สวัสดีค่า เราชื่อพลอยนะคะ วันนี้เราจะมารีวิววิชาเรียนปี 1 เทอม 1 ของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันค่ะ จริง ๆ เราอยู่ปี 3 แล้ว แต่เพิ่งคิดได้ว่าเอ๊ะ เราควรเขียนรีวิวบ้างนะ ก็เลยเพิ่งจะมาเขียนเอาตอนนี้ 55555555 ความทรงจำอาจจะเลือนรางไปบ้างแต่ก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ☺
เทอมแรกเราเรียน 7 ตัว ซึ่งเป็นวิชาบังคับคณะซะส่วนใหญ่ค่ะ นอกจากนั้นก็จะเป็นวิชาเข้าเอกและวิชาเลือกอื่น ๆ เช่นเจนเอด เจนแลง ซึ่งในส่วนของวิชาเข้าเอก เราจะต้องไปศึกษารายละเอียดว่าเอกที่เราอยากเข้านั้นจะต้องเรียนวิชาไหน และจะต้องทำเกรดให้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดจึงจะได้เข้าเอกค่ะ ตัวเราอยู่เอกเกาหลี ดังนั้นเทอมแรกเลยเรียนวิชาที่ใช้เข้าเอกเกาหลีค่ะ
ต้องบอกไว้ก่อนว่ารุ่นเราเป็นรุ่นที่เรียนออนไลน์สลับกับเรียนออนไซต์ค่ะ ในช่วงปี 1 เทอมแรก โควิดยังไม่ระบาดหนัก เลยได้เรียนออนไซต์บ้าง แต่หลังจากนั้นจนจบปี 2 ก็เรียนเป็นออนไลน์ล้วนและเพิ่งได้กลับมาเรียนที่คณะ 100% ตอนปี 3 นี้เองค่ะ ดังนั้นรายละเอียดการเรียน และการสอบอาจจะต่างกันกับของเพื่อน ๆ ไปบ้างนะคะ
1. EAST CIV อารยธรรมตะวันออก
ความยาก : 6.5/10
การเก็บคะแนน : สอบข้อเขียนมิดเทอม+ไฟนอล
มาที่วิชาแรกกันเลย วิชานี้เป็นวิชาบังคับคณะค่ะ เราจะได้เรียนเกี่ยวกับอารยธรรมต่าง ๆ ตอนที่เราเรียนจะแบ่งออกเป็นอารยธรรม จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแต่ละวิชาก็จะมีอาจารย์ผู้สอนต่างกันค่ะ
เราจะได้ไฟล์หนังสืออารยธรรมตะวันออกมา ซึ่งจะประกอบด้วยเนื้อหาทุกเรื่องครอบคลุม แต่ว่าอาจารย์บางท่านก็จะใช้เอกสารของตัวเองด้วยทำให้วิชานี้เป็นวิชาที่ต้องจดเยอะมาก ๆ ค่ะ ตอนที่เราเรียน ช่วงมิดเทอมจะเรียนจีนและอินเดีย ส่วนไฟนอลจะเรียนญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ
สำหรับเราแล้ว อินเดียและญี่ปุ่นเป็นพาร์ทที่เรียนสนุกและเข้าใจง่าย เนื่องจากอาจารย์สอนคล้าย ๆ ในหนังสือ ตัวข้อสอบก็ไม่ได้พลิกแพลงมากนัก แต่ที่ยากเลยจริง ๆ คือจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ โฮๆๆ อาจารย์ที่สอนพาร์ทอารยธรรมจีนปีเราออกข้อสอบเน้นจำ ที่แปลว่าต้องจำแม้จะทั่งชื่อภรรยาของเหมาเจ๋อตุงเลยค่ะ ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ต้องสารภาพตรงนี้เลยว่า เรียนไม่จบ >﹏< 5555555 ด้วยความที่มันไม่ได้เรียนสด แล้วเนื้อหาในส่วนสุดท้ายนี้ก็เข้าใจยากมาก มีแต่สถิติเต็มไปหมด เราก็เลยเลือกที่จะ เท แล้วสวดมนต์เอาค่ะ ถ้าถามว่ามันยากเบอร์ไหนก็คือตอนพักเที่ยงก่อนที่จะเข้าห้องสอบ แอบได้ยินคนพูดกันในโรงอาหารว่าดูคลิปจบไหม เพื่อนอีกคนตอบว่าไม่จบ ไม่มีใครเรียนจบเลย T___T
ความคิดเห็น : เราว่าวิชานี้เป็นวิชาที่ดีมาก ๆ ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นรากฐานและหัวใจของคณะเราเลย การที่จะเรียนรู้ภาษาและเข้าใจมนุษย์ก็จำเป็นที่จะต้องรู้อารยธรรมและความเป็นมาใช่ไหมคะ วิชานี้เราก็ได้เรียนทุกอย่างตั้งแต่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การเมืองหรือแม้แต่นักปรัชญาเลยค่ะ
2. REASONING การใช้เหตุผล
ความยาก 7/10
การเก็บคะแนน : สอบข้อเขียนมิดเทอม+ไฟนอล, เปเปอร์ 1 ชิ้น
วิชาต่อมาคือวิชาการใช้เหตุผล วิชานี้เขาว่ากันว่า เรียนจบแล้วจะเป็นเด็กอักษรที่แท้จริง ปีเราเรียนแบบแบ่งเซค เราเรียนกับอาจารย์ศิรประภา อาจารย์สอนดีมากๆๆๆๆ แล้วก็ใจดี (ที่สำคัญคือเลี้ยงแมวน่ารัก) เนื้อหายากก็จริงแต่อาจารย์สามารถถ่ายทอดออกมาได้สนุกมาก
ส่วนเราจะได้เรียนอะไรจากวิชานี้บ้าง ก็คือตามชื่อเลย การใช้เหตุผล มันเป็นวิชาที่จะสอนให้เราคิดอย่างมีเหตุผล มีตรรกะ และสอนให้เราตรวจสอบว่าการอ้างเหตุผลที่เราเห็นมันสมเหตุสมผลหรือเปล่า พูดง่าย ๆ ก็คือสอนเพื่อให้เรามีวิจารณญาณในการรับข่าวสารนั่นเองค่ะ
เรียนวิชานี้เหมือนย้อนกลับไปเรียนคณิตศาสตร์ม.ปลายนิด ๆ 5555555 เพราะเราจะได้เรียนตรรกวิทยาประพจน์ พวก A-->B, A^B แล้วก็เรียนเรื่องตรรกวิบัติประเภทต่าง ๆ มีบทความจากอินเตอร์เน็ตมาให้อ่านแล้วให้ระบุว่าบทความนี้มีข้อบกพร่องในการอ้างเหตุผลยังไง เป็นต้นค่ะ
ส่วนของเปเปอร์เดี่ยว จะมี 1 ชิ้น ทำเกี่ยวกับอะไรก็ได้ แต่จะต้องมีทั้งข้อสนับสนุนและข้อโต้แย้ง รวมถึงเราต้องตอบกลับข้อโต้แย้งนั้นด้วย ของเราทำเกี่ยวกับเรื่องประเทศไทยควรสนับสนุนให้มีการสมรสเท่าเทียมหรือไม่ เราก็ไปหาข้อมูลมาว่าทำไมถึงควร และคนที่ไม่เห็นด้วยเขาให้เหตุผลว่าอะไร ประมาณนี้ค่ะ
ความคิดเห็น : เป็นวิชาที่เรียนสนุก แล้วก็อาจารย์สอนดีจริง ๆ คือไม่ได้ A ก็ไม่โกรธอาจารย์เลย เพราะความผิดมันอยู่ที่เราไม่ฉลาดเอง ไม่ใช่เพราะอาจารย์สอนไม่ดี 55555555
3. USE THAI LANG การใช้ภาษาไทย
ความยาก : ใช้ความรู้ภาษาไทยที่มีอยู่แล้วได้เลย
การเก็บคะแนน : สอบข้อเขียนมิดเทอม+ไฟนอล, งานกลุ่ม
วิชานี้เป็นวิชาบังคับคณะที่เรียนสบายที่สุดแล้วสำหรับเรา เพราะว่าตามชื่อเลยคือเป็นวิชาการใช้ภาษาไทย เพิ่มพูนทักษะภาษาไทยที่มีอยู่เดิมอยู่แล้วของเรา เราจะได้เรียนเนื้อหาเช่น การอ่านจับใจความ การย่อความ การเขียนย่อหน้า การพูดเชิงวิชาการ การอ่านเรื่องสั้น การเรียนแต่ละครั้งก็จะมีแบบฝึกหัดให้ฝึกทำในห้อง
มีงานกลุ่ม 1 ครั้งตอนที่เรียนเรื่องการพูดเชิงวิชาการ ก็จับกลุ่ม แล้วอาจารย์ก็จะมีธีมมาให้ ให้ไปหาข้อมูลและนำมาพรีเซนต์หน้าห้อง
ความคิดเห็น : วิชานี้ออกแนวคล้าย ๆ 9 สามัญ (แก่มาก สมัยนี้เป็น A-Level แล้วใช่ไหม (┬┬﹏┬┬)) อยู่เหมือนกัน ถ้าใครมีทักษะภาษาไทยอยู่แล้ว ทบทวนนิดหน่อยก็เรียนได้สบาย ข้อสอบก็เป็น unseen อยู่แล้ว เตรียมตัวไม่ได้ ทางเราก็เป็นอีกคนที่เอาชีวิตรอดมาได้ด้วยการกินบุญเก่า 55555555
4. ENGLISH I
ความยาก 6/10
การเก็บคะแนน : สอบข้อเขียนมิดเทอม+ไฟนอล, สอบเขียน paragraph, สอบพูด, ควิซเล็ก ๆ ในคาบ, โปรเจคต์ไฟนอล ตัดเกรดสูง อิงทั้งเกณฑ์ทั้งกลุ่ม
แค่ได้ยินชื่อก็ *ขนลุก* วิชานี้เราจะได้เรียนทักษะภาษาอังกฤษทุกอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นการฟัง พูด อ่าน เขียน แต่ก็จะเน้นไปทางเขียนและอ่านซะส่วนใหญ่ เนื้อหาที่เอามาให้เรียนมันค่อนข้างเข้มข้น เป็นวิชาที่วัดกันไปเลยว่าสกิลภาษาอังกฤษของเราจริง ๆ แล้วอยู่ในระดับไหน
เราเรียนเซคอาจารย์ไมเคิล (Michael C.) หนึ่งในตัวท็อปภาคอิ้ง เป็นอาจารย์ที่เรารักมากคนหนึ่ง (★‿★) แกเป็นครูที่อุทิศตัวให้ลูุกศิษย์ (และแมว) แบบ 100000% งานอะไรตรวจเร็วหมด ตั้งใจให้ฟีดแบคทุกครั้ง แล้วก็จะพยายามให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในคลาส แต่แกจะชอบโพสต์งานใน google classroom ตอนดึก ๆ แล้วโพสต์จุกจิกมาก นักเรียนก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง แต่แกก็ไม่ว่าอะไร งานนึงที่เราชอบคือ song of the week ทุกอาทิตย์แกก็จะไปหาเพลงมาให้เราฟัง แล้วก็ให้ตอบคำถามเกี่ยวกับเพลงนั้น สนุกดี
เราจะแบ่งเป็นพาร์ท ๆ เลยแล้วกันว่าเรียนยังไงบ้าง
พาร์ทเขียน : เราจะได้เรียนเขียนพารากราฟสองชนิด ก็จะมีงานให้ทำ แล้วก็จะได้ฟีดแบคกลับมา แล้วรู้สึกว่าตัวเองพัฒนาขึ้นจริง ๆ ตอนเรียน ENGLISH I น่ะยังไม่ค่อยเป็น แต่ตอนไปเรียน ENGLISH II เราโดนอาจารย์ชมว่า อาจารย์เทอมที่แล้วสอนมาดีจริง ๆ 555555555
พาร์ทอ่าน : อ่านเยอะมากกกกก ในข้อสอบ พาร์ทที่เราช็อกที่สุดก็คือ Reading เพราะคำศัพท์เอยอะไรเอยมันยากกว่าสมัยเรียนม.ปลายมาก ๆ วิชานี้จะมีหนังสือนอกเวลา 1 เล่ม ก็จะได้อ่านแล้วไปดิสคัสตอนสอบไฟนอลค่ะ
พาร์ทฟัง+พูด : มีสอบฟังแล้วก็พูดด้วย เหมือนจำได้ว่าสอบพูดมากกว่า 1 รอบ ಥ_ಥ เริ่มตั้งแต่คุยทำความรู้จักกับอาจารย์ตัวต่อตัว มีฟัง TED Talks แล้วไปสอบ อ่านหนังสือนอกเวลาแล้วไปสอบ แล้วก็มีให้อ่านบทความแล้วไปสอบอีก เรียกได้ว่า ตุยค่ะ
พาร์ทโปรเจคต์ไฟนอล : ปีเรา เขาจะโคกันระหว่าง 2 เซค ลักษณะงานก็แล้วแต่เซคเลย ของเราเขาให้เด็กจับกลุ่มกัน แล้วเลือกหนังสือมา 1 เล่ม จากนั้นก็เขียนพารากราฟ 2 อัน ทำ presentation ทำเกม แล้วก็มีไปสอบดิสคัสกับอาจารย์เรื่องหนังสือด้วยค่ะ (จริง ๆ คะแนนมันนิดเดียวแต่คืองานเซคผมเว่อมาก)
ความคิดเห็น : วิชานี้ทำให้เราเก่งอังกฤษขึ้นจริง ๆ แล้วเรียนเซคนี้เราก็แฮปปี้มาก ๆ ถึงจะไม่ได้ A 555555555 เราได้เพื่อนใหม่มาเยอะแล้วก็ได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ สนุกมาก ๆๆๆ
5. RES COMP ทักษะการค้นคว้าและการใช้คอมพิวเตอร์
ความยาก 1/10
การเก็บคะแนน : งานกลุ่ม, คะแนนการบ้าน, essay ปลายภาค
วิชาบังคับตัวสุดท้ายของเทอม ตั้งใจเก็บไว้สุดท้ายเพราะไม่ค่อยชอบวิชานี้เท่าไหร่ ( ̄y▽, ̄)╭ ด้วยความที่เราเคยเรียนวิชาที่คล้ายกันมาแล้วตอนม.ปลายทำให้มันไม่แปลกใหม่แล้ว วิชานี้จะสอนเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ วิธีการค้นคว้า การทำรายงาน การเขียนอ้างอิง คะแนนมาจากการทำงานล้วน ๆ ดังนั้นถ้าคิดงานออก เขียนอ้างอิงถูก ก็ได้ A ไปง่าย ๆ เลยค่ะ
งานกลุ่มจำได้ว่าทำนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวกับการค้นคว้าและการใช้คอมพิวเตอร์ ส่วนความเรียงปลายภาค อาจารย์ก็จะมีหัวข้อใหญ่ ๆ มาให้เลือก เราก็เขียนงานอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับหัวข้อนั้นของเรา เราเลือกทำเกี่ยวกับสิทธิส่วนบุคคลในโลกออนไลน์ค่ะ แก้งานจนวินาทีสุดท้าย ทักไปถามอาจารย์ตอนตีสอง อาจารย์ถามหนูไม่นอนเหรอ ไม่มีสอบพรุ่งนี้เหรอลูก (แต่อาจารย์ก็ยังไม่นอนเหมือนกันนะคะ ?)
ความคิดเห็น : เราว่าเรื่องการเขียนอ้างอิงมีประโยชน์มากจริง ๆ ค่ะ เพราะเราจะได้ใช้ความรู้นี้ไปจนจบปี 4 นู่น ทุกวันนี้ก็ยังเก็บชีทกับสไลด์ที่อาจารย์ให้ แล้วเปิดดูตอนทำเปเปอร์อยู่เลยค่ะ เพราะมันครบถ้วนมากจริง ๆ แต่ก็นั่นแหละ ตอนเรียนมันอาจจะน่าเบื่อนิดหน่อยค่ะ
6. KOREAN READING
ความยาก : 2/10
การเก็บคะแนน : ทำงานล้วน ไม่มีสอบ
วิชาเข้าเอกตัวแรกของเรา ตอนแรกเราเห็นชื่อวิชาก็เข้าใจว่าจะได้อ่านบทความภาษาเกาหลี แล้วมาตอบคำถามอะไรแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ (´。_。`) อาจารย์จะเอาบทความหลายแบบมาให้ดูทั้งเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี สุขภาพ บันเทิง สิ่งแวดล้อม แต่ตอนเรียนก็คืออาจารย์อ่านให้ฟัง แปลให้ฟัง แล้วก็หา main idea เฉย ๆ ค่ะ ฮือ
วิธีการเก็บคะแนนก็คือให้เราไปหาบทความหรือข่าวมา จากนั้นก็แปล และเขียนความคิดเห็นของเราลงไปว่าเราคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ แล้วก็มีทำสไลด์นำเสนอเล็กน้อยค่ะ
ความคิดเห็น : เราคิดว่าเป็นวิชาที่เก็บ A ได้ง่ายเพราะไม่มีสอบ ส่วนเนื้อหา คำศัพท์ยากนิดหน่อยแต่อาจารย์ก็แปลให้ฟังอยู่แล้ว โดยรวมเลยไม่ค่อยยากเท่าไหร่ค่ะ
7. FOOD FOR HEALTH
ความยาก : 2/10
การเก็บคะแนน : ควิซ, งานกลุ่ม, สอบ
วิชาสุดท้ายของเทอมนี้ที่เราเรียนคือเจนเอดหมวดสหศาสตร์ ของคณะเภสัชค่ะ เราแนะนำมาก ๆ สำหรับคนที่ตามหาวิชาที่ให้คะแนนง่าย แล้วก็เนื้อหาน่าสนใจ เราจะได้เรียนเกี่ยวกับอาหาร ทั้งเรื่องวิตามิน แร่ธาตุประเภทต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์จากนม อาหารเสริม ระบบย่อยอาหาร
วิชานี้จะให้คะแนนง่ายแต่งานจุกจิกค่ะ เริ่มจากเราต้องเข้าเรียนทุกครั้งเพราะเขาจะมีควิซ ซึ่งอาจจะอยู่ตอนกลางคาบหรือท้าบคาบก็ได้ จะนับเป็นคะแนนเข้าเรียนค่ะ แต่ควิซแต่ละครั้งไม่ยากเลย อ่านสไลด์เอาก็สามารถตอบได้หมดค่ะ ส่วนงานกลุ่ม เราก็จะได้จับกับเพื่อนต่างคณะ ของปีเราเป็นหาข้อมูลแล้วก็ทำแผ่นพับส่งค่ะ
ความคิดเห็น : แนะนำสำหรับคนที่ถนัดจำค่ะ เพราะว่าตอนสอบก็คือถามตรง ๆ ตามสไลด์เลย ปีเราที่เรียนออนไลน์ ได้สอบแบบ open book ก็สบายไปค่ะ ส่วนเนื้อหาเราว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัว (ใครจะไม่ชอบของกินล่ะ) เลยเรียนได้สนุกแล้วก็ไม่น่าเบื่อค่ะ
ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ ლ(╹◡╹ლ) จบปี 1 เทอม 1 ไปเรียบร้อย หวังว่าเพื่อน ๆ จะชอบรีวิวกัน ส่วนใครที่เข้ามาอ่านเพราะอยากเข้าอักษร ก็หวังว่าจะได้เห็นภาพการเรียนการสอนมากขึ้นนะคะ เราจะทยอยเขียนรีวิวของเทอมต่อ ๆ ไป หากใครสนใจก็สามารถรอติดตามกันได้นะคะ ส่วนวันนี้ก็ บุ๊ยบุย
คือว่างตอนนี้หนูเรียนอยู่ม.6ค่ะ และสนใจคณะอักษรศาสตร์ สาขาใหม่นี้มากเลยค่ะ (แอบอยากให้ติดจริงๆนะคะ ถึงจะมีผลงานวิจารณ์วรรณกรรมแค่ครั้งเดียวก็ตาม) เลยอยากจะรู้ไว้น่ะค่ะ TT = ^^