เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
bemine x moviesบีไมนฟอร์อะไวล
Babel (2006) | การกระทำของคนนึงอาจส่งผลกับทั้งโลก

  • หนังเล่าเรื่องราวไม่เรียงลำดับเหตุการณ์ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นดันที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด จากเหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นในโมร็อคโค Richard และ Susan ไปเที่ยวเพื่อหวังที่จะปรับความเข้าใจกัน ในระหว่างนั่งรถทัวร์ Susanถูกยิงโดย พี่สองชาวพื้นเมืองที่ลองใช้ปีนไรเฟิลที่เพิ่งได้มา อาการของซูซานหนักมาก จนไม่สามารถกลับอเมริกาตามกำหนดได้ ทางด้านประเทศอเมริกา Amelia พี่เลี้ยงเด็กของบ้านนี้ ต้องพา Mike และ Debbie ไปที่เม็กซิโกพิธีแต่งงานของลูกชายตัวเองด้วย ส่วนด้านประเทศญี่นปุ่น Chieko เด็กสาวใบ้ที่อยากยอมรับจากคนรอบข้างในสังคม พ่อของเธอคือคนที่ให้ปีนไรเฟิลกับไกด์ชาวโมร็อคโค


    แก่นของหนังเรื่องอยู่ที่ชื่อเรื่อง Babel มาจากหอคอยบาเบล (Tower of Babel) เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นหอคอยที่สูงเทียมฟ้า เป็นสัญลักษณ์ความภาคภูมิใจของลูกหลานโนอาห์ที่รอดจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ ในตอนนั้นพวกเขามีความสามัคคีกัน รักกัน พูดภาษาเดียวกัน ใช้ศัพท์สำเนียงเดียวกัน แต่ว่าด้วยความภาคภูมิใจของหอคอยนี้ ก็นำมาความผยองที่คิดจะท้าทายเทพเจ้า เทพเจ้าจึงบันดาลให้มนุษย์พูดภาษาที่ต่างกัน ทำให้สื่อสารกันไม่เข้าใจ และสุดท้ายก็สร้างหอคอยไม่สำเร็จ

    อย่างที่รู้ว่าหนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องไปพร้อมๆกันทั้ง 3-4 ประเทศ นั่นคือ โมร็อคโค ญี่ปุ่น อเมริกา และเม็กซิโก มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าต้องการมีพูดและสื่อสารกันคนละภาษา และนั่นก็เป็นปัญหาสำคัญซะด้วย
    ในโมร็อคโค Yussef และAhmed เด็กชาวพื้นเมือง 2 คนที่ลองยิงปีนไรเฟิลไปที่รถทัวร์ของชาวอเมริกัน ทำให้ชาวอเมริกันคิดว่าประเทศโมร็อคโคยังมีผู้ก่อการร้อยอยู่อีก
    Richard พยายามคุยกับชาวพื้นเมืองเพื่อช่วยชีวิตเมียตัวเอง แต่ก็เจอปัญหาทางด้านภาษา เพราะพูดกันคนละภาษา ยากที่จะเข้าใจ
    Amelia เธอพยายามบอกกับตำรวจอเมริกาว่าเธอไม่ได้ข้ามชายแดนผิดกฏหมาย และไม่ได้ลักพาตัวเด็กมา แต่ตำรวจไม่เชื่อ นี่ก็เป็นปัญหา
    ส่วน Chieko เป็นใบ้ แน่นอนล่ะเป็นปัญหาทางด้านการสื่อสารแน่นอน


    ว่าด้วยเรื่องความสูญเสียความเจ็บปวดจากปีนไรเฟิลกระบอกเดียว
    • ครอบครัวท้องถิ่นชาวโมร็อคโค จากปีนกระบอกเดียวที่สองพี่น้อง Yussef และ Ahmed ยิงไปนั้น ไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดที่จะต้องหวาดระแวงว่าตำรวจจะจับตัวได้รึเปล่า แต่กลับเป็นความเจ็บปวดที่ต้องเสียคนที่ตัวเองรักไป จากการกระทำของตัวเอง
    • ครอบครัว Richard และ Susan นอกจากจะเจ็บปวดจากการทะเลาะกันอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว นอกจากนี้เห็นได้ชัดเลยคือ Susan โดนยิง แน่นอนล่ะว่าต้องเจ็บปวดแน่นอน ส่วน Richard ที่เห็นเมียตัวเองเจ็บ ด้วยความเป็นห่วงทั้งลูกและเมีย ก็คงจะเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
    • Amelia พี่เลี้ยงเด็กก็ต้องเจอกับความสูญเสียเช่นกัน ขากลับจากเม็กซิโก เธอถูกหลานชายแท้ๆทิ้งกลางทะเลทรายพร้อมกับเด็กน้อยทั้ง 2 คน เมื่อตำรวจเจอตัวเธอ เธอกลับโดนตั้งข้อหาลักพาตัวเด็ก และข้ามชายแดนโดยผิดกฏหมาย
    • Chieko ผู้ที่พ่อของเธอเป็นเจ้าของปีนไรเฟิลต้นเรืองนี้ แม่ของเธอเพิ่งตายไปไม่นาน (เธอบอกแม่กระโดดตึก, พ่อเธอบอกแม่เธอยิงตัวตาย) ทำให้เธอยิ่งต้องการความรักจากพ่อ แต่ว่าการที่เป็นใบ้ว่าน่าเจ็บปวดแล้ว แต่การที่ถูกคนรอบข้างปฏิเสธและเหยียดหยามนั่นน่าเจ็บปวดมากกว่า


    ถ้าเราเริ่มไปที่จุดเริ่มต้น แล้วเล่าเรื่องราวกลับกันทั้งหมด
    • ถ้าสองพี่น้องชาวโมร็อคโคไม่ยิงปีนไปที่รถทัวร์ ครอบครัวเขาก็ไม่ต้องสูญเสียใครไปสักคน
    • ถ้าRichard และ Susan ไม่ตัดสินใจมาเที่ยวที่โมร็อคโค Susan ก็คงไม่โดนยิง
    • ถ้า Amelia ไม่พาเด็ก 2 คนไปที่เม็กซิโกด้วย ตัวเองก็คงไม่เสียงานและไม่โดนข้อหา
    • ถ้าแม่ของ Chieko ไม่ตาย เธอคงยังเป็นเด็กสาวญี่ปุ่นคนนึงที่ร่าเริงแจมใส
    .
    สุดท้ายละ ขอบอกว่า เอาจริงๆไม่ได้กะดูเรื่องนี้จริงจัง แค่อยากดู Elle Fanning ที่แสดงเรื่องนี้เฉยๆ เรื่องนี้น้องเล่นไม่เยอะ แต่น่ารักน่าหยิกเลยเชียว


    สรุปแล้ว หนังเรื่องนี้เป็นหนังดราม่าคุณภาพมากๆเลยทีเดียว ดูแล้วหดหู่มากๆ ซึ่งดี มันทำให้เราคิดเลยว่า ตอนนี้สิ่งที่เรากำลังทำ มันส่งผลกระทบกับคนทั่วโลกอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ แล้วมันส่งผลกระทบยังไง มันดีต่อโลกและคนอื่นๆรึเปล่า

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in