1
ผมนึกถึงเขาขึ้นมาในตอนที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในบ้านหลังเล็กของตัวเอง เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยรอยยิ้มของเขาที่ยังคงค้างเติ่งอยู่ในหัวไม่ยอมหายไป
รอยยิ้มหวานๆ นั่นเป็นเหมือนของมึนเมา ล่อลวงให้ผมตกหลุมรักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผมนึกย้อนกลับไปถึงวันแรกที่ได้พบกับเขา นึกถึงผืนผ้าใบสีฟ้าที่ถูกแต่งเติมสีขาวเล็กๆ ลงไป กลายเป็นปุยเมฆที่ดูราวกับสายไหม ในวันที่มีสายลมพัดผ่านตัว ไล้เลียผิวของเราอย่างอ่อนโยน
เสียงเคาะประตูหนักๆ ดังขึ้นหลายครั้ง แต่กว่าผมจะลุกขึ้นมาจากเตียงและสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เขาก็แทบจะพังประตูบ้านของผมอยู่แล้ว ผมคำรามอยู่ในลำคอ อยากรู้นักว่าใครกันที่กล้ามารบกวนเวลานอนของผม ไม่มีใครอยากตื่นก่อนเที่ยงในวันหยุดหรอกนะ
และนั่นแหละครับ, ผมเปิดประตูออกไปเพื่อพบกับเขา
ผมเคยอ่านเจอมาว่าคนเราจะตกหลุมรักใครสักคนเมื่อได้สบตากับคนคนนั้นเกินแปดวินาที พระเจ้า ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวเองจะใจง่ายได้ขนาดนี้
ผมตกหลุมรักเขาทันทีที่ได้สบตา
รวดเร็วเกินบรรยาย เขาจะต้องหัวเราะออกมาแน่ๆ ถ้ารู้ความจริงข้อนี้เข้า และใช่ เขาหัวเราะออกมาจริงๆ ในตอนที่ผมเล่าให้เขาฟังอีกสักพักหลังจากนั้น
"มีอะไรครับ" ผมเผลอทำเสียงเข้มใส่เขา พอรู้สึกตัวก็พลาดไปแล้ว ผมอยากกัดลิ้นตัวเองตายเมื่อเห็นว่าหัวคิ้วของเขากำลังย่นเข้าหากัน ผมหลบตา รู้สึกประหม่าเกินกว่าจะกล้ามองหน้าเขาต่อ พอมองลงไปด้านล่าง.. ผมหมายถึงที่พื้น
ใช่ ผมมองลงไปที่พื้น และเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาลากกระเป๋าเดินทางใบเบ้อเร่อติดมือมาด้วย
"บ้านสองชั้น ประตูสีชมพูมีต้นไม้เยอะๆ กริ่งเสียมาแล้วสองอาทิตย์ยังไม่ได้ซ่อม คุณกำลังมองหาใครสักคนที่มีเงินมากพอจะช่วยหารค่าเช่าบ้านแพงหูฉี่นี่ใช่หรือเปล่า"
"อะไรนะ.. เอ่อ คิดว่าใช่" ผมแก้คำเมื่อเขาเริ่มพองขนใส่ผม ผมเคยบอกแล้วหรือเปล่า คิดว่าไม่นะ เขาดูเหมือนแมวเปอร์เซียขนยาวที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดีในคฤหาสน์หรูหรา
และใช่ เขาเป็นอย่างงั้นเลย
"ขอเข้าไปหน่อย" ไม่ทันรอให้ผมได้เอ่ยอนุญาต พ่อแมว-- ผมหมายถึงเขาแทรกตัวเดินผ่านผมเข้าไปในบ้านพร้อมกับกระเป๋าใบยักษ์ของเขานั่นแหละ แต่แล้วเขากลับหมุนตัวหันหลังกลับมา พึมพำบอกผมด้วยจังหวะที่รวดเร็วเสียจนฟังแทบไม่ทันว่า
"ประตูบ้านนายสีแหววมาก ฉันชอบ"
พระเจ้า ใจผมสั่นอีกแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in