เข้าหน้าฝนมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เด็กหญิงหัวฟูแสนดีใจ เธอชอบหน้าฝน ถึงแม้มันจะเปียกปอนแต่ยังไงเม็ดฝนมันก็ยังให้ความเย็นสบาย ไม่ร้อนแสบผิวเหมือนแดดในหน้าร้อน เธอชอบนั่งฟังเสียงฝนหล่นกระทบพื้น ชอบไล้นิ้วไปตามหยดฝนเม็ดเล็กที่มักพร้อมใจกันมาเล่นสไลด์เดอร์ที่หน้าต่าง และเธอยังชอบบรรยากาศหลังฝนตกเอาเสียมาก กลิ่นไอของฝนทำให้เธอรู้สึกสดชื่น เธอชอบมันมากกว่าแสง แดดมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง...
วันหนึ่งที่ฝนตก แต่ไม่ ฝนไม่ได้ตกทั่วทั้งฟ้าเหมือนเฉกเช่นทุกวัน มันเลือกตกอยู่เหนือหัวฟู ๆ ของเด็กหญิงเท่านั้น มันเป็นกลุ่มฝนที่ไม่มีร่มชนิดไหนสามารถรองรับได้ ฝนกลุ่มนี้เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ เธอถูกการให้คุณค่าเล่นงาน ตอนนั้น ที่การให้คุณค่าปล่อยหมัดหนัก ๆ มาที่ใบหน้า เด็กหญิงหัวฟูรู้สึกปวดร้าวไปหมด ไม่ ใบหน้าเธอไม่ได้รู้สึกปวดร้าว แต่จิตใจเธอต่างหากที่มันรวดร้าว บอบช้ำ ฝนกลุ่มนั้นสาดซัดลงมาอยากรุนแรงที่ดวงตา ไหลลงอาบแก้ม ย้อยลงคาง เด็กหญิงหัวฟูเปียกไปทั่วทั้งตัวและจิตใจ
มันมีบางคร้ั้งที่ฝนคงเหนื่อย เลยเลือกที่จะไม่ตกมาทักทายเธอ แต่น้ำฝนยังคงทิ้งเพื่อสนิทของมันอย่าง เมฆปุกปุยสีเทา ไว้ มันยังคงวนเวียน เดินเล่นอยู่บนหัวฟู ๆ ของเด็กหญิง ไม่ว่าตลอดวันเธอจะยิ้ม หัวเราะ หรือพูดเล่นกับใครสักกี่คน แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในขณะที่มุมปากทั้งสองข้างของเธอยกตัวขึ้น ก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายของเธอกำลังแฟบตัวลง มันเป็นผลมาจากการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของเมฆปุกปุยสีเทานั่น
ตอนนี้เด็กหญิงหัวฟูคิดถึงแสงแดด เธออยากถูกความร้อนแผดเผา ยืนเฉย ๆ ให้แดดโลมเลีย เพราะ เธอหวัง หวังที่จะให้หยาดฝนที่พัดกระหน่ำใส่กายและจิตใจของเธอจนเปียกโชกแห้งเหือดลงเสียบ้าง...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in