วันเดินทางมาถึงแล้ว เราสะดุ้งตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า (ต้องใช้คำว่าสะดุ้งจริงๆ ลุกขึ้นนั่งพร้อม "เฮ้ยไปวันนี้นี่หว่า" จนรูมเมทตกใจ) ทั้งที่กว่าจะถึงเวลาเดินทางก็สี่โมงเย็นนู่น ตอนนั้นไม่รู้คิดอะไรอยู่แต่อยากหยิบมือถือขึ้นมาเช็คอะไรสักหน่อย เปิดเข้าแอปบุ๊กกิ้ง เปิดรายการที่จอง ว่างเปล่า... ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเราจองแล้วจริงๆ เดือนที่แล้วก็ยังเมลคุยกับที่พักอยู่เลย (และเมลสุดท้ายที่ส่งไปที่พักก็ไม่ได้ตอบกลับมาด้วย)
เอาล่ะ ไหนลองอินเสิร์ทบุ๊กกิ้งนัมเบอร์เข้าไปแล้วกัน แล้วก็เข้าเมลหาบุ๊กกิ้งนัมเบอร์ ยัง... ยังไม่ได้เอะใจอะไร ก๊อปปี้นัมเบอร์ไปใส่ แล้วรายการที่จองก็ขึ้นมา เอาล่ะ รายการที่จองไม่ได้ว่างเปล่าละ เราจองแล้วจริงๆ แต่เดี๋ยวนะ นี่มัน 27 May แต่เราจองไว้คืนวันที่1 May เป็นไปได้ไงวะ ตอนนั้นตกใจละ แต่ยังนิ่งอยู่ มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ(แต่คงไม่ใช่ความผิดเรามั้ง ก็ยังจะคิดเข้าข้างตัวเอง) รีโหลดใหม่ก็ยังขึ้นเหมือนเดิม สรุปว่าที่รายการจองว่างเปล่าเพราะมันผ่านมาแล้วไง ชิบหายละ นี่กูจองวันที่และปีถูกต้องทั้งหมดแต่ผิดเดือน และที่ผ่านมาไม่เคยจ่ายผ่านบัตรไปจ่ายตอนเข้าพักทุกครั้ง ครั้งนี้กะจะประหยัดงบที่พัก สรุปว่าจ่ายไปเปล่าๆ (ความง่วงแม่งหายไปหมดละ น้ำตามาแทน เงินกูT_T)
ตั้งสติได้ก็เมลหาที่พักและบุ๊กกิ้ง ว่างเปล่า ลองหาข้อมูลดูก็ไม่ได้อะไรเลย คิดไปคิดมามันจะทำอะไรได้อีกวะก็จองผิดเองอ่ะ สรุปก็ทำได้แค่ทำใจ แล้วบอกเพื่อนว่าขอโทษ (ดีนะ รับหน้าที่จองที่พักไปแค่ที่เดียวคืนเดียว)
พอทำใจยอมรับกับความซื่อบื้อของตัวเองได้ก็จัดกระเป๋าต่อ(จัดมันเอาวันเดินทางนี่แหละ) ก็ยังมีอีกเรื่องนึงที่สำคัญก็คือแลกเงิน และที่แลกเงินที่ใกล้ที่สุดก็คือBTSหมอชิต ประจวบเหมาะกับจะได้ไปขึ้นA1/2ไปสนามบินด้วย พอมาถึงBTSก็เพิ่งมาสังเกตเห็นว่าซุปเปอร์ริชมันอยู่หลังเคาน์เตอร์แลกเหรียญนี่หว่า แต่ก็คิดว่าคงเข้าไปแลกเงินได้โดยไม่ต้องเสียเงินหรอกมั้ง ตอนนั้นมองหาพนักงานก็ไม่มีสักคนเลยเดินเข้าไปถามพี่คนนึง พอดีพี่แกบอกสามีพี่แกก็กำลังเข้าไปแลกเงินอยู่ด้วย ต้องซื้อตั๋วเข้าไป (ซื้อทำไมวะ แค่เข้าไปแลกเงิน ขอเข้าไปแลกเงินหน่อยไม่ได้หรอ) พี่แกยังบอกต่อว่าลองขอพนักงานดูแล้วก็ยังยืนยันว่าให้ซื้อตั๋วเข้าไป โอเค ซื้อก็ซื้อวะ ก็เข้าไปซื้อบัตรที่เคาน์เตอร์เผื่อจะลองถามพนักงานดูใหม่ สรุปว่าต้องซื้อจริงๆ
พอเข้ามาแลกเงินได้ก็พบว่า "แบงค์นิวดอลลาร์หมดนะน้อง ลองไปดูสาขาสยามมั้ย" ชิบหายละ สาขาสยามหรอพี่ ต้องเดินแบกกระเป๋าหนักๆเพื่อไปแลกเงินเนี่ยนะ แล้วนี่ทำไมพม่าต้องรับแลกแค่นิวดอลลาร์ด้วยวะ ไม่เข้าใจ มันก็เงินเหมือนกัน (จุดนั้นพาลทุกอย่างละ) สุดท้ายก็ทำใจยอมรับว่าแลกเงินเรตธนาคารที่สนามบินก็ได้ แล้วเดินคอตกออกมาจากตรงนั้น (15บาทก็เสียไปฟรีๆ) กำลังเดินออกไปรอรถเมล์ฝนก็ตก บิลด์ความดราม่าไปอีก (ตัดพ้อชีวิตเข้าไป นี่มันวันอะไรวะ) สักพักโทรศัพท์สั่น ขึ้นเบอร์02 ก็กดรับไปแบบงงๆ "น้องอยู่ไหนแล้ว นี่พี่โทรจากซุปเปอร์ริชนะ มีแบงค์นิวดอลลาร์เข้ามาพอดี" รีบวิ่งกลับไปและขอบคุณตัวเองที่รู้สึกถึงแรงสั่นของมือถือ(ปกติไม่แยแสมือถือเลย) เสียค่าตั๋วอีกรอบแต่ไม่เป็นไร (คิดๆแล้วมันถูกกว่าส่วนต่างที่จะไปแลกกับเรตธนาคาร) แต่พี่เขาก็บอกว่าบางแบงค์มันมีรอยปั๊มนะ ไม่แน่ใจว่าจะเอาไปแลกที่นู่นได้มั้ย ไว้ได้ไม่ได้ยังไงก็กลับมาบอกพี่ด้วย แล้วพี่เขาก็ยิ้มให้ทิ้งท้าย สรุปก็แลกเงินมา เอาไปแลกได้มั้ยก็อีกเรื่องละกัน วันนั้นต้องขอบคุณพี่ๆที่ซุปเปอร์ริชจริงๆ (ยังมีเรื่องป่วงๆที่ยังไม่ได้เล่าด้วย ความโง่ตัวเองล้วนๆ แล้วยังไปทำให้พี่ๆเขาปั่นป่วนอีก หนูขอโทษจริงๆค่ะTwT)
ถึงสนามบินคิดว่าเรื่องวุ่นวายจะจบลงแต่ก็... นั่งรอขึ้นเครื่องอยู่นาน คุยกับเพื่อนเพลินจนเกือบเลยเวลาขึ้นเครื่อง พอใกล้ถึงเวลาเราก็ลุกขึ้นไปเพื่อต่อแถวที่เกตที่ระบุไว้ที่บอร์ดดิ้งพาส ชิบหายละ เปลี่ยนเกต ตอนนั้นตกใจมาก รีบมองหาจอแสดงข้อมูล สถานะขึ้นว่าให้รีบขึ้นเครื่องแล้วด้วย แล้วมันเปลี่ยนไปเกตไหนวะเนี่ย สรุปว่ามันเปลี่ยนเป็นเกตข้างๆแทน เฮ้อออออออออออ โล่งอก (พอกันทีเรื่องบ้าๆ)
ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงสนามบินย่างกุ้ง สำเนียงภาษาอังกฤษของพนักงานภาคพื้นที่นี่เป็นอีกเสียงยืนยันว่าเรามาถึงย่างกุ้งแล้วจริงๆ บรรยากาศในสนามบินเงียบและสงบมากกกกกกกก ไม่มีความวุ่นวายอยู่เลยแม้แต่น้อย และด้วยความที่นั่งแถวDก็ทำให้พลาดวิวสวยๆ ตอนแรกก็ไม่ได้อิจฉาเพื่อนที่นั่งแถวAเท่าไหร่หรอก จนเห็นภาพที่มันถ่ายมานั่นแหละ สวยงามจริงๆ
พอรับกระเป๋าเรียบร้อย ทันทีที่เดินออกมาก็จะเห็นเหล่าลุงๆแท็กซี่ยืนต้อนรับกันเยอะมาก จุดนี้ไม่ต้องกลัวไม่ได้เข้าเมืองเลย ต่อรองราคาที่ต้องการกับคนไหนได้ก็ไปเลย แต่ก่อนอื่นเราก็ต้องแลกเงินเป็นเงินKYATกันก่อน หาไม่ยากและแต่ละร้านก็เรทไม่ได้ต่างกันเลย อนึ่ง ถ้าเราถามราคาแท็กซี่แล้ว ลุงจะรับทั้งเงินจ๊าดและดอลลาร์ แต่เงินดอลลาร์นั้นเป็นการประมาณง่ายๆ ให้ประหยัดก็แลกเป็นเงินจ๊าดแล้วจ่ายเป็นเงินจ๊าดจะถูกกว่ามาก หนังสือที่เราอ่านมาบอกว่าราคาแท็กซี่จากสนามบินไปแถวไชน่าทาวน์ประมาณ 7000จ๊าด ตอนแรกลุงเสนอมาอีกราคา แต่หนังสือบอกมาขนาดนี้แล้วเราก็ขอเท่านี้แหละ และไม่ต้องพูดพร่ำมากลุงก็ตกลง แถมยังใจดีอีก ระหว่างทางไปที่พักก็ชวนคุยและสอนคำศัพท์พื้นฐานพม่าให้ด้วย สรุปว่าคนพม่าที่คุยด้วยคนแรกคือลุงแท็กซี่ และเราก็ประทับใจด้วย
นี่คือภาพแรกที่เห็นหลังเดินออกมาจากสนามบิน โทนมันเทาๆหม่นๆ ฟ้าครึ้มๆฝนจะตกอีก
หน้าสนามบินจะมีจักรยานจอดอยู่เยอะมาก แท็กซี่จะมีทั้งที่มีป้ายและไม่มีป้าย
แต่เชื่อว่าอยู่ๆไปจะดูออกเองว่าคือแท็กซี่ ส่วนใหญ่จะสีขาวๆเทาๆทั้งนั้น
จากสนามบินไปที่พักแถวๆไชน่าทาวน์ใช้เวลาประมาณ40นาที ระหว่างทางก็พูดคุยกับลุงแท็กซี่และมองดูวิวข้างทางไป เท่าที่เห็นคือเมืองค่อนข้างเงียบสงบ ข้างทางมีต้นไม้เยอะ ไม่ไกลจากสนามบินมากนักคือ University of Yangon บรรยากาศค่อนข้างสงบ ต้นไม้เยอะมาก
มาถึงที่พักพนักงานต้อนรับอัธยาศัยดีมาก คุยไปคุยมาพบว่าพี่แกเป็นแฟนคลับมาริโอ เมาเร่อ (ในขณะที่พูดถึงมาริโอนั้นก็ออกอาการว่าชอบชัดมากๆ) และต่อไปนี้จะเป็นสิ่งที่สังเกตเห็นที่นี่ในวันแรก
-แถวที่พักนี่ตึกจะเป็นตึกสูงๆแคบๆ (แต่ไม่แคบเท่าที่เวียดนาม)
-ร้านอาหารที่ขายกันบนถนนเหมือนที่เวียดนามมาก โต๊ะเตี้ยๆ กับเกาอี้ตัวเล็กๆเตี้ยๆ
-เกือบทุกปากซอยจะมีร้านแบบนี้
คนที่นี่เคี้ยวหมากกันเป็นปกติ และคายทิ้งบนถนนเป็นปกติ!
และแบบนี้
-ที่นี่รถยนต์ส่วนบุคคลพวงมาลัยรถจะอยู่ฝั่งขวาแต่ขับรถเลนซ้าย
-แต่รถสาธารณะอย่างรถเมล์ทั้งในเมืองและระหว่างเมืองมีทั้งพวงมาลัยซ้ายและขวา (คิดว่าน่าจะเป็นรถมือสองจากต่างประเทศ)
-รถเมล์ที่นี่มีทั้งสภาพเก่ามากเก่าน้อย มีทั้งมีและไม่มีแอร์ เท่าที่เห็นคือคนพื้นเมืองจะใช้บริการกันเยอะมาก และราคาถูกมาก เท่าที่รู้มาจากพนง.ที่โฮสเทลคือจากที่พักไปเจดีย์สุเหล่ (ถ้าเดินใช้เวลาประมาณ 40นาที) ราคา200จ๊าด (1ดอลลาร์ = 1355 จ๊าด)
-จากการแลกเงินในห้างหนึ่งแถวที่พักพบว่า แบงค์ดอลลาร์ที่มีรอยปั๊มจะได้เรทที่ถูกว่า คิดเป็นเงินบาทแล้วถูกกว่าในหลักสตางค์ (แลกเยอะๆก็จะขาดทุนหน่อยแต่รวมแล้วก็ยังไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นนอกๆเมืองไปหน่อย อย่างที่แลกที่พุกาม ให้ 1ดอลลาร์ = 1000จ๊าด รวมๆแล้วขาดทุนไปเกือบหกร้อยบาทT_T)
-ผู้คนแทบทุกเพศทุกวัยจะใส่เสื้อ(ทั้งเชิร์ตและเสื้อยืดธรรมดากับโสร่ง ภาษาพม่าเรียกว่าลองยี (Longyi))
-และรองเท้าแทบทุกคนจะใส่รองเท้าแตะ และต้องเป็นแตะแบบคีบ (อยากจะเรียกว่านี่คืิอยูนิฟอร์มของคนพม่าเลย)
-เห็นถนนเส้นหนึ่งรถติดมากกกกกกกกกกก ถามลุงแท็กซี่ได้ความว่าสุดสัปดาห์และวันจัันทร์รถจะติดมากหน่อย)
-เท่าที่เห็นในเมืองรถมอเตอร์ไซค์จะมีไม่มากเท่าไหร่ จักรยานน่าจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่รถยนต์เยอะมาก
-แถวที่พักผังเมืองเป็นบล็อกๆ เดินง่ายไม่มีหลงแน่นอน
19th street
-แถวที่พักมีทั้งห้าง ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงหนัง (ช่วงนั้นมี Alien Covenant และ King Arthur เข้าฉายด้วย)
-เท่าที่เดินดูในห้างและใกล้ๆนี้พวกร้านอาหารฟาสท์ฟู้ดมีไม่มาก
ภาพแรกที่เห็นในที่พัก
และคืนวันแรกเราก็ใช้เวลาแทบจะทั้งหมดที่เหลือฟังเสียงฝนจากในโฮสเทล เล่นอูโน และจิบเบียร์นิดหน่อย (นิดจนน่าจะเรียกว่าชิม)
หันขวาจากระเบียงห้องพัก
หันซ้ายจากระเบียงห้องพัก
คืนแรกในเมืองที่ดูเก่าๆ และบรรยากาศฝนตก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in