ด้วยพล็อตที่น่าสนใจนี้ มันเพิ่มความกดดันให้กับคนดูอย่างเรามากๆ เมดดี้ประสบอุบัติเหตุเมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ทำให้เธอสูญเสียการได้ยินและพูดไม่ได้ เสียงสัญญาณเตือนดังเมดดี้ไม่ได้ยิน ต้องรอให้เสียงมันดังมากๆจนบ้านสั่น เธอจึงจะรู้ว่าสัญญาณเตือนดังขึ้น มีคนมาเคาะประตูเธอก็ไม่ได้ยิน อาศัยการคุยผ่านตัวหนังสือในแชทเสียมากกว่า เมื่อฆาตกรเข้าบ้านมา เมดดี้ไม่ได้ยินแม้กระทั่งฝีเท้าเดินของฆาตรกร เมดดี้กริ๊ดร้องดังสุดเสียงให้คนอื่นมาช่วยก็ไม่ได้ อีกทั้งยังโทรศัพท์แจ้งตำรวจอีกก็ไม่ได้ ในตรงนี้ทำให้เราลุ้นตามตัวละครเมดดี้ไปแทบทุกวินาที

เอาจริงๆหนังมันยังมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง ตอนปิดประตูบ้าน เมดดี้ทำไมต้องหันไปเก็บลูกหน้าไม้? ทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลย ฆาตกรไปอยู่ในอ่างอาบน้ำได้ยังไง? ยอมรับว่าดูแล้วหงุดหงิดนิดๆ พยายามหาเหตุผลและคำตอบต่างๆเพื่อมาซัพพอร์ตคำถามเหล่านี้ที่เกิดขึ้น แต่ก็หาไม่ได้สุกที ตรงนี้ถ้าไม่เป็นจุดอ่อนของหนัง ก็คงเป็นจุดแข็งของหนังที่ทางผกก.ต้องการจะใส่ไปเลย ส่วนตัวว่าเป็นจุดอ่อนซะมากกว่า

หนังชวนเราขบคิดว่า ถ้าเราเป็นใบ้หูหนวกแบบเมดดี้ เราจะทำยังไง? มันมีหลายเหตุการณ์ที่รู้สึกขัดใจกับการกระทำของตัวละคร แบบทำไมไม่ทำแบบนี้ซะตั้งนาน ทำไมถึงทำแบบนี้ เอาจริงๆถ้าเราไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ คงจะตัดสินใจยากอยู่เหมือนกันแหละนะ

จะมีอยู่สักพักนึงที่เราดูแบบปิดเสียง เพราะอยากได้อรรถรสที่แปลกใหม่ จะได้รู้สึกับเมดดี้ ที่ไม่ได้ยินอะไรเลย คือมันก็แปลกๆดีนะ แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี

สรุปแล้ว Hush (2016) เป็นหนังฆาตกรรมที่มีพล็อตแปลกใหม่และน่าติดตาม มีความน่ากลัวความตื่นเต้นและความกดดันในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ยังทีความไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง ยังไงก็ตามถ้ามองข้ามสิ่งพวกนี้ไป ก็จะเป็นหนังเรื่องนึงที่ดูแล้วสนุกมากทีเดียว

ฝากความเห็นหลังชมนี้ ในเฟซบุ๊กด้วย