เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Life in Aksorn Chulapeachual
[Review] รีวิววิชาเรียนคณะอักษร จุฬา ปี 1 เทอม 2
  • สวัสดีค่าทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะ หลังจากเรารีวิววิชาเรียนปี 1 เทอม 1 ไป วันนี้เราจะมารีวิววิชาเรียนปี 1 เทอม 2 บ้างค่ะ และเช่นเคย เทอมนี้เราเรียนเป็นออนไลน์ล้วน ดังนั้น อาจจะมีบางจุดที่แตกต่างไปจากที่เพื่อน ๆ เรียนนะคะ 

    เทอมนี้เราเรียนทั้งหมด 7 ตัว เป็นวิชาบังคับคณะ 5 ตัว วิชาบังคับเลือก 1 ตัว และวิชาเข้าเอกของเรา 1 ตัวค่ะ สำหรับใครที่เพิ่งมาอ่านเป็นครั้งแรกแล้วยังไม่ทราบ เราอยู่เอกเกาหลีค่ะ ^^

    อ่านรีวิวของเทอมอื่นได้ที่

    ส่วนของเทอมนี้เป็นยังไง ตามไปดูกันเลยค่า


    1. INTRO TRANSL การแปลอังกฤษขั้นต้น
    ความยาก : 5/10
    การเก็บคะแนน : สอบย่อย 4 ครั้ง, สอบไฟนอล, งานกลุ่มแปลเรื่องแต่ง

    เริ่มจากวิชานี้ก่อนเลย วิชานี้เป็นหนึ่งในวิชาที่เราชอบที่สุดเลยค่ะ เนื่องจากว่าเรามีความสนใจในด้านการแปล พอมาเรียนวิชานี้ ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าเราอยากทำงานด้านนี้จริง ๆ เราจะได้เรียนการแปลขั้นพื้นฐานทั้งจากไทย-->อังกฤษ และอังกฤษ-->ไทย โดยจะได้ลองแปลบทความหลากหลายแบบเช่นแปลสารคดี แปลข่าว แปลบทความให้ความรู้และแปลเรื่องแต่งค่ะ

    เราเรียนเซคอาจารย์ Puckpan อาจารย์เขาเก่งนะ แต่ตรวจงานช้ามาก เราได้งานคืนก่อนสอบไฟนอลวันเดียวเองมั้ง 55555555555 เขาก็จะสอนข้อควรระวังในการแปลต่าง ๆ และวิธีการแปลตัวบทแต่ละประเภท เช่นถ้าเป็นพาดหัวข่าวต้องใช้ไวยากรณ์ยังไง แปลบทความเชิงวิชาการกับแปลเรื่องแต่ง มีความต่างกันยังไง 

    สำหรับงานกลุ่ม ก็จะจับกลุ่มแล้วช่วยกันแปลเรื่องแต่งยาวประมาณ 1 หน้า โดยจะต้องระบุพวกอุปสรรคในการแปลต่าง ๆ ด้วย 

    ข้อเสียเดียวที่เราไม่ชอบก็คือ ให้เวลาสอบน้อย เราว่างานแปลเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดนิดนึง แต่เวลาที่เขาให้มามันค่อนข้างจำกัด ทำให้บางทีเรายังไม่ทันได้ตรวจทานก็ต้องส่งแล้ว แต่ถือว่าดีมาก ๆ ที่เขาอนุญาตให้ใช้พจนานุกรม (ตอนเราสอบเป็นออนไลน์ สามารถค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ตได้) เพราะได้ยินมาว่าสมัยก่อนโควิด ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องมืออะไรเลย ซึ่งมันไม่ practical อะจริง ๆ

    ความคิดเห็น : เราว่าเป็นวิชาที่ทำให้เข้าใจพื้นฐานของการแปลได้ดีมาก แล้วก็ทำให้รู้ว่าเราสนใจในด้านนี้มั้ย เพราะว่าวิชานี้มันก็จะแบ่งเป็นคนที่ชอบกับไม่ชอบไปเลย 55555555

    2. WEST CIV อารยธรรมตะวันตก
    ความยาก : 8/10
    การเก็บคะแนน : สอบล้วนมิดเทอม+ไฟนอล

    มาอีกวิชาแล้วสำหรับเซ็ตอารยธรรม (ไม่หมดง่าย ๆ หรอกนะ) เทอมนี้เราจะได้เรียนอารยธรรมตะวันตกแบบจุใจสุด ๆ โดยเนื้อหาก็จะเรียงตามลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เมโสโปเตเมีย กรีก ไปจนถึงการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ การปฏิวัติอุตสาหกรรม นาซี และยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พูดได้ว่าวิชานี้ปฏิรูปความรู้วิชาสังคมที่เราเรียนมาตั้งแต่มัธยมจนถึงเตรียมสอบเข้าเลยค่ะ พอฟังอาจารย์สอนแล้ว เราจะได้รู้เยอะมากว่าจริง ๆ ชุดความรู้ที่เราเคยได้เรียนมาในอดีตมันมีจุดผิดอยู่เยอะ อาจารย์ที่สอนทั้ง 2 ท่านคืออาจารย์ตุลย์กับอาจารย์ภาวรรณ เป็นอาจารย์ที่เก่งมากจริง ๆ ค่ะ เล่าละเอียด เก็บดีเทลทุกเม็ด ที่สำคัญคืออาจารย์เอาหลักฐานในสมัยต่าง ๆ มาให้ดูแล้ววิเคราะห์ให้ฟังเยอะ การเรียนเลยค่อนข้างน่าสนใจมาก

    ส่วนการสอบ แหะ ๆ ปีเราเรียนออนไลน์เลยได้สอบเป็นข้อสอบช้อยส์ล้วนทั้งสองครั้ง และสามารถ open book ได้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างสอบแบบนี้กับสอบข้อเขียนอันไหนดีกว่ากัน 5555555 ข้อสอบเป็นช้อยส์ก็จริง แต่ไม่ใช่อะไรที่จะเปิดหาคำตอบจากหนังสือได้ เราต้องใช้ความรู้ความเข้าใจแล้วเอามาวิเคราะห์หาคำตอบเอง เราค่อนข้างชอบข้อสอบแบบนี้ เรามองว่าเป็นการสอบที่ทำให้เราได้ประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาจริง ๆ ไม่ใช่แค่จำไปงั้น ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อสอบโหดมากค่ะ /(ㄒoㄒ)/~~ จำได้ว่าอาจารย์เอาหลักฐานที่มีข้อความภาษาละตินมา แล้วถามว่ามันแสดงถึงอะไร เราก็สตั๊นท์ไป 3 วิ เพราะจะตอบได้ก็ต้องรู้ก่อนว่าภาษาละตินแปลว่าอะไร (ซึ่งเสิร์ชทุกทางก็ยังไม่เจอ) แต่ดีที่วิชานี้ตัดเกรดอิงกลุ่มค่ะ คะแนนของเพื่อน ๆ ก็จะค่อนข้างเกาะกลุ่มกันทำให้เกรดเรายังออกมาน่ารักอยู่ค่ะ

    ความคิดเห็น : วิชานี้เป็นวิชาโปรดของใครหลาย ๆ คนเลย เราว่าถ้าเพื่อน ๆ มาเรียนก็จะต้องชอบ เป็นวิชาที่ทำให้มุมมองที่มีต่อประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป และได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในยุคต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งมาก ตอนที่เรียนเกี่ยวกับนาซี อาจารย์อธิบายได้ละเอียดและดีมากจนน้ำตาซึมไปตาม ๆ กันค่ะ

    3. INTRO LANG ภาษาทัศนา
    ความยาก : 15/10
    การเก็บคะแนน : สอบมิดเทอม+ไฟนอล

    จะพูดถึงวิชานี้ทีต้องทำใจก่อน 50 วิ (˘・_・˘) สำหรับเรา นี่เป็นวิชาที่ยากที่สุดที่เคยเรียนมาเลยค่ะ อาจเป็นเพราะเราไม่ถูกกับภาษาศาสตร์อยู่แล้วด้วย วิชานี้เราจะได้เรียนกับอาจารย์หลายท่าน ที่แบ่งกันสอนตามความเชี่ยวชาญของตนเอง เนื้อหาที่เรียนก็จะครอบคุลมเกี่ยวกับพื้นฐานภาษาศาสตร์ ตั้งแต่ระบบเสียง (ยากที่สุด อันดับหนึ่ง) โครงสร้างคำ ประโยค ไวยากรณ์ การเปลี่ยนแปลงของระบบภาษา ภาษากับเทคโนโลยี วิชานี้ค่อนข้างปูพื้นให้สำหรับคนที่สนใจเข้าเอกแลงเทค หรือสนใจโทภาษาศาสตร์ค่ะ ถ้าเรียนวิชานี้แล้วชอบ ก็ลุยเลย ส่วนทางเราตอนเรียนจบก็ขอประกาศว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีกแล้วค่ะ...

    ในห้อง อาจารย์จะเอาแบบฝึกหัดที่เกี่ยวกับเรื่องที่เรียนมาให้ลองทำเยอะ บางพาร์ทก็เหมือนการเล่นเกมที่เราจะต้องจับสังเกตและหาการเชื่อมโยงของภาษาให้ได้ เช่นมีพาร์ทนึงที่เอาคำศัพท์หรือประโยคในภาษาที่เราไม่รู้จักมาให้ดู และให้สังเกตจากโครงสร้างเอาว่า คำนี้ควรแปลว่าอย่างไร และหากเราต้องการจะเขียนเป็นคำใหม่ จะเขียนได้ว่าอย่างไร ถ้าใครชอบก็คือเรียนสนุกเลยค่ะ วิชานี้สอบเป็นช้อยส์ส่วนใหญ่และมีเขียนตอบสั้น ๆ 2-3 ข้อ ใช้ทั้งความจำทั้งการวิเคราะห์เลยค่ะ

    ความคิดเห็น : เป็นวิชาที่ยาก แต่ถ้าตั้งใจทำความเข้าใจก็สามารถเรียนได้สนุก เพราะอาจารย์ทุกท่านเก่งและอธิบายได้ดีจริง ๆ ค่ะ

    4. ENGLISH II
    ความยาก : 5/10
    การเก็บคะแนน : สอบมิดเทอม+ไฟนอล, หนังสือนอกเวลา, ควิซ, โปรเจคต์ไฟนอล 

    ถ้าเราผ่าน ENGLISH I มาได้แล้ว มาเจอวิชานี้ก็ไม่มีอะไรน่าตกใจแล้วค่ะ 555555555 outline การสอนค่อนข้างคล้ายกับ ENGLISH I ก็คือมีเรียนแกรมม่า เขียนพารากราฟ 2 ชนิด อ่านหนังสือนอกเวลา 1 เล่มและมีทำโปรเจคต์ไฟนอลค่ะ

    วิชานี้เหนื่อยใจไม่มาก เพราะอย่างที่บอกว่า รูปแบบคล้าย ๆ กับที่เราเรียนเทอมแรก แต่เทอมนี้เหนื่อยกายมากค่ะ 55555555 ช่วงไฟนอลของปี 1 เทอม 2 เป็นช่วงที่มีงานหลายวิชาถาโถม และวิชานี้ก็เป็นอีกวิชาที่สั่งงานหนักค่ะ เพื่อน ๆ เซคอื่นได้เขียน fiction สนุก ๆ เป็นโปรเจคต์ไฟนอลกันหมด แต่เซคเราอาจารย์บอกว่ามันเหมือนเด็กประถมเกินไป (ตรงไหนคะ...) เลยเปลี่ยนให้ไปทำงานเขียนที่เกี่ยวกับเรื่องโควิดโดยเฉพาะแทน ทั้งเขียนพารากราฟ เขียน fiction และนำเสนอ นั่งทำกันกับเพื่อนอีกสองคน รวม ๆ แล้วเสียเวลาไปเป็นอาทิตย์เลยค่ะกับงานนี้ หัวจะปวด ฮือ

    เราเรียนกับเชน (Shane A.) ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เซคเราโคด้วยเมื่อเทอมก่อนนั่นเองค่ะ อาจารย์ค่อนข้างเชี่ยวชาญและเคี่ยวมากโดยเฉพาะเรื่องการเขียนค่ะ ตอนเทอมก่อนที่เราทำโปรเจคต์ไฟนอลกับเขา กลุ่มเราโดนสับเยอะมาก จนเพื่อน ๆ ไซโคว่าเปลี่ยนเซคไหม ┗( T﹏T )┛แต่เราก็ไม่ได้เปลี่ยน ทำใจดีสู้เสือเอาไว้ และพอได้มาเรียนจริง ๆ อาจารย์ก็เคี่ยวมากอย่างที่กลัวค่ะ คำเตือนสำหรับเพื่อน ๆ คืออาจารย์เขาจะออกแนวเป็นคนอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ และวิจารณ์งานอย่างตรงไปตรงมามาก (เกินไป) ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะไม่ชอบสไตล์ของเขาได้ค่ะ โชคดีหน่อยที่อาจารย์ชอบสไตล์การเขียนของเรา เลยไม่เคยโดนวิจารณ์งานแบบปวดหัวใจค่ะ (เครดิตทั้งหมดยกให้ไมเคิลเลยค่ะ!)

    ความคิดเห็น : วิชานี้คล้ายกับ ENGLISH I มาก ๆ แต่เหมือนว่าจะเน้นไปทางแกรมม่าและการเขียนมากกว่า เตรียมตัวเตรียมใจ แล้วก็เตรียมแรงมาทำโปรเจคต์ก็พอค่ะทุกคน 55555555

    5. THAI LIT วรรณคดีไทย
    ความยาก : 4/10
    การเก็บคะแนน : งาน, สอบข้อเขียนไฟนอล

    มาต่อที่วิชาวรรณคดีไทยค่ะ วิชานี้ก็ตามชื่อ เรียนวรรณคดีไทยเรื่องที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง เราจะได้อ่านตัวบทเรื่องลิลิตพระลอ ไตรภูมิกถา ขุนช้างขุนแผน มัทนะพาธา รามเกียรติ์และเงาะป่าค่ะ บางเรื่องเราก็จะได้อ่านแค่บางบท แต่บางเรื่องเราก็จะได้อ่านทั้งเล่มกันไปเลย

    เราชอบวิชานี้เพราะเราชอบอ่าน สมัยเรียนม.ปลาย เราได้เรียนวิชาวรรณคดีเหมือนกัน แต่มันจะเน้นจำมากกว่า แต่พอมาเรียนวิชานี้ มันได้อ่านและวิเคราะห์ตัวบทจริง ๆ อาจารย์แต่ละท่านก็สอนสนุกมาก ๆ จนทำให้เราเลือกเรียนวิชาวรรณคดีต่ออีกปีเลยค่ะ (แอบสปอยไว้เลยว่าตอนปี 2 จะมีวิชาบังคับเลือก และวิชาวรรณคดีก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ) 

    ปีนี้ของเราไม่ได้มีทำเปเปอร์ จะเก็บคะแนนจากเรียงความสั้น ๆ ตอนที่เรียนตัวบทแต่ละเรื่องจบ และไปเก็บคะแนนอีกทีตอนสอบไฟนอลทีเดียวค่ะ ต้องบอกว่าอาจารย์ทุกท่านช่วยเรื่องคะแนนเป็นอย่างดี เขียนไปยังไง อาจารย์ก็ให้คะแนนอย่างใจดีที่สุดค่ะ 5555555555

    ความคิดเห็น : เป็นอีกวิชาที่สนุกมาก ไม่ได้เรียนแค่ตัวบทแต่ยังศึกษาบริบทต่าง ๆ ทำให้ได้มองเห็นแนวคิดที่ซ่อนอยู่ในตัวบทที่สะท้อนวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อในสมัยต่าง ๆ ด้วย  เรียนเพลินดีค่ะ

    6. GEN PHI ปรัชญาทั่วไป
    ความยาก : 7/10
    การเก็บคะแนน : สอบข้อเขียนมิดเทอม+ไฟนอล, งานกลุ่ม เซคที่เราเรียนไม่มีเขียนเปเปอร์ค่ะ

    ถึงวิชาบังคับตัวสุดท้ายของเทอม 2 แล้ว ψ(`∇´)ψ วิชานี้เป็นวิชาบังคับเลือก เราสามารถเลือกได้ระหว่างวิชานี้และวิชามนุษย์กับศาสนา (Man and Religion) ตอนนั้นได้ยินมาว่าวิชานี้จะยากแต่การบ้านน้อย ส่วนอีกวิชาจะง่ายกว่าแต่การบ้านเยอะ หนูนิดไม่ชอบทำการบ้าน ก็เลยลงวิชานี้ แต่ที่ไหนได้ ก็มีการบ้านเหมือนเดิมค่ะ 55555555

    เราได้เรียนกับอาจารย์คนเดียวกับวิชาการใช้เหตุผลเมื่อเทอมที่แล้ว เลิฟเลย แอบสังเกตว่าเจอเพื่อน ๆ หน้าคุ้นหลายคน คิดว่าระบบคงจะสุ่มให้มาลงอาจารย์คนเดิมค่ะ วิชานี้เราจะได้เรียนเกี่ยวกับแนวคิดทางปรัชญาที่หลากหลาย เช่น จริยศาสตร์ ญาณวิทยา อภิปรัชญา ปรัชญาสังคม มีการอ่าน text (ทุกอาทิตย์) แล้วมาถกกันในคาบว่าคิดเห็นอย่างไรกับสิ่งนี้ เราจะได้ลองคิดว่าจริง ๆ แนวคิดต่าง ๆ จริง ๆ แล้วมันถูกผิดอย่างไร ตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์สามารถคิดได้หรือไม่ เรามีเจตจำนงเสรีจริงไหม เราควรมีเสรีภาพที่จะเสพยาเสพติดหรือไม่

    นอกจากนี้ที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับเซคเราก็คือ เราได้ดูหนังหลายเรื่องเลยทุกคน T___T อาจารย์จะให้ไปดูหนังหรือซีรีส์และมาถกกันเหมือนเดิม เพื่อนเซคอื่นทำเปเปอร์ เซคเรานั่งดูหนัง 55555555 เราได้ดู The thirteenth floor, Westworld, The mist เพื่อมาหาปรัชญาที่ซ่อนอยู่ในหนัง เอ็นจอยสุด ๆ

    แต่ข้อสอบวิชานี้บอกได้เลยว่าไม่เอ็นจอยละ (~ ̄(OO) ̄)ブ วิชาการใช้เหตุผลยากเท่าไหร่ วิชานี้ก็ยากไม่ต่างกัน โฮ เหมือนเราต้องจำทฤษฎีของนักปรัชญาแต่ละคน และนำเสนอความคิดเห็นของเราให้ได้ว่าเราเห็นด้วยกับแนวคิดของเขาไหม หรือว่าในประเด็นนี้ นักปรัชญาแต่ละคนจะคิดเหมือนหรือต่างกันอย่างไร โหดเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ

    ความคิดเห็น : โดยรวมเรามีความสุขกับการเรียน เพราะอาจารย์สอนดีด้วย แล้วก็มีพาร์ทที่ได้ใช้ความคิด ได้เห็นแง่มุมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมองมาก่อน เราคิดว่าปรัชญาเป็นวิชาที่สอนให้เราหัดคิดให้รอบด้าน เปิดใจให้กว้าง และลองคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินสิ่งสิ่งหนึ่ง เราชอบมากค่ะ

    7. KOREAN WRITING
    ความยาก : 4/10
    การเก็บคะแนน : งานที่สั่งแต่ละอาทิตย์, สอบมิดเทอม+ไฟนอล 

    ตัวสุดท้ายของเทอมนี้เป็นวิชาบังคับเข้าเอกอีกตัวของเรา เราได้เรียนกับอาจารย์คนเกาหลีเป็นครั้งแรกในชีวิต 〒▽〒 ซึ่งข้อดีอย่างแรกเลยคือทักษะการฟังของเราเพิ่มขึ้น 

    เนื้อหาของวิชานี้ก็คือ เราจะได้เรียนการเขียนในหัวข้อต่าง ๆ เช่นเรื่องนักร้องที่ชอบ หรือเรื่องแผนการท่องเที่ยว มันจะเป็นการเขียนที่ไม่ยาวมาก แต่เน้นเรื่องของโครงสร้างและการใช้คำศัพท์ซะมากกว่า อาจารย์ก็จะสอนเกี่ยวกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานั้น ๆ และมีโครงสร้างมาให้ หน้าที่เราก็คือ นำโครงสร้างนั้นไปปรับใช้ในงานเขียนของเรา วิชานี้จะมีสั่งงานทุกอาทิตย์ อาจารย์ก็จะแก้และเขียนฟีดแบคกลับมาให้ค่ะ

    ความคิดเห็น : เราว่ามันก็ดีที่ได้ลองเขียน แต่ว่าการที่ต้องนั่งจำโครงสร้างประโยคเป๊ะ ๆ เพื่อไปสอบ เราว่ามันไม่ได้ช่วยในเรื่องการพัฒนาทักษะมากขนาดนั้น (และทุกคนอาจจะต้องฟังเราบ่นไปอีกหลายเทอมเกี่ยวกับเรื่องนี้ 5555555555 อ่านแล้วก็จุ๊ ๆ ไว้ด้วยนะ)





    จบไปอีกเทอมแล้วนะคะ เย้ ^o^ เทอมสองของทุก ๆ ปีก็จะเป็นช่วงที่เรียนหนักแล้วก็งานเยอะหน่อย แต่ว่าแต่ละวิชาสนุกและเข้มข้นมากค่ะ ตอนปี 1 เนี่ยเราก็จะได้เรียนวิชาคณะเยอะมาก ๆ หากใครอ่านรีวิวของทั้งสองเทอมแล้วรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ฉันตามหา ก็อย่ารอช้า เข้ามาเรียนอักษรได้เลอ 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in