่ยวเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะมีอินเตอร์เน็ตความเร็ว 4G ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ของประเทศ เราสามารถใช้กูเกิลแม็พในการนำทาง ค้นหาสถานที่ต่างๆและยังสามารถอัพโหลดรูปถ่ายของเราลงในโซเชียลมีเดียอวดเพื่อนๆของเราได้แบบ real-time กันไปเลย
เรื่องนี้ต้องขออ้างอิงนิดนึงครับ โดยขออ้างอิงข้อมูลจาก www.numbeo.com ซึ่งบอกว่าประเทศญี่ปุ่นจัดอยู่ในอันดับที่ 8 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก มีอาชญากรรมและอุบัติเหตุต่ำ ดังนั้น ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่อยากแบกเป้เที่ยวคนเดียวอีกด้วยนะครับ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเองคนเดียว ลุยเดี่ยวก็ยังมีเรื่องที่พึงระวังนะครับ เพราะเพื่อน ๆ จะไม่มีไกด์หรือบริษัททัวร์คอยช่วยเหลือ อาทิ การเจ็บป่วยโดยไม่คาดคิด เช่น การลิ้มลองอาหารที่เราไม่คุ้นชินอาจทำให้ท้องเสียได้ อุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถสาธารณะ หรือแม้แต่การยกเลิกเที่ยวบินกระทันหันของสายการบิน สิ่งเหล่านี้เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับมันได้โดยการทำประกันการเดินทางครับ อยากบอกว่า เดี๋ยวนี้ประกันเดินทางต่างประเทศก็ถูกเฟ่อมากครับ แบบร้อยกว่าบาทก็หาได้ แต่คุ้มครองแบบจัดเต็ม เจ็บป่วยก็จ่ายให้ เอาเป็นว่า ถ้าไปเที่ยวเมืองนอก ก็ทำประกันท่องเที่ยวติดไว้ดีที่สุดครับผม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in