Q : อีกไม่นานก็จะถึงเวลาคัมแบ็คของพวกคุณแล้ว ตอนนี้รู้สึกยังไงกันบ้าง ?
แบคโฮ : เนื่องจากว่ามีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงเวลาสั้นๆ ผมเลยต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับมันนิดหน่อยครับ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็มีความสุขมากๆ เมื่อก่อนมีหลายสิ่งมากๆที่เราอยากจะทำมันในคอนเสิร์ตและตอนนี้เราก็ได้ทำมันแล้วครับ และในงานแฟนมีตติ้งพวกเราได้ใช้เวลาร่วมกับแฟนๆของพวกเรา ได้ทำในสิ่งที่พวกเราอยากจะทำไปด้วยกัน พวกเราไม่ได้ร้องเพลงมากมายเหมือนในงานคอนเสิร์ต แต่ว่าผมอยากให้แฟนๆจะได้รับความรู้สึกเหมือนกับเวลาที่อยู่ในคอนเสิร์ตครับ พวกเรามีความสุขมาก แต่ก็กังวลนิดหน่อยว่าแฟนๆจะชอบมันรึเปล่าครับ
Q : คุณพูดคุยเรื่องอะไรกับเมมเบอร์บ้าง ?
แบคโฮ : แน่นอนครับว่าพวกเราพูดถึงเรื่องอัลบั้มใหม่ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราได้พูดกันตั้งแต่เรื่องการเตรียมอัลบั้มเลยครับ ในขณะที่เรากำลังเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มนี้ เรากำลังอยู่ในระหว่างการคิดที่จะดึงเอาเอกลักษณ์และเสน่ห์ของแต่ละคนออกมาให้ได้มากที่สุดครับ เรากำลังคิดว่าเราจะแสดงพลังของเราในด้านนั้นๆออกมาได้ยังไง เราอยากทำให้ทุกคนเชื่อมโยงกันผ่านทางดนตรีให้ได้ครับ
Q : อะไรคือความเชื่อมโยงที่คุณกำลังพูดถึงอยู่ ?
แบคโฮ : จริงๆแล้วเพลงที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้มันแตกต่างกันออกไปทุกเพลงเลยครับ แต่ผมก็คิดนะว่าถ้าแต่ละคนได้ฟังเพลงของผมแม้จะอยู่กันคนละที่ พอเขาได้ฟังแล้วพวกเขาจะเข้าใจอารมณ์เพลงของผมไหม ? ถ้าสิ่งที่ผมคิดมันเกิดขึ้นมาจริงๆแล้วผมคิดว่าผมคงมีความสุขมากๆเลยครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าการใช้ชีวิตที่มีความสุขมันเป็นยังไง แต่ผมคิดว่าแฟนๆของผมจะต้องรับรู้ความรู้สึกนั้นได้ตอนที่ผมมีความสุขแน่ๆเลยครับ
Q : คุณต้องมีเรื่องให้คิดเยอะมากแน่ๆในตอนที่ต้องทำการบันทึกเสียงใหม่สำหรับเพลงที่พวกคุณเคยร้องมาในอดีต
แบคโฮ : เพลงของพวกเราหลายต่อหลายเพลง มีมินฮยอนเป็นเสียงหลักครับ และพวกเราก็ค่อนข้างเป็นกังวลในการเติมเต็มส่วนนั้นของมินฮยอนครับ ผมเองได้ลองร้องท่อนของมินฮยอนด้วยตัวเองแล้วครับ มันยากมากๆเลยครับ 55555555 โทนเสียงของมินฮยอนตรงข้ามกับโทนเสียงของผม เพราะแบบนั้นผมเลยกังวลมากว่าจะทำมันออกมายังไงดี ตอนที่ร้องเพลง "Hello" พวกเราลดคีย์ลงมาเล็กน้อยเพราะว่าพวกเราคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าพวกเราทำแบบนั้นครับ ส่วนในเพลง "If you" พวกเราก็มีใช้เสียงหลบเยอะมากครับ แต่ว่าผมจริงๆแล้วชอบการร้องแบบธรรมชาติของตัวเองมากกว่านะ เพราะฉะนั้นผมจะเลือกทำเพลงด้วยโทนเสียงธรรมชาติของผมในโอกาสหน้าครับ 555555555
Q : การทำเพลงตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว ?
แบคโฮ : อย่างแรกเลยนะครับ ผมว่าผมเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมากๆเลยนะ แต่ผมไม่สามารถเลือกแนวเพลงที่ผมชอบได้เลยครับ ผมชอบทำมันตอนสมัยที่ผมเรียนทำเพลงครับ แต่ในขณะที่ผมทำกิจกรรมโปรโมตกับวงของเรา พวกเราโปรโมตด้วยเพลงที่พวกเราทำมันขึ้นมาเองครับ มันเลยสนุกๆมากและแฟนๆก็ชอบมันมากๆด้วยครับ ดังนั้นผมเลยคิดว่าจะต้องพยายามฟังเพลงให้มากขึ้นเพื่อที่จะทำเพลงดีๆออกมาได้หลากหลายมากขึ้นครับ
Q : ตอนที่คุณทำเพลง คุณมีสไตล์เพลงที่พิเศษๆบ้างไหม ?
แบคโฮ : ไม่นะครับ ผมไม่ได้ทำเพลงไปด้วยความรู้สึกที่จะต้องสร้างสไตล์ใหม่ๆออกมา ในระหว่างที่ทำเพลงผมกับเมมเบอร์ได้พูดคุยกันเยอะมากๆ เพราะมันเป็นอัลบั้มของพวกเรา พวกเราเลยต้องทำมันไปด้วยกันครับ การพูดคุยของเรามันมีบรรยากาศที่ดีมากนะครับ ผมไม่รู้ว่าที่เราสนิทกันเพราะพวกเราคุยกันเยอะรึเปล่านะ แต่การพูดคุยกันแบบนี้มันทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้นครับ แน่นอนว่าหลังจากจบรายการ (Produce101) พวกเราก็คุยกันเยอะมากเลยครับ
Q : เหมือนกับว่ารายการจะมีผลกระทบกับพวกคุณมากๆเลย
แบคโฮ : ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่มากครับ หลังจากที่เราปล่อยเพลง "If you" ออกมา อันดับของมันบนชาร์ตเกินความคาดหมายของพวหกเรามากครับ พวกเราคิดกันว่า "นี่มันเป็นเพลงของพวกเราจริงๆเหรอเนี่ย" ตอนที่ถ่ายทำ Produce101 สถานการณ์ของผมมันแตกต่างกับเพื่อนคนอื่นๆมากเลยครับ ในตอนแรกผมทำให้เพื่อนๆหลายๆคนไม่ค่อยสบายใจใช่ไหมครับ เพราะว่าผมยังไม่สามารถทนต่อสถานการณ์แบบนั้นได้ครับ แต่ต่อมาผมก็ยอมรับมันได้ครับ แล้วผมก็แสดงความเป็นตัวเองของผมออกมาเพราะว่าผมเข้าไปในรายการด้วยชื่อของคนที่ได้รับการเดบิวท์มาแล้วถึง 6 ปี ผมไม่สามารถออกจากรายการไปได้พร้อมกับความเสียใจที่ทำมันไม่เต็มที่ครับ ผมเลยมุ่งมั่นที่จะแสดงตัวตนของผมออกมาและจะทำต่อไปหลังจากนี้ด้วยครับ
Q : คุณมีเวลาที่ยากลำบากในวันที่ประกาศผลรึเปล่า ?
แบคโฮ : ในตอนเช้าของวันนั้นผมรู้สึกว่า "อา าา .. ผมไม่น่าจะได้รับเลือกนะ" 5555555 แต่ถึงอย่างนั้นวันนั้นผมก็ยังทำทุกโชว์ออกมาอย่างเต็มที่ครับ ผมมีความสุขมากจริงๆนะที่มินฮยอนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 11 คนนั้น
Q : ในวันที่จัดมินิคอนเสิร์ตทาง VAPP คุณร้องไห้ด้วย ฉันคิดว่าคุณเป็นคนร้องไห้ยากซะอีก 5555555
แบคโฮ : จริงๆแล้วผมเป็นคนที่ร้องไห้ง่ายมากครับ วันนั้นผมคิดว่าผมได้พยายามอย่างที่สุดแล้วจริงๆที่จะไม่ร้องไห้ออกมา แต่วันนั้นมันเป็นวันที่ผมค่อนข้างกังวลมากผมไม่รู้ว่าว่าผมควรจะพูดอะไรเลยครับ แต่เมมเบอร์ก็พยายามพูดให้ผมหายกังวล ผมก็เลยดีขึ้นครับ 5555555 ตอนที่พวกเราเริ่มร้อง "If you" มันก็ยังไม่เป็นอะไรครับ แต่ตอนที่เราเริ่มร้องเพลง "Hello" เมมเบอร์ก็พากันร้องไห้กันหมด มันเลยเป็นเรื่องที่ยากมากที่ผมจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ครับ
Q : ถ้าหากว่าคุณจะได้พบกับแฟนคลับของพวกคุณอีกครั้ง คุณคิดว่าคุณจะควบคุมมันได้ไหม ?
แบคโฮ : อย่างแรกเลย ผมคงต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อนครับ เพราะว่ามันมีสิ่งที่เกิดขึ้นมากมาย ความหมายของแฟนๆสำหรับผมก็เปลี่ยนไปครับ ในตอนที่มิสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับผม ถ้าเป็นผมในเมื่อก่อนผมก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ครับ แต่ว่าในตอนนี้เพราะมีแฟนๆจำนวนมากสนับสนุนผม ผมคิดว่าผมเลยรู้ว่าจะต้องทำยังไงครับ ในตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกออกมายังไงหมด ผมรู้สึกขอบคุณมากๆที่ทุกคนๆชอบพวกเรา เพราะฉะนั้นพวกเราเลยคิดว่าจะแสดงด้านใหม่ที่ดีๆของพวกเราให้ทุกๆคนได้เห็นครับ พวกคุณอาจจะไม่อยากจะรอนะ แต่ถ้าพวกคุณรอได้มันก็จะดีมากๆเลยครับ
Q : คุณอาจจะเขิน แต่คุณมีอะไรที่ต้องการจะบอกกับเมมเบอร์บ้างไหม ?
แบคโฮ : ตลอดระยะ 6 ปีที่ผ่านมา พวกเราไม่เคยต้องแยกกันมาก่อนเลยครับ ผมภูมิใจที่พวกเราทำงานกันอย่างหนักและผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ดีมากๆ ผมภูมิใจในตัวพี่อาร่อนด้วยที่อดทนรอพวกเราอยู่เสมอ และตอนที่เราได้ดูพี่อาร่อนแสดงบนเวทีถึงแม้ว่าจะไม่ได้แสดงกับพวกเราแต่เขาก็ดูดีมากจริงๆ ในอนาคตพวกเราต้องทำอะไรที่ดีๆออกมาได้อีกแน่ๆครับ
** หากมีข้อผิดพลาดในการแปลต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ **
SOURCE : Photobook Waiting Q (2017)
ENGLISH TRANSLATED BY JETAIMEDONGHO
THAI TRANSLATED BY KA__TAIIZ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in