about him, you? , No My father
เรื่องน่าเศร้ามีอยู่ว่า หากวันนึงมีคนจากลา เราก็ยังต้องหายใจต่อไป ;)
ผมจำเรื่องของพ่อไม่ได้มากนัก เขาตัวสูงมากเมื่อเทียบกับผมตอนนั้น มีแขนแข็งแรงมากพอที่จะอุ้มผมและกอดแม่ไปพร้อมกัน มีดวงตาเจิดจ้ามั่นอกมั่นใจหยิ่งทรนงและอบอุ่นเสมอตอนที่มองมาที่ผม รอยยิ้มสดใสพร้อมเสียงหัวเราะบอกว่าเป็นคนอารมณ์ดี
พ่อของผมน่ะเป็นผู้ชายที่เท่จริงๆ
“กล้วย...เราเป็นพี่ชายต้องดูแลน้องนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยประคองสิ่งมีชีวิตน้อยๆ ที่ดูนุ่มนิ่มมาตรงหน้า ผมมองหน้าเธอเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักน้องสาวหลังจากเฝ้ารอคอยมาเก้าเดือน ผมจับมือน้อยๆนั่นไว้เป็นสัญญาแรกที่ผมให้แก่เขา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..ผมจะไม่ทิ้งเธอ
ไม่มีวัน…
ผมไม่แน่ใจว่าความเศร้าคืออะไรในตอนนั้น ในวันเกิดครบรอบหนึ่งขวบของน้ำว้า ข่าวร้ายมาเยือนพวกเรา
ไม่มีปาร์ตี้ ไม่มีขนม เทียนที่ไม่เคยถูกจุด เค้กที่ไม่แม้แต่จะได้ตัดแบ่ง และพ่อที่ไม่เคยกลับมาอีกเลย….
แม่นั่งร้องให้กุมโทรศัพท์ไว้แน่น กอดน้ำว้าที่ยังคงมองหน้าผมอย่างสงสัยผมเองก็สงสัยไหนพ่อบอกจะมาถึงแล้วไง และผมที่ทำเรื่องร้ายแรงลงไป
“แม่ครับ...พ่อไปไหนเหรอ?”
แม่มองผม ผมมองเห็นความพังทลายในดวงตาคู่นั้น เธอดึงตัวผมเข้าไปกอดและร้องให้อย่างที่ไม่เคยร้องมาก่อน ผมรู้สึกว่าพ่อใจร้ายมาก พ่อทำแม่ร้องให้ ถ้ากลับมาผมจะตีเขาซักทีแล้วค่อยหอมแก้มขอโทษ
แต่ผมก็ไม่เคยได้ทำอีกเลย...ไม่แม้แต่ซักครั้ง…
ผมเติบโตขึ้นมาจดจำพ่อได้จากรูปถ่ายของเขา ภาพที่เขาวาด ห้องล้างรูปที่เขาทิ้งไว้ แม่ไม่ให้พ่อหายไปไหน ไม่แม้แต่จะเอารูปเราสี่คนออกจากกรอบที่ตั้งไว้กลางบ้าน เราเติบโตภายใต้แสงสว่างที่เขาทิ้งไว้
“ไอ้ลูกไม่มีพ่อ”
บางทีสังคมก็โหดร้ายนะ ไม่ได้มีแต่คนดีๆให้พบเจอหรอกจำไม่ได้ว่าตอนนั้นผมอัดไอ้หมอนั่นไปเท่าไหร่ แต่ตอนที่แม่มาก้มหัวขอโทษมันทำให้หัวใจผมแตกสลาย สายตาอบอุ่นที่มองมาคล้ายบอกว่าไม่ใช่ความผิดผมนั่นทำให้ผมต้องเมินหน้าหนี
ถ้าพ่ออยู่...ผมจะดีกว่านี้ไหม?
คำถามที่ไม่มีคนตอบ ผมมักจะไปขลุกอยู่ที่คอนโดที่เขาเคยอยู่เสมอ นั่งดูรูปถ่ายใบเดิมซ้ำรอบที่ร้อย จดจำรอยยิ้มของเขา จินตนาการว่าถ้าเป็นเขาจะเป็นยังไง? จะทำยังไง? ผมเริ่มเลียนแบบเขาตอนนั้น
รอยยิ้ม
เส้นทางที่เดิน
และแบกรับทุกสิ่งที่เขาทิ้งไว้มาดูแลและเลิกร้องให้อีกต่อไป
ผมตั้งใจเรียนขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นเพื่อให้แม่สบายใจ ยิ้มเยอะขึ้น ทำตัวบ้าบอก ดูแลน้ำว้าตามที่สัญญากับเขา เท่าที่เด็กผู้ชายคนนึงจะทำให้ได้ บอกตัวเองว่าผมเข้มแข็งและสบายดี ยิ้มได้เสมอถึงจะเจอเรื่องอะไรร้ายๆ น้ำว้าโตขึ้น เธอเหมือนเขา เข้มแข็งแต่อ่อนโยนเวลาผมเห็นเธอนั่งมองรูปถ่ายของพ่อผมก็ทำได้แค่กลืนก้อนแข็งๆที่คอลงไป
ผมยังเติมไม่เต็ม…
ไม่อาจเป็นแสงสว่างให้ได้อย่างเขา…
เราเริ่มขลุกอยู่ที่คอนโดนั้น บ่อยครั้งเราไปด้วยกันนั่งมองสิ่งของเล่านั้น ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เขายังอยู่...ในทุกของการเติบโตไม่ว่าตรงไหน
พวกเราสองคนเดินตามรอยเท้าของเขาเสมอ…
แฟนคนแรก?
เจ๋งไปเลยใช่ไหม...ผมก็อยากไปอวดพ่อนะ แต่เขาไม่อยู่ รักแรก จูบแรก จับมือกันครั้งแรก บุหรี่มวนแรก และ..อกหักครั้งแรก
ผมร้องให้…
ไม่มีใครรู้...ไม่ว่าแม่หรือน้อง
“กล้วยโอเคแม่ สบายมาก” ผมยิ้ม ต้องตกนรกแน่ๆ ผมโกหกแม่ไปแล้ว ผมตอนอายุ 18 นั่งกอดตัวเองร้องให้อยู่ในห้องนอน กลั้นเสียงสะอื้นให้เงียบที่สุดพร่ำบอกตัวเองว่าแล้วมันจะผ่านไป
ใช่..ผ่านไป
แต่ผมเปลี่ยน...โลกไม่เหมือนเดิม
ความรักเป็นอะไรที่...ไม่เคยเลือกผมซักครั้ง
ตอนที่เราโคจรกลับมาเจอกันเขาก็โคจรออกไป เขาก็ยังไม่เลือกผม…
“ อยากคุยกับใครตอนนี้?”
ข้อความในทวิตเตอร์เอ่ยถาม ผมแค่นยิ้ม หัวคิดไปมากมาย อาจจะเป็นสาวคนนั้น หรือแม่ หรือน้อง หรือเขา ใครซักคน
เรื่องจริงคือไม่มีใครถามว่าผมสบายดีไหม...เพราะผมยังยิ้มได้เสมอ
แต่พวกเขาเป็นห่วงผมรู้แหละ
ผมพรมนิ้วลงแป้นตอบข้อความนั้น
“ อยากคุยกับพ่อ”
ผมอยากคุยกับเขาจริงๆนะ อยากบอกทุกเรื่องห่าเหวที่เดินเข้ามาในชีวิตผมช่วงนี้หรือตั้งแต่ตอนที่เขาจากไป อยากถามเขาว่าผมควรทำยังไง ผมอยากเป็นแค่เด็กอายุ 20 ที่นั่งร้องให้กินเหล้ากับเขาได้ อยากฟูมฟายร้องให้กับเขาให้เขาบอกว่ามันจะไม่เป็นไร พรุ่งนี้ผมจะดีขึ้น โลกจะหมุนผมจะเปลี่ยนและทุกอย่างจะกลายเป็นเรื่องตลก
แต่...แล้วยังไง?
เขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว
รู้อะไรไหม? เรื่องเศร้าบนโลกใบนี้ ผมจะบอกให้
ใครบางคนใช้เวลาเพียงนิดหน่อยเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา เพื่อจะบอกว่าการจากลามันทรมารแค่ไหน :)
อ่า...ปวดท้องอีกแล้ว (.___.
_____________________________________________________________
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in