ในบรรดานักเรียนนับร้อยของโรงเรียน มีสองคนที่มอร์ติเมอร์คิดว่า
คู่ควรกับระดับที่เรียกว่าเป็นเพื่อนกับเขาได้
สองคน นับว่าเยอะแล้วสำหรับโรงเรียนขนาดกลางแบบนี้
คนหนึ่งเป็นไอ้แสนรู้ปากกล้า มอร์ติเมอร์ชื่นชมความกล้าของเขา
อีกคนเป็นไอ้หน้าโง่ที่จิตใจดีจนเขาใจอ่อน แต่บางวันมันก็ทำให้มอร์ติเมอร์รู้สึกว่ามันดีเกินไป และไม่มีอะไรที่ดีเกินไปสำหรับมอร์ติเมอร์ ยุน
เขากับเฟรดเดอริคมีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกัน เราต่างจัดหมวดผู้คนในชีวิตและเลือกวิธีที่จะปฏิบัติกับแต่ละคนตามหมวดหมู่ที่แยกไว้ เราต่างปกปิดความในใจต่อผู้คนไว้เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพูดมันออกไปตรงๆ โดยไม่จำเป็น เรามาจากครอบครัวที่คล้ายกัน และด้วยปมที่คล้ายกันยิ่งกว่า นั่นคงทำให้เขากับเฟรดเดอริคสนิทใจกันได้ในเวลาสั้นจนน่าตกใจ
แต่กลับมาร์โค่นั้นเป็นคนละเรื่อง ขณะที่เขากับเฟรดนั่งมอง มาร์โค่จะลงไปวิ่งอยู่กับคนอื่น บนสนามกว้าง มาร์โค่ที่ขอยืมสมุดของเขาด้วยน้ำเสียงเดียวกับที่ใช้ตอนให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม มาร์โค่ที่สะกิดเพื่อนที่ไม่สนิทเพื่อบอกเขาว่าการล้อเลียนเชื้อชาติเขาเป็นเรื่องที่เฮงซวยมาก– แม้แต่กับนายก็เถอะ! อย่าทำอีกล่ะ! มาร์โค่เองก็มีปัญหา แต่อยู่ในรูปแบบที่เขาสามารถช่วยเหลือได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แค่เลี้ยงมื้อกลางวันไม่กี่ครั้งมาร์โค่ก็พูดอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ปล่อยให้ใครมารังแกเขาได้อีก
วันนั้นเขาได้ยินเฟรดหัวเราะ
ชอบใจ อย่างที่ไม่ได้ยินบ่อยๆ และถ้ามาร์โค่คิดว่านั่นน่าขนลุก เขาก็เก็บอาการไว้ได้ดีมาก หัวเราะไปพร้อมกันด้วยซะอีก
นึกย้อนดูแล้ว มอร์ติเมอร์ก็สงสารเขาอยู่เหมือนกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in