เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ชวนมาดูPATNAKAN
#ชวนมาดู : The lunchbox : ปิ่นโตสื่อรัก
  • เปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว ฮ่าฮ่า ดองอันเก่าไว้ยังไม่ค่อยจะเขียน มาเริ่มเรื่องใหม่อีกละ 
    #ชวนมาดู เราคิดว่าจะเขียนอันนี้รวบรวมหนังที่เราดู แล้วอยากหวีด (หวีดจริงๆค่ะ ไม่ใช่รีวิว เพราะความรู้เรื่องการวิจารณ์หนังคือศูนย์ แต่ถ้าเขียนจับฉ่ายล่ะก็ ถนัดนักแล)

    จริงๆก็เคยเขียนหวีดหนังมาบ้างอย่าง เมื่อเราได้ไปดู Kingsman : The golden circle 
    แต่อยากให้มันเป็นหลักแหล่งไป เลยเป็นที่มาของ #ชวนมาดู นี่เองข่า

    กว่าจะเข้าเรื่องได้ อารัมภบทไปแปดสิบบรรทัด
    วันนี้ไถๆหาหนังดูไปเรื่อย เราเจอหนังเรื่องนึงที่เรามองข้ามมาตลอด เพราะรู้สึกเฉยๆ แต่คิดว่าวันนี้ลองดูเรื่องที่มองข้ามบ้างก็น่าจะดี เรื่องนั้นก็คือ The Lunchbox หนังประมาณปี 2013 ชื่อไทยคือเมนูต้องมนต์รัก ส่วนปิ่นโตสื่อรัก เราตั้งเองค่ะ 555555555555555

    หน้าปกโปสเตอร์เป็นคนอินเดีย เราก็เลย อืม แปลกดี ไม่ค่อยได้ดูหนังอินเดียสักเท่าไหร่ หลังจากกลับมาจากแลกเปลี่ยนแล้วก็ไม่มีใครเปิดให้ดู (ปล.ตอนไปแลกเปลี่ยนโฮสซิสเราเคยไปแลกเปลี่ยนที่อินเดียมา นางมีหนังอินเดียเป็นกรุเลยข่ะ) ก็ถือว่า เรื่องปิ่นโตสื่อรักเนี่ยแหละ จะเป็นเรื่องแรกที่เราดูในปีนี้

    เป็นเรื่องราวของการส่งปิ่นโตในประเทศอินเดีย ซึ่งว่ากันว่า บริการนี้ไม่เคยมีความผิดพลาด แม้กระทั่งในหนังก็พูดถึงไว้ว่าอเมริกาอังกฤษยังมาศึกษาเลยว่าเราไม่เคยส่งผิดพลาด เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่ว่าคุณนางเอก ส่งปิ่นโตไปไม่ถึงมือสามี

    ก็คือนางเอกของเราแต่งงานกับสามีที่ชีวิตคู่ตอนนี้ก็ไม่หวานชื่น เลยคิดว่าจะทำปิ่นโตใส่รักลงไปด้วย เผื่อสามีจะกลับมาใส่ใจตัวเองและลูกอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าปิ่นโตเถานั้น ดันส่งไปผิดที่ คนที่รับดันเป็นพนักงานออฟฟิศที่ไม่ค่อยจะหนุ่ม เตรียมเออร์ลี่รีไทร์ตัวเองแล้วซะงั้น

    แต่ไปๆมาๆ ก็ได้ส่งจดหมายคุยกันผ่านเถาปิ่นโต เจ๊แกก็ส่งไปหาตลอด ผู้ชายคนนั้นก็ส่งจดหมายกลับมา ดันกลายเป็นว่า ปิ่นโตเถานั้นสื่อรักซะอย่างนั้น  ความรู้สึกของสองคนก็ค่อยๆเปลี่ยนไป  
    บทหนังดูเป็นอะไรที่เล่าเรื่องราวของประเทศอินเดียไปพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของสองคน 
    ที่เราว่า เอ๊ออ มันก็น่ารักดีออก ดูเรียบง่ายและเนิบนาบมาก เราว่าถ้าคนชอบแนวตื่นเต้นก็อาจจะหลับไปเลย 5555555 แต่เราดันชอบและลุ้นไปว่า มึงจะคุยอะไรกันต่อไปวะ อยากเห็นคนอินเดียจีบกันด้วยวิธีคลาสสิคแบบนี้ มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ทุกครั้งที่เห็นปิ่นโต เราก็จะแบบจิกไม้จิกมือว่า แอร๊ยๆๆ เค้าจะคุยไรกันอร้ะะะ

    นี่เป็นเทรลเลอร์ของหนังเรื่องนี้ค่ะ คนขี้เกียจแปะรูปจากเน็ต เลยแปะเทรลเลอร์แทนคือดิชั้นเองค่าา 




    ไม่เคยเจอหน้ากันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ตอนท้ายๆนางเอกชวนให้มาเจอกัน แต่จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องติดตามดูในเดอะลั้นช์บ็อกซ์ ปิ่นโตสื่อรักรักรัก รัก รัก.. (เอคโค่) /โดนตี

    พอดูแล้วในหนังมีการเขียนจดหมายหากัน มันก็มีประโยคที่สะกิดใจเราละเกิน

    "ถ้าหากเราไม่เล่าเรื่องให้ใครสักคนฟัง สุดท้ายเราเองก็จะลืมเลือนมันไป"

    แบบอะโห มันโคตรทำให้เรามีไฟพรึ่บๆๆๆในการเขียนเลย พอดูจบเนี่ยเลยเขียนหวีดเรื่องนี้ซะเลย นี่แหน่ะ---
    การเขียนมันทำให้เราไม่ลืม แล้วเราว่ามันสื่อออกมาได้ดีมากๆด้วย ในเรื่องนี้อิลากับสาจัย ไม่ได้รู้จักอะไรกันมาก่อน แต่ทั้งสองคนสามารถเล่าเรื่องชีวิตของตัวเองให้กับอีกคนฟังได้เพียงวันละหนึ่งครั้ง 
    แล้วต่างคนก็ค่อยเปิดใจรับเรื่องราว ให้คำแนะนำซึ่งกันและกันได้
    มันเป็นอะไรที่โคตรแบบ ฮรือ /กัดผ้าสะอื้นล์

    ใช้ตัวละครน้อยมาก มี สาจัญ อิลาและลูกสาว รวมไปถึงสามีของนางเอกที่มาเหมือนตัวประกอบวันละ 300 บาท เพื่อนพระเอก แม่นางเอก และเสียงของคุณป้าบนบ้าน ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ ทั้งเรื่องเราไม่เห็นหน้าอ้านตี้ ได้ยินแต่เสียงตะโกนและตะกร้าห้อยส่งของเท่านั้น 55555 และตัวประกอบต่างๆในฉากบนรถบัสรถเมล์ทั้งหลายค่ะ

    แต่แปลกนะ ต้นเรื่องพระเอกดูขรึมมาก ดูเป็นคนแก่และไม่น่าคบ แต่พอมีความรัก ดันดูเด็กลง สามารถทำให้เราลุ้นไปกับความรักของสองคนนี้ได้อะ อย่างนี้สินะ เค้าถึงร้องเพลง คนมีความรักมักจะดูเด็กลงไปนี้สนึง 55555555555555 
    มันมีการพัฒนาของตัวละครอะ เราชอบมาก เพราะเพื่อนร่วมงานของพระเอกคนนึงที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ก็เป็นคนมองโลกในแง่บวกมาก คนละขั้วกันเลย แต่เขาคนนี้ กับอิลา ก็ค่อยๆชวนสอนให้พระเอกมีหัวใจมากขึ้น เป็นมนุษย์เหมือนคนอื่นขึ้นเรื่อยๆ เพราะพี่แกหลังจากเมียตาย ก็ปิดตัวเองจากสังคมไปเลยค่ะ
    แล้วเพื่อนพระเอกคนนี้ ก็พูดคำคมกาละแมอันหนึ่ง ที่เราชอบมาก คือ 
    การนั่งรถไฟผิดขบวน อาจนำเราไปสู่จุดหมายที่ใช่ " 

    แบบ เฮ้ย มันจะเป็นไปได้ด้วยเหรอวะการนั่งรถไฟผิดขบวนแล้วมันจะไปเจอจุดหมายที่ใช่
    แต่พอคิดตามก็ เอ้อ...ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ ลองผิดลองถูกไปเรื่อย เดี๋ยวมันก็เจออันที่ใช่สักอัน 
    เหมือนที่อิลาได้เจอกับสาจัญผ่านปิ่นโตเนี่ยแหละ อาจจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ แต่ในชีวิตเรามันก็มีเหตุการณ์บังเอิญแบบนี้เคยเกิดขึ้นสักครั้งนึงแหละ

    ดูหนังเรื่องนี้ละก็ให้อารมณ์เหมือนดู Begin Again เหมือนกันนะ แนวๆพระเอกดูแก๊แก่ แต่นางเอกยังเป็นสาวอยู่ 
    ในเรื่องก็มีการพูดถึงความต่างวัยด้วย เพราะสาจัญเค้าก็รู้ว่าอิลายังดูเป็นสาว น่าจะได้เจอคนที่ดีกว่าตัวเอง ซึ่งซีนนี้ทำออกมาได้ดีมาก เพราะตัวเองเนี่ยแหละ ที่เป็นคนเล่าเรื่องนี้ผ่านจดหมาย ทำนองว่า วันนี้อาบน้ำแล้วได้กลิ่นห้องน้ำเหมือนปู่เลย 
    จะสื่อว่า แบบตัวเองกลายเป็นคนแก่ไปแล้ว ไม่รู้ว่านานหรือยัง หรือเพิ่งมาสังเกตเอาวันนี้ รู้สึกว่าตัวเองคงไม่สามารถทำอะไรได้แน่ๆ เพราะแก่แล้วค่ะ

    แต่ความเหมือนของสองคนนี้คือการอยากออกไปตามหาความสุขให้กับตัวเองค่ะ สาจัญพอลาออกก็คิดว่าจะย้ายเมืองไปอยู่ที่อื่น ส่วนอิลาในช่วงกลางๆเรื่องก็จับได้ว่าสามีมีชู้ ก็อยากจะพาลูกหนีไปอยู่ภูฏานเพราะเชื่อว่าที่นั่นเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ความสุขคือสิ่งที่สำคัญ และอิล่าอยากมีความสุขกับลูกค่ะ
    และเราเขินหนักม้ากกก ตอนที่นางส่งจม.ไปหาบอกว่าอยากย้ายไป
    พระเอกเลยตอบไปว่า "จะเป็นยังไงถ้าผมไปกับคุณด้วย"

    /me วิ่งไปโดดแม่น้ำคงคา

    ส่วนอื่นที่เราชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็จะเป็นความอินเดียนี่แหละค่ะ
    ทั้งการส่งปิ่นโต เพราะคนอินเดียชอบกินอาหารใหม่ๆจากครอบครัว ไม่ก็จากบริษัทส่งปิ่นโต
    อ่านมาจากในพันทิป เห็นบอกว่าบริษัทนี้ส่งเป็นวันละแสนๆกล่อง เช้าเริ่มออกส่งผ่านสถานีรถไฟ ตอนบ่ายก็ไปรับกลับคืนมาให้กับเหล่าแม่บ้าน เรารู้สึกว่ามันอะเมซมาก แบบ ฮาวแคนยูดูแด๊ทแหม๊นนน

    ไหนจะการยื่นตะกร้าผ่านเชือกที่เป็นรอกของคุณป้าข้างบนบ้านกับอิลา
    การพูดภาษาฮินดีคำ อังกฤษคำ,คนเยอะมากมายวุ่นวายไปหมดในเมืองหลวง,ความเป็นอยู่ของผู้หญิงอินเดียที่วันๆต้องอยู่แต่ในบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าวให้ผัว เลี้ยงลูก ไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร,
    การส่ายหัวที่แปลว่าใช่,อาหารที่มีแป้งนาน(แผ่นแป้งคล้ายๆโรตี)อยู่ทุกมื้อ,การทำอาหาร หรือว่าจะเป็นซีนที่เพื่อนพระเอกหั่นผักบนรถไฟ เพื่อที่จะไปถึงบ้านแล้วจะได้ทำกินได้เลยทันที....

    (คิดในใจ : อีสึส เซอร์เรียลไปไหน)

    บอกตามตรงเราไม่เคยพิศวาสอาหารอินเดีย แต่พอดูแล้วแบบ โอ๊ย อยากลองเด้อ ดูน่ากินขึ้นมาเฉยเลยแฮะ 

    ก็คิดว่าหลายๆคนอาจจะได้ดูกันไปแล้ว แต่บางคนก็อาจจะยังและใครที่กำลังหาหนังดู เราก็ขอแนะนำหนังเรื่องนี้เลยละกันนน เราไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ไม่เคยดูเทรลเลอร์ มองข้ามด้วย กดดูแบบไม่ได้อ่านเรื่องย่ออะไรเลย เลยเซอร์ไพรส์กับอะไรหลายๆอย่าง

    และเพราะว่าเคยมองข้ามหนังเรื่องนี้แหละ ถึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้ดู เพราะเราก็รู้สึกว่า เราขึ้นรถไฟผิดสาย แต่เราก็ได้เจอจุดหมาย(หนัง)ที่ใช่เหมือนกัน :D


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in