“เรามาทำบทความด้านมืดที่เกี่ยวกับวงการทำงานของเราไหม?"
“เออน่าสนใจน่ะ”
บทสนทนาระหว่างเรากับเพื่อนขณะเป็นเสมียนที่เกิดขึ้นหลังจากไปติดต่อองค์กรแห่งหนึ่งแล้วได้รับการปฏิบัติจากพนักงานที่ไม่น่ารักเท่าใดนัก แน่นอนว่าทุกอย่างเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ มันจึงปะปนไปด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่สุดท้ายด้วยงานเยอะประกอบกับมีความกังวลต่าง ๆ เช่นทำแล้วจะเผยแพร่ได้จริงหรือ ถ้าทำเป็นเพียงไดอารี่ส่วนตัวรอวันที่เผยแพร่ได้มันก็ไม่มีกำลังมากพอที่จะทำเลย เพราะหากเป็นแบบนี้ทุกขณะที่ทำจะคิดเสมอว่าทำแล้วไม่ได้เผยแพร่จะทำไปทำไม กับอีกชะงักติดหลังคือ เป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ “หมิ่นประมาท” เรื่องนี้อีกแล้วที่ตีกรอบเราในการสร้างบันทึกประสบการณ์การพบเจอการเลือกปฏิบัติหรือประสบการณ์การเจอผู้คนที่หลากหลายน่าจดจำ น่าเล่าสู่กันฟัง มันเป็นอะไรที่ต้องมาตีความน่ารำคาญ
สุดท้ายความคิดนี้ก็ถูกพับเก็บไป
อย่างไรก็ตามก็ยังคงวนเวียนอยู่เรื่อยมาไม่อาจตัดทิ้งไปได้
-- นี่ก็ปีกว่าแล้ว --
ตอนบันทึก เราออกมาทำงานอย่างอื่นแล้ว ตอนออกมาเราคิดว่าความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและความคิดจะทำบทความอะไรแบบนี้คงจะจางลง แต่ไม่เลย ออกมาแล้วก็ยังอยากทำอีก ต่อให้บางเรื่องราวเวลาผ่านไปนานจนเกือบจะเลือนรางแล้วก็ตามสุดท้ายจึงตัดสินใจลองทำดูสักครั้งเป็นการบันทึกความทรงจำในอดีตขณะที่ตัวเองฝึกงานในฐานะเสมียน
ทั้งนี้ ก็เพียงแต่ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาว่าตัวเรามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างจากการพบเจอเรื่องราวเหล่านี้
ขอบคุณเพื่อนที่ร่วมน้อยเนื้อต่ำใจและเสนอความคิดที่จะทำบทความด้านมืดแต่มืดไปก็คงจะไม่มีใครเห็น เอาเป็นว่า เจือสีขาวให้มันเทา ๆ หน่อยโดยการเบลอชื่อแล้วแต่งเติมไปหน่อยก็แล้วกัน
บางเรื่องอาจถูกปรุงแต่งด้วยภาษาและความทรงจำที่เลือนรางมันจึงกลายเป็นข้อเท็จจริงที่อาจเป็นจริงหรือเท็จก็ได้
หากผู้อ่านหรือแม้แต่เราเองมาอ่านก็ขอให้ใช้วิจารณญาณเป็นสำคัญ
ต่อไปจะแทนตัวเราว่า "ผู้บันทึก"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in