เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายkkorawink
ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง (รีวิว)
  • เรื่อง : ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง (2 เล่มจบ)

    ผู้แต่ง : Man Man HeQi Duo/ ม่านม่านเหอฉีตัว

    แนวเรื่อง :  จีนโบราณ แนวราชวัง แย่งชิงบัลลังก์ /วาย





    เนื้อเรื่อง :

    จงหว่าน (นามรอง กุยหย่วน) เป็นคุณชายในตระกูลจง ที่เป็นตระกูลสูงศักดิ์ของแคว้น ซึ่งในตอนที่จงหว่านยังเด็กตระกูลจงเกิดตกต่ำ(เนื่องจากการกระทำความผิดต่อเซียนตี้ (หวงตี้องค์ก่อน) ตระกูลจงเลยโดนกวาดล้าง) ทำให้ได้รับความช่วยเหลือและได้รับการดูแลในฐานะบุตรบุญธรรมของหนิงหวัง โดยได้มีโอกาสร่วมเรียนหนังสือกับทายาทคนโตของหนิงวังในพระราชวัง(ร่วมกับเชื้อพระวงศ์อื่นๆ) จงหว่านมีความสามารถโดดเด่นมาก จนถึงขั้นที่ว่าหากมีการสอบจ้วงหยวนจะต้องได้ตำแหน่งอย่างแน่นอน

    ต่อมาในตอนที่จงหว่านอายุประมาณ 16 ปี หนิงหวัง ถูกใส่ร้ายด้วยฐานของการเป็นกบฏ ทำให้จงหว่านได้รับผลกระทบและถูกจับกุม ลดสถานะกลายเป็นทาส แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด อวี้เซ่อ (นามรองจื่อโย่ว) บุตรชายของอวี้หวัง และอันกั๋วจ่างกงจู่ (น้องสาวของหวงตี้องค์ปัจจุบัน)สหายร่วมเรียนของจงหว่าน ที่ไม่ได้สนิทสนมกัน ได้ใช้เงินไถ่ตัวจงหว่านเป็นเหตุให้จงหว่านและอวี้เซ่อ ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในเวลาสั้นๆก่อนที่จงหว่านจะหนีออกจากเมืองหลวง ไปยังเฉียนอัน ดินแดนศักดินาที่หวงตี้ประทานให้แก่ทายาทของหนิงหวังเพื่อดูแลลูกทั้ง 3 คน ของหนิงหวังที่ยังเด็ก ให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้เป็นการตอบแทนพระคุณของหนิงหวัง และชายาที่ดูแลจงหว่านมาจนโต และเพื่อที่จะอยู่รอดในเฉียนอันที่มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบากและทุรกันดานทำให้จงหว่าน เลือกที่จะปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างตนเองและอวี้เซ่อ เนื่องจากต้องการอาศัยอิทธิพลของอวี้เซ่อให้ขุนนางยำเกรง และให้ความช่วยเหลือ

    8 ปีต่อมา จงหว่านได้เดินทางกลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง และพบว่าอวี้เซ่อที่เคยเป็นชายหนุ่มที่สุภาพ นิสัยดี มีอุปนิสัยที่เปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่เย็นชา คลุ้มคลั่งไม่แคร์อะไร จงหว่าน จึงได้อาศัยคนสนิทสืบเรื่องราว พบว่า อวี้เซ่อเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื่องจากการรับรู้เกี่ยวกับชาติกำเนิดที่แท้จริงของตนเองด้วยความรู้สึกดีที่อยู่ลึกๆ ที่จงหว่านมีให้ต่ออวี้เซ่อ มานาน ทำให้จงหว่านตัดสินใจที่จะอยู่เมืองหลวงต่อไปและพยายามเข้าใกล้อวี้เซ่อ เพื่อที่จะช่วยเหลือ วางแผน ต่างๆ ให้อวี้เซ่อ ในการต่อสู้ในราชสำนักทางอวี้เซ่อ ในตอนแรก ก็ไม่ต้องการที่จะดึงให้จงหว่านเข้ามายุ่งกับเรื่องราววุ่นวายแต่ก็ไม่สามารถห้ามจงหว่านได้ ในภายหลังเมื่ออวี้เซ่อเปิดใจยอมรับจงหว่านแล้วเขาจึงพยายามทำทุกอย่าง เพื่อที่ตนเองและจงหว่านสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้

    ความรู้สึกหลังอ่าน:

    ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึงเป็นเรื่องแนววังหลวงที่มีการแย่งชิงอำนาจระหว่างองค์ชาย ขุนนางต่างๆ ถึงโทนเรื่องจะเป็นไปในทางแย่งชิงอำนาจแต่ในระหว่างนั้น จะมีการแทรกความตลก ในเนื้อหา ความคิดหรือการกระทำของตัวละครตลอดทั้งเรื่อง โดยที่ เส้นเรื่องหลัก จะอยู่ที่จงหว่านและอวี้เซ่อความสัมพันธ์ต่างๆ ของทั้งสองคน ตั้งแต่เด็กหนุ่มจนมาถึงปัจจุบัน แต่ในเนื้อเรื่องเองก็ยังมีส่วนที่เป็นความคิด หรือเหตุการณ์ของตัวละครอื่นๆ ประกอบกันไปด้วย

    ส่วนที่ชอบที่สุดของเรื่องคือ ความที่คนแต่ง ให้ความสำคัญกับคำว่า “ปีนั้น” อย่างมาก เพราะแต่ละตัวละครจะมีความคะนึงถึง “ปีนั้น” ที่แตกต่างกันออกไป ด้วยความที่เนื้อเรื่องจะเล่าเรื่องราวปัจจุบัน โดยย้อนกลับไปยังอดีตในแต่ละจุด ตัวละครแต่ละตัวก็จะมีความคิด มีอดีต ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ได้เน้นว่าเป็นปีที่จงหว่านกับอวี้เซ่ออยู่ด้วยกันเท่านั้นแบบที่คิดเอาไว้ก่อนอ่าน เหมือนแต่ละตัวละครเอง ก็มีอดีต มีความคนึงหาของแต่ละคนทั้งในแง่ดี และไม่ดี บางคนอยากย้อนกลับไปในเวลานั้น บางคนกลับอยากลบเลือน ฝังกลบอดีตที่เคยเกิดขึ้นไม่อยากให้ใครขุดคุ้ยมันขึ้นมาอีก บางคนอยากกลับไปแก้ไขหรืออยากจะกลับไปทำเหตุการณ์ให้ดีกว่าเดิม

    ความรักของจงหว่านกับอวี้เซ่อคิดว่าเป็นความรักแบบซึมลึก คือ จงหว่านชอบมาแต่แรก ส่วนอวี้เซ่อน่าจะหวั่นไหวตั้งแต่ตอนที่อยู่ด้วยกันในอดีต แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นทำให้ต้องแยกจากกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ต่างคนก็ต่างเอาอีกฝ่ายมายึดเหนี่ยวเอาไว้เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป พอกลับมาเจอกัน ฝ่ายจงหว่านเพราะว่ารักเลยพยายามที่จะกลับมาใกล้ เพื่ออยู่เคียงข้าง และช่วยเหลือ อวี้เซ่อจะดูปากอย่างใจอย่าง ชอบ แต่ก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายเดือดร้อน แต่สุดท้ายเพื่อที่จะอยู่ด้วยกันอวี้เซ่อเลยเปลี่ยนใจที่จะต่อสู้กับคนอื่นๆ ชอบการบอกรักของจงหว่านมากแบบเอาไปสอดไว้ในหนังสือ แล้วหนีไป อวี้เซ่อ คือน่ารักหลายตอนมากแบบตอนยังไม่บอกรัก หรือยังไม่ได้ตกลงกัน ก็แบบกันระยะห่าง ไม่เข้าใกล้ไม่ตัดสินใจแทน แต่พอ เอาล่ะ ตกลงกันได้ ก็คือเปลี่ยนไปเลย มองหมด ตัดสินใจเองไม่ต้องถาม

    ส่วนหลักของเรื่อง ก็จะเกี่ยวกับชาติกำเนิด และอดีตของอวี้เซ่อ ตอนที่อวี้เซ่อแบบคลุ้มคลั่ง แต่ละครั้ง คือน่าสงสารมาก ส่วนตัวเห็นว่า ถ้าตอนนั้นอวี้เซ่อยังอายุไม่ถึง 20 ปี แล้วต้องมารู้สึกว่าการมีตัวตนของตัวเอง ก็คือความผิดแล้ว คนที่เคยรู้สึกว่ารักตัวเองทั้งหมดคือการหลอกลวง คือการเล่นละคร คงจะเจ็บปวดมาก เป็นปมที่ใหญ่ในชีวิตมาก อยากตาย ก็ตายไม่ได้ เพราะต้องมีชีวิตอยู่เป็นหมากในกำมือของคนอื่น  แบบทั้งที่จริงแล้วตัวเองไม่มีความผิดเลยจะให้ทำยังไง คนผิดก็คือคนรุ่นก่อน ถ้าหากไม่มีอะไรมายึดเหนี่ยว ถ้าหากไม่มีจงหว่านในใจ คงจะมีชีวิตต่อไปได้ยากลำบากและทรมานมาก ปล่อยให้จงหว่านปลอบต่อไป

    สิ่งที่อวี้เซ่อ และจงหว่านเจอ (โดยเฉพาะอวี้เซ่อ คือ เป็น 7 ปี ที่ยาวนาน เปลี่ยนคนแสนดีไปเป็นคนละคน) มันค่อนข้างหนักมาก แต่ด้วยความที่เนื้อเรื่องไม่ได้บรรยายขณะที่เกิดเหตุการณ์ตรงนั้นจริงๆ แต่เป็นการเล่าแบบย้อนอดีต ด้วยความที่ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วหลายปี ทั้งจงหว่านและอวี้เซ่อเองก็เลยจุดที่มีความเจ็บปวดที่สุดมาแล้ว พอมาเล่าในบริบทปัจจุบัน ความรู้สึก ความทรมานต่างๆ เลยถูกลดทอนลงไปบ้าง (แต่ก็ยังน่าสงสารมากกกกก) หลายซีน ที่ต่างฝ่ายต่างเล่าถึงมุมมอง หรือเรื่องของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง คือ ซีนพวกนั้น ทั้งสองคนก็แบบสงสารกันเอง เวลาที่ห่างกันออกไป ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ีดีด้วยกันทั้งคู่ แต่เพราะความยึดมั่นในกันและกัน ทำให้ทั้งสองคนผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาได้ จนในที่สุดก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง เพราะเป็นแบบนั้น ตอนที่่อ่านเลยยิ่งเชียร์ให้ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกัน เคียงข้างกัน รักกัน ไม่แยกจากกันไปไหน ลงเอยกันสักที

    อย่างตัวละครอื่นก็ตลกหลายตัว ชอบการคิดในใจของพ่อบ้าน ที่ได้แต่เถียงในใจ แต่พูดออกมาไม่ได้ องค์ชายสี่กับหลินซือ ก็มีจุดที่ตลกหลายช่วง อ่านแล้ว สงสารมาก

    เนื้อเรื่องค่อนข้างยาว แต่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีช่วงน่าเบื่อ แต่ไม่ได้บอกเหตุการณ์ในอดีตทีเดียวแต่จะค่อยๆบอกทีละจุดๆ และเฉลยบางส่วนออกมาเรื่อยๆ ตัวละครแต่ละตัว ก็มีความคิดมีแผนการของแต่ละคนหมด แต่ก็ยังรู้สึกว่าตอนจบมันรวบรัด และง่ายเกินไปหน่อยเหมือนกับปูให้ตัวของอวี้หวัง เป็นตัวร้ายมาก แต่พอจะแพ้ จะพลาด ก็จบแบบง่ายๆแต่อาจจะเป็นเพราะด้วยเหตุการณ์ ในตอนหลัง มันเกิดไวมากเลยทำให้ทุกอย่างมันเร็วไปหมด

    โดยรวมแล้วชอบเรื่องนี้ ค่อนข้างมาก เป็นเรื่องที่ขายขำ ทั้งๆที่ซีนนั้น มันไม่ควรตลก แต่ก็ดันตลก มีบางช่วงคือปิดหนังสือมานั่งขำ ว่าแบบ เฮ้ย แบบนี้ก็ได้หรอ ในส่วนของความรัก และการชิงไหวชิงพริบ ดีมาก และตอนจบค่อนข้างพอใจ

    คะแนน: 9.5/10

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in