ฉันเกิดมาในครอบครัวคนจีน, อันที่จริง จะเรียกว่าเป็นครอบครัวคนจีนก็ไม่ถูกนัก ต้องเรียกว่าบ้านทางฝั่งพ่อเป็นคนจีนเสียมากกว่า แต่ก็แปลกดีที่พอทุกคนรู้ว่าฉันมีพ่อเป็นคนจีน ก็พลอยโมเมไปว่าฉันเป็นคนไทยเชื้อสายจีน โดยที่ไม่มีใครเคยคิดจะถามถึงครอบครัวทางฝั่งแม่เลยว่ามีพื้นเพมาจากไหน เป็นคนไทยอย่างที่หลายคนตีความไปอย่างนั้นหรือเปล่า เหมือนกับว่าการดำรงอยู่ของตัวตนฉันเป็นเพียงหลักฐานการมีอยู่ของสายเลือดที่สืบสายกันมาในตระกูลของพ่อแต่เพียงเท่านั้น มีศักดิ์เป็นเพียงลูกสาวของพ่อ เป็นหลานคนแรกจากลูกชายคนโตของตระกูล เป็นทุกสิ่งที่ครอบครัวฝั่งนั้นต้องการให้เป็น รวมถึงสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการให้เป็น
หนึ่งในนั้นคือการเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิง คงเป็นเพราะด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาจึงตั้งความหวังและเฝ้ารอกับการตั้งท้องครั้งต่อไปของแม่มากขึ้นเป็นพิเศษ แม่เคยบอกเอาไว้ว่าจะเป็นลูกสาวหรือลูกชายก็ไม่เคยเกี่ยง เพียงแต่เป็นกังวลถึงความคาดหวังของครอบครัวฝั่งพ่อที่มีต่อเด็กที่จะเกิดมา ในวันที่ได้รู้เพศของเด็กที่อยู่ในท้อง แม่ได้แต่ร้องไห้เพราะไม่กล้าบอกพ่อว่าครั้งนี้ก็ยังได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม แม่ถามว่าพ่อว่า ถ้าเกิดครั้งนี้เป็นลูกสาวอีก จะทำยังไง ถึงคำตอบของพ่อจะเป็นคำว่าไม่เป็นไร แต่ลึกๆ ในใจ ฉันและแม่รู้ว่ามันเป็น
หลังจากที่แม่คลอดน้องสาว ปู่ที่เดิมทีไม่ค่อยชอบใจกับพ่อสักเท่าไหร่ก็ยิ่งดูหมางเมินเข้าไปใหญ่ ประกอบกับปัญหาเรื่องการแบ่งมรดกและการสืบทอดธุรกิจที่ทำให้สถานการณ์ครอบครัวในตอนนั้นตึงเครียดราวกับอยู่ในเรื่องเลือดข้นคนจางเสียอย่างไรอย่างนั้น ติดเพียงแค่ว่ายังไม่มีการฆ่าแกงกันเกิดขึ้น ตัวแม่เองก็มีความคิดจะหย่ากับพ่ออยู่หลายครั้ง ด้วยปัจจัยและความกดดันหลาย ๆ อย่าง ที่คงหนักหนาเกินทน หรือด้วยเหตุผลส่วนตัวก็ไม่อาจทราบได้ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงที่คำพูดของคนรอบตัวว่าเด็กจำเป็นต้องมีพ่อ ครอบครัวจึงจะสมบูรณ์ — ไร้สาระชะมัด ฉันเองก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังอะไรพ่อนัก แต่มันคงดีกว่านี้ถ้าแม่มีสิทธิเลือกที่จะแยกทางไม่ใช่หรอ
มีอยู่หลายครั้งเหมือนกันที่ฉันนึกสงสัยว่าทำไมแม่ถึงต้องถูกผูกยึดติดกับตัวตนของพ่อ ทำไมต้องทำตัวอ่อนน้อม ยอมอยู่ภายใต้อาณัติของเขาเสมอมา มันน่าโมโหไม่ใช่หรือไง ที่ใครต่อใครก็เรียกแม่ว่าภรรยาของพ่อ แต่ในทางกลับกัน เพื่อนของแม่กลับไม่เคยเรียกพ่อว่าสามีของแม่เลย อย่าว่าแต่สิทธิในการให้ลูกใช้นามสกุลเลย เพียงแค่ชื่อยังไม่ถูกเอ่ยถึงเลยด้วยซ้ำ
แม้ในกระทั่งวินาทีที่พวกเขาตัดสินใจที่จะหย่ากันเป็นครั้งที่ ๒ ฉันที่ยืนกรานว่าจะใช้นามสกุลแม่ กลับถูกเจ้าตัวดุว่าเป็นลูกก็ต้องใช้นามสกุลของพ่อสิ — อะไรกัน ทั้งที่กำลังจะหย่ากันแท้ ๆ ทั้งที่เป็นคนเอ่ยขอสิทธิการเลี้ยงดูลูก แต่ก็ยอมให้ใช้นามสกุลของทางฝั่งนั้นงั้นหรอ การเป็นคนของตระกูลพ่อไม่เห็นจะสมเหตุสมผลตรงไหนเลย ทำไมมีแค่ผู้ชายเท่านั้นล่ะที่ให้ลูกใช้นามสกุลตัวเองได้
ถ้าอย่างนั้น ในวันหนึ่งถ้าเกิดฉันมีลูกขึ้นมาล่ะ ตัวตนของฉันจะถูกลบออกเป็นเพียงภรรยาของใครสักคนหรือเปล่า หรือเมื่อตายไป จะถูกลบหายจากตระกูลไม่เหลือไว้แม้กระทั่งนามสกุลให้จดจำไหม เหมือนกับที่แม่กำลังจะเป็น
ความคิดแบบนี้อันตราย แม่เคยบอกเอาไว้
แต่การยินยอมถูกลบเลือนตัวตนน่ะ อันตรายยิ่งกว่า ฉันได้เพียงแต่เก็บไว้ในใจ ไม่ได้พูดมันออกไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in