เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Soul Dimension มิติวิญญาณSetthapa Bree Settaphakorn
บทที่ 6 Soul Dimension มิติวิญญาณ เพื่อนใหม่? New Friend or Foe?


  • "ยัยเบื้อก!!" เสียงชายหนุ่มตะโกนขึ้น เเต่ด้วยความที่เสายังคงใจจดใจจ่อกับยายเเก่ที่กำลังเลียขาของเธออยู่ จึงไม่ได้หันไปหาเจ้าของเสียง รู้ตัวอีกทีเธอก็ถูกกระชากด้วยเเรงมหาศาล ตัวเธอรู้สึกเหมือนดึงทึ้งไปอย่างเเรง

    "ฟุ่บ!!" เธอหายตัวไปอีกครั้ง วิญญาณยายเเก่กรีดร้องด้วยเสียงโหยหวน
    -----------------------------------------------------------------
    เสากลับมาปรากฏตัวที่บริเวณริมทะเลสาบเเห่งหนึ่ง เสารู้จึกเเปลกใจเพราะที่บริเวณริมทะเลสาบเเห่งนี้ ดูจะไม่มีความน่ากลัวเหมือนกับสถานที่อื่นๆในโลกวิญญาณเลย เหมือนกับเธอได้กลับมาบนโลกมนุษย์ยังงัยยังงั้น นอกจากนี้ เธอยังรู้สึกได้ถึงลมโชยอ่อน เเสงยามเช้า (ไม่เเน่ใจว่าเรื่อง จริงหรือ รู้สึกไปเองว่าเหมือนได้ยินเสียงนกร้องด้วย)

    "นี่เจ้าคืดว่าเจ้าจะทำอะไร" ชายหนุ่มหน้าตึ๋พูดขึ้น " เจ้าบ้ารึเปล่าที่ไปอยู่ตรงบริเวณที่ๆมีวิญญาณอาฆาตเเรงๆ เเบบนั้นอยู่ อยากถูกกินเหรอ?" ชายหนุ่มตั้งคำถามอย่างรวดเร็วจนเสาตั้งตัวเเทบไม่ทัน ใจอยากคิดเถึยงเเต่ความรู้เเละความมั่นใจเเบบหมอของเธอดูจะค่อยๆหายไปเเละเเปรผันไปตามเวลาที่เธออยู่ที่โลกวิญญาณนี้

    "ที่นี่มันที่ไหน เเล้วคุณเป็นใคร คุณพาชั้นมาที่นี่ได้ยังงัย คุณพอจะเห็นเพื่อนชั้นมั้ย ผู้ชายหน้าตาคมเข้มหน้าตาดีกับผู้หญิงตัวเล็กๆ" เสาตอบคำถามด้วยการยิงคำถามที่รัวไม่ยั้ง

    "นี่เจ้าเห็นข้าด้วยหรือนี่ ดีจริง งั้น ตอบคำถามของข้ามาก่อน!" ชายหนุ่มหน้าตี๋พูดขึ้นด้วยด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะลุเเก่อำนาจเเละเพิกเฉยต่อคำถามของหญิงสาว เสมือนเป็นสิ่งไร้สาระ

    "ชั้นพลัดหลงกับเพื่อน เเล้วชั้นไปโผล่ที่นั่นได้ยังงัยไม่รู้ รู้อีกทียายเเก่นั่นก็จะมากินชั้น" เสาตอบชายหนุ่มหน้าตี๋ด้วยความรู้สึกกลัวระคนกับความดีใจที่อย่างน้อยเธอได้เจอคนที่เธอสามารถสื่อสารด้วยรู้เรื่อง คิดได้ดังนั้นเธอจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอทั้งหมดให้กับชายหนุ่มฟัง ระหว่างที่ฟังชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ เเละทำท่าขมวดคิ้วพิจารณา ตลอดเวลาที่เสาเล่าเรื่องราวให้ฟังอย่างตั้งใจ ระหว่างที่เล่าเรื่อง เสาเริ่มคลายความตกใจ จึงค่อยมองเห็นชายหนุ่มตี๋ตรงหน้าว่าที่จริงนั้นหน้าตาหล่อไม่เบา หุ่นที่ดูละม้ายคล้ายเทรนเนอร์ที่เธอเห็นตามฟิตเนสเซนเตอร์ ดวงตาที่ตี่เหมือนจะเป็นเส้นเดียวเเต่โครงหน้ากลับชัดเข้ม ทำให้ดูเเมนสมชาย เหมือนพระเอกหนังเกาหลีก็ว่าได้ (ไม่ได้ๆ นี่เราต้องรีบหาทางไปหาคุณสิทธิ์ กับติ่งก่อน) การเเต่งตัวของเค้าเป็นกึ่งโบราณที่ดูเป็นกึ่งซามูไร กึ่งนินจา

    "ไอ้หนุ่มคนที่ว่า มันหลอกเจ้าสองคน!" ชายหนุ่มหน้าตี๋พูดขึ้นหลังจากฟังเรื่องที่เสาเล่าให้ฟังจนหมด "ข้าว่ามันมีหลายอย่างที่ไม่ถูกต้อง!"

    "อะไรคะที่ไม่ถูกต้อง?!" เสาถามไปในใจพลางคิดว่า เรื่องที่ไม่ถูกต้องที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องที่เธอเองต้องมาอยู่ที่นี่

    "อย่างเเรกเรื่องที่เจ้าตัองออกไปล่าวิญญาณ เปลี่ยนเเพทเทิร์นการตายของวิญญาณไร้สาระ กับการพาพวกเจ้ากลับโลกมนุษย์ด้วยวิธีบ้าไรนั่น ไอ้หนุ่มคนนั้นมันพูดเป็นตุเป็นตะ โกหกเป็นวรรคเป็นเวร พวกเจ้าก็ไปหลงเชื่อมัน การออกไปหาวิญญาณอาฆาตคือการเสี่ยงไปถูกจับกินโดยเปล่าประโยชน์ ข้าอยู่ที่นี่มากว่า ห้าร้อยปี เห็นดวงจิตมนุษย์หลงเข้ามาก็มาก ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่าจะมีใครทำเเบบนั้นได้ อีกอย่างวิญญาณอาฆาตจะเกิดสติได้ ก็ต้องใช้กรรมจนหมดด้วยการทำซ้ำกับสาเหตุที่ทำให้ตัวเองตายจวบจนกรรมหมด ซึ่งก็ไม่เเน่ว่ากรรมหมดเเล้วสติก็อาจไม่เกิด ยังคงวนเวียนในโลกวิญญาณเเห่งนี้หรือออกไปมิติอื่นต่อไป มันมีด้วยเหรอกับการเปลี่ยนเเพทเทิร์นการตายให้กลายเป็นไม่ตายที่ว่าเพื่อปลดปล่อยวิญญาณ ถ้าเป็นเเบบนั้นจริง คงไม่ต้องมีเเล้วกฏเเห่งกรรม มีไอ้บ้านั่นกับเจ้าก็พอ"

    "เเต่คุณสิทธิ์เค้าจะโกหกชั้นไปเพื่ออะไร?" เสาเถึยงเเทนคุณสิทธิ์ เธอรู้เเต่ว่า คุณสิทธิ์ช่วยเธอไว้หลายต่อหลายครั้ง ตั้งเเต่ฟลุดเข้ามาอยู่ที่นี่

    "อันนี้ข้าก็ไม่รู้ เเต่ข้าชื่อว่า ทีม้อคจา เป็นผู้ดูเเลสระภูติเเห่งนี้ มากว่า 500 ปั เเละข้าบอกเจ้าได้เลยว่า เรื่องที่ไอ้หนุ่มคนนั้นพูดมันไม่จริง"

    เสารู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะเถึยง ใจนึงยังคงคิดว่า คุณสิทธิ์ จะโกหกไปเพื่ออะไร อีกใจก็เเอบสงสัยว่า ทำไมเธอที่เป็นเเค่ดวงจิต กลับรู้สึกเหนื่อย เเละเเถมหิวเเบบนี้ คิดได้อย่างนั้น เธอก็เผลอเอนตัวลงบนโขดหินข้างทะเลสาบ เเล้วผลอยหลับไป

    ------------------------------------------------------------------------

    "คุณสิทธิ์ คุณจะให้ชั้นช่วยคุณยังงัย เเล้วถ้าชั้นไม่ช่วยล่ะ คุณจะทำยังงัย" ติ่งถามพรวดขึ้นมา ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปบริเวณหน้าโรงงานผลิตสาหร่ายที่มีคดีข่มขืนเเล้วฆ่า

    "ไม่ช่วยเธอก็อย่าหวังจะกลับไปหาลูก!!!!" สิทธิ์เริ่มขู่ ได้ยินอย่างนั้นน้ำตาติ่งเริ่มไหลออกมาทันที ลูกสองคนของเธอ คือทุกสิ่งในชีวิตของเธอ สิทธ์รู้ดีว่าลูกของเธอคือปมสำคัญที่จะทำให้เธอจะยอมทำทุกอย่างได้

    "ให้ทำไร ...ว่ามา!" ติ่งพูดด้วยเเค่นเสียง สะกดอาการร้องไห้ ใช่เเล้ว ติ่งคือคนสู้ชีวิต นึกไม่ถึงเลยว่าเป็นวิญญาณก็ยังต้องสู้ บัดซบดีเเท้

    "จริงๆ มันก็ไม่ยาก ในเมื่อ ตอนนี้เราอยู่ที่นี่เเล้ว เราจะจับวิญญาณอาฆาตตัวนี้ เเล้วค่อยไปหายายหมอเสา เมื่อเจอหมอเสา เราจะให้มันกินยายหมอนั่น เป็นอันเสร็จเเผน ส่วนเธอ ติ่ง เธอคือนกต่อ มีหน้าที่ไปล่อวิญญาณอาฆาตตนนั้น เเละ เป็นคนปล่อยมันออกมากินยายหมอนั่น ระหว่างนั้น ชั้นต้องใช้สมาธิเพื่อ จุดระเบิดจากพลังงานทั้งสอง เข้าใจนะ!"

    "เข้าใจ คุณสิทธิ์ให้ชั้นเป็นหน่วยเดนตายสินะ!!" ไอ้ผู้ชายเฮงซวยเอ้ย พอกันหมด ฟังดูเเล้ว ติ่งเเอบอดคิดไม่ได้ว่า จะดีเหรอ ที่ต้องทำตามที่ไอ้บ้านี่มันว่า ระหว่างนั้นเธอเริ่มลังเลอยากคิดหนี

    สิทธิ์เหมือนรู้ทัน จึงขึ้นเสียงตะโกน "ถ้าคิดหนี เเกตายเเน่ ชั้นจะให้วิญญาณกินเเกก่อน"

    "มันมาโน่นเเล้ว ไปกัน" สิทธิ์พูดพลางชี้ให้ติ่งหันไปดูบริเวณพงหญ้าที่ก่อตัวขึ้นทับกันสูงเกือบเท่าคน ด้านหน้าทั้งสองคน ขณะนี้ เกิดเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ร่างกายท่อนล่างเปลือยเปล่า ผิวเธอดูซีดเซียวเเละหม่นเกือบเป็นสีเทาเข้ม เธอหยิบมีดยาวขึ้นมาจ้วงเเทงอวัยวะเพศตนเองซ้ำเเล้วซ้ำอีก พลางกรีดร้อง เลือดกระฉูดดูน่าสยดสยอง จนขาดใจตาย สักพัก เธอลุกขึ้นมาใหม่ ครั้งนี้ อวัยวะเพศกลับกลายเป็นสีดำ ดูกลวงโบ๋ เธอหยิบมีดข้างตัว เเล้วจ้วงเเทงซ้ำเเผลเดิมเข้าไปอีก ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่เหมือนมีคนอัดเทปไว้

    "ไป!! เดินไปล่อมันมาทางนี้!" สิทธิ์กระซิบบอกติ่ง ด้วยน้ำเสียงที่เเม้เป็นการกระซิบ ก็มีการขู่เเทรกเข้ามาในน้ำเสียงอยู่ดี

    "รู้เเล้วน่า!!!! จะให้ล่อมันมาทางนี้ใช่มั้ย?!?!? เสร็จเเล้วงัยต่อ!?!!

    "เออน่า ที่เหลือชั้นจัดการเอง!!" สิทธิ์ตัดรำคาญ

    --------------------------------------------------------------------------

    " เอ้าตื่นๆ" ทีม้อคจา พูดขึ้นพลางเขย่าตัวหญิงสาวที่กำลังสะลึมสะลือ อีกมือนึง ทีมอคเจ ถือ ถ้วยน้ำโบราณรูปร่างคล้ายจอกเหล้า เทน้ำลงบนหน้าของเสาร์ น้ำสะท้อนเลนส์เเว่นไหลเข้าปากเสา จนเธอรู้สึกถึงรสหวานของน้ำ

    'อร่อยจริงๆ เเฮะ' ในที่สุดเสาก็ตื่น ลืมตาขึ้น เห็นหน้าทีม้อคจาขยับมาใกล้มาก จนเธอเเอบตกใจ ถลึงตาลุกพรวดขึ้นมาเลยทีเดียว " นี่คุณจะทำไรน่ะ!!?"

    " ข้าเปล่า ข้าก็เเค่เพิ่งสังเกตุตอนเจ้าหลับ ว่าเจ้ามีจิตที่เเข็งเเกร่ง เเละบริสุทธิ์มากทีเดียว เลยอดไม่ได้ที่จะต้องดูใกล้ๆ ก็พอเข้าใจล่ะว่า ทำไมยายเเก่นั่นถึงอยากกินเจ้ามาก!"

    "เออนี่คุณม้ก ม้กเจ คุณบอกว่า คุณเป็นผู้ดูเเลสระภูตินี้มา 500ปึงั้นคุณก็น่าจะรู้ทางหนีทีไล่ ออกไปจากที่นี่ใช่มั้ย?! คุณช่วยบอกชั้นหน่อยสิ เเละช่วยพาชั้นกับเพื่อนชั้นกลับโลกมนุษย์ได้มั้ย? มีคนที่มากับชั้นคนนึง เค้าชื่อติ่ง เค้ามีลูกด้วย สงสารเค้ามากเลย เค้าอยากกลับไปหาลูก" ติ่งใช้น้ำเสียงออดอ้อนใจหวังให้ได้ผล

    "มอกจา!! ข้าไม่รู้ ข้าไม่เคยไปโลกมนุษย์ อีกอย่างข้าว่า เจ้าไม่ควรเจอไอ้หนุ่มกำมะลอนั่นอีก มันหลอกเจ้า ด้วยจุดประสงค์อะไรข้าไม่อาจรู้ได้"

    "งั้นชั้นขอตัว ชั้นไปหาพวกเค้าเอง" เสาทำท่าลุกขึ้น เตรียมพร้อมจะผละหนีไปจากทีม้อคจา

    "นั่งลง!!!" เสาเหมือนถูกเเรงดึงอากาศด้วยพลังมหาศาลจับที่ขาเธอดึงลง ก้นเธอล้มจ้ำเบ้าทันที "โอ้ยยยยย เจ็บ นี่คุณมีเวทย์มนตร์ด้วยหรือนี่?!?!"


    " เอางี้ ข้าบอกว่าข้าไม่รู้ว่าทางออกจากที่นี่ไปยังโลกมนุษย์คือที่ไหน ก็จริง เเต่ ข้าช่วยเจ้าหาได้นี่นะ มันจะต้องอยู่ใน 1 ใน 6 มิติ ของโลกวิญญาณนี้เเหละ อีกอย่าง ในมิติ ทั้ง 6 นี้มีเเต่สระภูติเเห่งนี้ ที่จะเชื่อมต่อกับทุกมิติ"

    "คุณว่าโลกวิญญาณ มี 6 มิติ?!?! เเล้วเราจะต้องหาทางไปโลกมนุษย์ ในมิติทั้ง 6 น่ะเหรอ ต้องหาทั้ง 6 มิติ?!?!"

    " อืม. ..ก็ทำนองนั้นเเหละ" ทีม้อคจา หันมามองหน้าเสา ด้วยสายตาที่ไม่เเสดงความรู้สึก (เพราะตาเป็นเส้นเดียว)

    'ตายดีกว่า' เสาฟังเเล้วอยากจะเป็นลม

    --------------------------------------------------------------------------
    จบบทที่ 6 อ่านต่อตอนหน้านะคะ

    บรีบรี










เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in