เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber 2017sleepy cat
Novelber วันที่ยี่สิบสี่: แปลงร่าง
  • นางแมวสามสีหายตัวไปจากร้านไปสามวันแล้ว

    เจ้าแมวอ้วนสามสีอยู่กับร้านมาพักใหญ่จนทุกคนชินตา มันเข้าๆ ออกๆ ร้านอยู่เป็นประจำไม่ต่างจากแมวมีชีวิต อย่างมากหายไปเพียงวันเดียว วันรุ่งขึ้นก็จะพบมันเอาร่างเย็นๆ มานัวเนียอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะรู้ตัวเสียอีก จนทุกคนเห็นว่าคงเป็นเรื่องปกติธรรมดาแมวที่มันจะออกไปนอกบ้านบ้าง ที่จริงแล้วเธอคิดว่าน่าจะเลี้ยงระบบปิด แต่ก็ไม่รู้จะบังคับแมวที่สามารถเดินทะลุกำแพงได้ตามใจชอบไม่ให้ออกจากร้านได้อย่างไร อันที่จริงเธอยังสงสัยว่ามันจะแปลงร่างหนีเที่ยวได้หรือเปล่าด้วยซ้ำ

    ในคืนวันแรกที่มันยังไม่กลับเข้าร้าน เขานอนอย่างเป็นสุข ไม่มีร่างอ้วนๆ เย็นๆ มาทับหน้าให้รำคาญ ในคืนวันที่สองแม้จะนอนหลับดี แต่ก็เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ขาดหายไป ในคืนวันที่สามเขารู้แล้วว่าเขาเคยชินกับการที่มีก้อนขนเย็นๆ มาคลอเคลียใกล้ๆ หรือแม้แต่การที่มันนอนทับหน้าของเขาก็ตาม

    ไม่ใช่เพียงเขาคนเดียวที่รู้สึก เธอก็มักจะเผลอมองไปยังมุมโปรดที่นางแมวชอบนอนบ่อยๆ ตุ๊กตาตัวโปรดของมันวางกองอยู่ตรงนั้น เธอคิดถึงเวลาที่ได้สัมผัสมันเวลาที่นางแมวยอมนอนให้เกาหูเกาคางอย่างอารมณ์ดี เธอยอมรับว่าเริ่มแรกเธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเลี้ยงแมวได้ ยิ่งแมวที่ไม่ได้มีชีวิตอยู่ก็ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ใหญ่ แม้จะชอบแมวแต่ก็ทำได้แค่เอ็นดูอยู่ห่างๆ คอยให้ข้าวให้น้ำ เธอไม่คิดว่าเจ้าอ้วนจะกลับมาพบเธออีกครั้งในสภาพนี้และไว้ใจจนยอมให้เธอเลี้ยงมันในร้านได้

    ทว่า แมวก็ยังคงเป็นแมว วันที่สามแล้วที่มันไม่ได้กลับมา นางแมวอยู่กับเธอมาพักใหญ่จนเธอเริ่มไม่รู้สึกถึงความแตกต่างของการไม่มีชีวิต นอกเหนือไปจากเรื่องที่ว่ามันไม่ต้องหายใจ ไม่ต้องการน้ำและอาหารแล้ว เจ้าอ้วนก็ไม่ต่างไปจากแมวอื่นๆ เลย กระทั่งวันนี้ที่มันจากไปจึงเริ่มรู้สึกได้ ใครจะติดประกาศตามหาแมวที่ตายไปแล้วกัน

    ส่วนเขา การที่มีเจ้าแมวมาอยู่ในร้านด้วยกลับยิ่งทำให้เขารู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างโลกทั้งสองในช่วงที่ร้านเปิดทำการ นอกจากเรื่องที่พวกเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำกิจวัตรประจำวันเหมือนยามมีชีวิตเขาและเจ้าแมวก็แทบไม่แตกต่างจากพวกเธอเลย แต่เมื่อปิดร้านก็ราวกับว่าเขตแดนนี้เป็นพื้นที่ของวิญญาณ แม้เขาจะยังต้องการการพักผ่อนนอนหลับ แต่เจ้าแมวก็ทำให้เขารู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาว่าเขาตายไปแล้ว การที่มันมานอนทับหน้าของเขา ทำให้เขาต้องยกตัวของมันออกเพราะความรำคาญไม่ใช่เพราะว่าหายใจไม่ออก ยิ่งเมื่อมองมันเดินทะลุผ่านกำแพงเข้าๆ ออกๆก็ตอกย้ำความแตกต่างนี้ชัดเจนขึ้นอีก และเมื่อมันหายไป แน่นอนว่าการที่มันไม่มีชีวิตในโลกใบนี้ก็ยิ่งตัดโอกาสที่จะหามันได้พบให้น้อยลงไปอีก

    หากมาลองคิดดูแล้วที่จริงโอกาสที่เขาและมันจะได้มาพบพวกเธอ ก็น้อยจนแทบไม่มีอยู่ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วด้วยซ้ำ

    เขาเคยคิดอยู่เสมอว่าหากเขาต้องไปจากร้านแล้วเจ้าแมวจะเป็นอย่างไรต่อไป มันจะยังคงอยู่ที่ร้านไปตลอดกาลหรือเปล่า หรือเขาควรจะพามันไปด้วยดีนะ แต่แล้วกลับเป็นมันที่จากไปก่อนเขาเสียอีก

    หรือที่จริงแล้ว ฝ่ายที่ต้องกลัวว่าจะไม่ยอมจากไปคือเขากันแน่

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in